วิธีการทำธุรกิจห้องเช่าให้ประสบความสำเร็จ

บริหารธุรกิจห้องเช่าอย่างไรให้อยู่รอด

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นหนึ่งในประเภทธุรกิจห้องเช่า กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน ซึ่งไม่เพียงแต่ธุรกิจห้องเช่าเท่านั้น หากแต่ยังมี คอนโด หอพัก อพาร์ทเม้นท์ บ้านมือสอง ฯลฯ ที่ผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่ามีห้องแค่เพียงห้องเดียว ก็สามารถทำเงินได้แบบไม่ต้องลงทุนอะไร ประมาณว่าเป็นเสือนอนกิน พอถึงสิ้นเดือนก็รอรับทรัพย์อย่างเดียว ยิ่งใครที่มีธุรกิจห้องเช่า หลายห้อง มีบ้านให้เช่าหลายหลัง ประกอบกับทำดี ผู้เช่าพอใจ ก็จะทำให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น และมีการเช่าในระยะยาว ทำให้หลายๆคน เล็งเห็นกำไรที่จะเกิดในอนาคต จนเป็นเหตุให้ใครอีกหลายๆ คนมักจะซื้อห้องเปล่าไว้สำหรับปล่อยเช่า การทำธุรกิจห้องเช่าจะต้องมีการศึกษาทั้งข้อดี ข้อเสีย ก่อนที่จะเริ่มลงทุน รวมถึงการบริหารจัดการ เพื่อที่จะได้เป็นการลงทุนที่มีผลกำไรแบบระยะยาว

การเริ่มต้นคิดก่อนทำธุรกิจห้องเช่า

หากใครที่จะทำธุรกิจห้องเช่า อาจจะกำลังคิดไว้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไรดี และจะต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ ต้องบริหารจัดการอย่างไร หากทำไปแล้วจะคุ้มไหม และต้องเสียภาษีเท่าไร เรียกว่าเป็นคำถามสารพัดที่วนเวียนในหัว ดังนั้นการทำธุรกิจห้องเช่า จะต้องทำการศึกษาข้อมูลให้เข้าใจเสียก่อน หากคุณมีเพียงแค่ห้องเดียว ก็อาจจะไม่ยุ่งยากอะไร เพราะเพียงแค่ทำสัญญาเช่า ก็จบ ส่วนใครที่คิดจะทำเป็นธุรกิจห้องเช่าแบบเป็นกิจจะลักษณะ ที่อาจเริ่มตั้งแต่การสร้างตึก การวางแปลน จัดห้อง แบ่งชั้น รวมถึงการจัดสวนหรือทำบริเวณโดยรอบให้น่าอยู่และปลอดภัย

ธุรกิจห้องเช่ากับบริการเสริม

ธุรกิจห้องเช่ามีการให้บริการเพิ่มขึ้นมาก คนที่มีธุรกิจห้องเช่า แล้วมาทำเซอร์วิสเสริมขึ้นไป ซึ่งกลายเป็นว่าการบริการเป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าของธุรกิจห้องเช่าประสบผลสำเร็จ เพราะปัจจุบันมีธุรกิจห้องเช่า มากมายที่มีการแข่งขันกันหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องการทำเล เรื่องราคา รวมถึงการบริการของธุรกิจห้องเช่า เพราะหากบริการหรือในส่วนกลางไม่ดี ก็อาจทำให้ผู้เช่าตัดสินใจย้ายออกได้ และอาจมีการแชร์ต่อๆ กันไป ถึงข้อเสียหลายๆ อย่าง ที่อาจทำให้เสียชื่อเสียง

ความแตกต่างของการทำธุรกิจห้องเช่า

เพราะในปัจจุบัน มีการเปิดธุรกิจห้องเช่ากันมาก ทำให้ผู้ที่กำลังจะเปิดธุรกิจประเภทนี้ต้องหาข้อแตกต่างในการทำธุรกิจห้องเช่า ด้วยการเพิ่มเซอร์วิสห้องเช่าที่แตกต่างจากที่อื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าเกิดการประทับใจ โดยในการเริ่มต้นการลงทุน ผู้ประกอบ การ จะต้องกำหนดกลุ่มหรือเป้าหมายลูกค้า โดยคำนึงว่า จะหาลูกค้าจากไหน และลูกค้าคือใคร ที่สำคัญจะต้องมาดูว่าการทำเลที่ตั้งของคุณเหมาะสมหรือไม่ นอกเหนือจากนี้คุณยังต้องมองไปให้ไกลอีกว่า จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในอนาคตต่อไปหรือไม่ เพื่อที่จะได้กำหนดทิศทางการลงทุนและต้องเป็นลูกค้าที่คุณสามารถมองเห็นอยู่แล้ว ว่ามีอยู่จริงจะได้ทำให้มันใจในการที่จะก่อสร้างเพื่อทำเป็นธุรกิจห้องเช่าขึ้นมา

สำรวจตลาดก่อนเปิดธุรกิจห้องเช่า

นอกเหนือจากการมองกลุ่มเป้าหมายแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ต้องมองว่าในย่านที่คุณจะก่อสร้างเพื่อทำธุรกิจห้องเช่านั้น ซึ่งคุณอาจจะได้เนื้อที่ในการทำเล ใกล้กับแหล่งชุมชนก็จริง แต่ก็อาจจะมีธุรกิจห้องเช่า ที่ทำอยู่ก่อนหน้านั้น ซึ่งก็เปรียบเสมือนมีคู่แข่ง และทำให้คุณต้องมาคิดว่าจะสร้างความแตกต่างในการทำธุรกิจห้องเช่าให้เกิดขึ้นอย่างไรและจะทำให้โครงการประสบความสำเร็จได้หรือไม่ รวมถึงการเดินทางโดยสะดวกสบาย การรักษาความปลอดภัยที่ดี ซึ่งนอกเหนือจากนี้ยังอาจเพิ่มเซอร์วิสห้องพักให้กับลูกค้าเพื่อให้เกิดความประทับใจ อย่างกรณีธุรกิจห้องเช่าอยู่ท้ายซอย อาจจะชดเชยด้วยการบริการรถรับส่ง ในช่วงกลางคืนเพื่อให้ผู้เช่ามีความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นจุดที่สามารถแก้ไขความไม่สะดวกสบายได้

การจดทะเบียนการทำธุรกิจห้องเช่า

การจดทะเบียนสำหรับการทำธุรกิจห้องเช่า จะต้องมีหลักฐานที่บ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นผู้เช่าหรืออาจจะครอบครองโดยกรรมสิทธิ์ ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือ อาจจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน รวมถึงตัวอาคาร ก็สามารถทำการจดทะเบียนธุรกิจห้องเช่าได้ แต่หากไปทำธุรกิจห้องเช่าในที่ดินสาธารณะ และจะมาจดทะเบียนห้องเช่าถ้าเป็นการเช่า อาจจะไม่สามารถทำได้ แต่ในความเป็นจริง กฎหมายธุรกิจห้องเช่าเป็นกฎหมายของสังคม สาธารณ และบริการตามกฎหมายการปกครอง หากเจ้าหน้าที่ไม่จดทะเบียนให้ ก็สามารถฟ้องได้

ต้นทุนในการดำเนินการธุรกิจห้องเช่า

การทำธุรกิจห้องเช่าซึ่งหากมีการก่อสร้างอยู่ในย่านใจกลางเมือง ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ หรือมีรสนิยมสูง ซึ่งเข้าของธุรกิจห้องเช่า จะได้อัตราค่าเช่าที่สูง เดือนหนึ่งเป็นหลักแสน และลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ค่อนข้างดี ประมาณว่าที่พักหรูเหมือนโรงแรม 5 ดาว แต่ราคาถูกกว่า ซึ่งค่าออกแบบในการทำธุรกิจห้องเช่าระดับหรูๆจะต้องคำนึงถึง ค่าก่อสร้างตัวอาคาร การตกแต่งภายในรวมเฟอร์นิเจอร์ สำหรับคนทำงานอาจมีการตกแต่งไม่หรูมาก สำหรับลูกค้าที่มีรายได้ไม่สูงมาจะไม่เน้นการดีไซด์ที่หรูแต่ทำให้ดูดี และมีการใช้วัสดุที่ทนทาน

สรุป

การที่จะดำเนินธุรกิจห้องเช่าให้ประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องมองเรื่องการตลาด การขาย การหาลูกค้าใหม่ๆ พร้อมกับการพัฒนาการบริการให้ลูกค้าเก่าเกิดความประทับใจซึ่งจะต้องอาศัยสิ่ง และหมั่นดูแลสถานที่ให้มีอยู่ในสภาพที่ดี สะอาดและทันสมัยอยู่เสมอ รวมถึงระบบเข้า ออกและรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุร้าย การลงทุนธุรกิจห้องเช่าจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

error: Content is protected !!