ในเมื่อมีการเกิดขึ้นของ Demand ย่อมมีการเกิดขึ้น Supply ตามมาด้วยบนพื้นฐานของหลักเศรษฐศาสตร์สากลที่เข้าใจ และคำสองคำนี้ที่เข้ามาขับเคลื่อนวงล้อของธุรกิจได้ทุกแวดวง และการเพิ่มมากขึ้นของตามต้องการ เมื่อมีคนต้องสินค้ามากมาย สินค้าก็ย่อมจะถูกผลิตและนำมาขายมากมายเช่นกัน เมื่อนำข้อมูลส่วนนี้มาผูกโยงกับกลไกการตลาดในเรื่องของการแบ่งกลุ่มลูกค้านั้น ความต้องการที่ปล่อยสินค้าให้ได้มาก ให้ได้เยอะตามความต้องการ หรือ ตาม Demand ของคนทุกกลุ่มนั้นถูกเรียกว่าการแบ่งกลุ่มการตลาด “Mass Marketing”
การตลาดกลุ่มรวมอย่าง ”Mass Marketing” นั่นคือการผลักดันและใช้กลยุทธ์การผลิตภัณฑ์แบบไม่แตกต่างกัน คือเน้นการผลิตจำนวนมาก และขายให้กับลูกค้าทุกคนเหมือนกัน ถือได้ว่าไม่มีการแบ่งส่วนตลาดเลย ตัวอย่างเช่น รองเท้ายี่ห้อนันยาง ที่ผลิตรองเท้าแบบเดียว
สำหรับลูกค้าทุกกลุ่มโดยอาจจะเปลี่ยนเพียงแค่สีสันเท่านั้น โดยรวมไม่ว่า ลักษณะและรูปแบบการใช้งานก็ยังคงเหมือนเดิม ในรูปแบบเดิม และแนวทางการตลาดเช่นนี้อาจจะเคยได้รับนิยมมาพอสมควรในอดีตซึ่งค่อนข้างจะจำกัดรูปแบบของสินค้าและบริการอยู่มากพอสมควร แต่สำหรับในยุคใหม่เช่นนี้การทำการตลาดวงกว้างเช่นนี้นับว่าเป็นการที่เลือกที่จะแบกรับความเสี่ยงเอาไว้ในมือเช่นเดียวกัน ย่อมเป็นที่แน่นอนว่า “ความต้องการของคนที่ต่างกัน ก็มาจากพื้นฐานของคนที่กัน” ความแตกต่างในแง่ของการใช้ชีวิต ช่วงอายุ หรือแม้กระหลักการทางความคิดนั้น อาจจะมาเป็นปัจจัยและตัวแปรของการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะส่งสินค้าหรือบริการเข้าไปให้
การเลือกที่จะเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ องค์กรอาจจะต้องเสี่ยงกับการรับมือของเหล่าคู่แข่งในมากมายหลายกลุ่ม หากลองจินตนาการตามดูว่า หากเราเลือกที่จะยืนบนตลาดเช่นนี้นั้นละก็เปรียบเหมือนกับว่า “หากเลือกแบ่งโดนัทหนึ่งกล่องที่มีหลากหลายรสออกตามรสชาติของมัน คนที่ชอบกินโดนัทรสวานิลาก็จะไปแย่งกันในส่วนของวานิลา คนที่ชอบรสช็อคโกแลตก็จะไปแย่งชิงกันในส่วนของช๊อคโกแลต แต่หากมีใครต้องการจะกินต้องรสชาติแล้วละก็จะต้องแย่งยิงกับคนทั้งสองกลุ่ม” แนวคิดแบบง่ายเช่นนี้จะแสดงให้เห็นว่าการลงแข่งบนตลาดที่มีความหลากหลายนั้น หากสินค้าและบริการไม่สามารถตอบสนามได้ทุกกลุ่มแต่ก็ยังนำเสนอไปยังคนทุกกลุ่มอย่าง Mass Marketing แล้วละก็การที่จะเข้าไปสู่กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้บริโภคนั้นจะมีตัวเลขที่เล็กน้อยเพียงเท่านั้น
จากข้อมูลและหลากหลายประเด็นที่หยิบยกมาอธิบายนั้น อาจจะดูเหมือนการทำการตลาดแบบนี้จะไม่เป็นประโยชน์มากนัก ถึงแม้ว่านักการตลาดส่วนใหญ่จะไม่แนะนำในวิธีการลุยตลาด “Mass Marketing” เช่นนี้แต่ก็นับว่ามีผลดีอยู่บ้างในรูปของการสร้างสรรค์สินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนทั่วไปได้นั่นเอง หากทำเช่นนั้นได้ก็นับว่ายังมีเปอร์เซ็นที่ยังสามารถประสบความสำเร็จในตลาดเช่นนี้ได้