ปัจจุบันครอบครัวของคนชั้นกลางในเมืองต่าง ๆ รวมถึงกรุงเทพต่างตระหนักถึงคุณค่าการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็ก คือลูกหลานของเขา เพราะได้ประโยชน์หลายประการคือ การอบรมเด็ก ๆ ให้มีสมาธิดี มีความละเอียดอ่อน และการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ทางสร้างสรรค์ นอกจากนั้นยังเป็นการเสริมทัศนะในการใช้นิ้วมือประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ส่วนพ่อแม่ก็ได้ประโยชน์ทางอ้อมคือ มีเวลาว่างลำหรับตัวเองได้มากขึ้น
โรงเรียนสอนศิลปะสำหรับเด็ก ๆ อาจตั้งขึ้นจากการรวมตัวของผู้ที่จบจากวิชาชีพครู หรือช่างศิลป๋ที่ยังไม่มีงานทำ หรืออาจเป็นรายได้เสริมของร้านทำป้าย หรือสตูดิโอวาดภาพก็ได้ แต่เพื่อให้เด็กไม่เบื่อควรเน้นบรรยากาศร้าน และตารางสอนให้เกิดความสนุก และมีความหลากหลาย เช่น การร่วมทำงานกับเพื่อนในระดับอายุใกล้เคียงกัน ซึ่งควรแบ่งแยกคล้ายชั้นเรียนในโรงเรียนชั้นประถมทั่ว ๆ ไป
กลุ่มลูกค้า
กลุ่มลูกค้า คือ พ่อแม่ที่มีลูกอยู่ในระดับอายุ 5 – 14 ปี และมีเวลาในช่วงปิดเทอม อาจเปิดสอนในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ และแถมวันหยุดตามประเพณี ส่วนตอนหยุดปิดเทอมก็ทำเป็นคอร์สยาวๆ 1 -2 เดีอนได้เลย หรืออาจทำเป็นลักษณะค่ายเยาวชนในต่างจังหวัดก็ได้ นอกจากเงื่อนไขเวลาแล้วน่าจะเป็นเรื่องสถานที่ซึ่งควรเกาะติดอยู่กับศูนย์การค้าเพื่อสะดวกในการจอดรถ การนัดพบของครอบครัว และบริการเสริมต่าง ๆ เช่น พ่อแม่สามารถซี้อของรับประทานอาหาร หรีอดัดผมเสริมสวยระหว่างรอรับลูก ๆ เป็นด้น
การหาที่ตั้งทำเล ควรทำในบริเวณแถบหน้าโรงเรียน ถ้าอยู่ในที่ชุมชนก็อาจทำเป็นใบปลิวให้เด็กแจกตามรถโดยมุ่งกลุ่มพ่อแม่ที่มีลูกในวัยเรียนกลุ่มเป้าหมาย หรืออาจจะติดต่อฝานโรงเรียนก็ย่อมได้คือจัดเป็นกิจกรรมหลังเลิกเรียนมีสถานที่สอนอยู่ใกล้ ๆ
โรงเรียนชั้นประถมดัง ๆ ในเขตเมืองใหญ่ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยครั้งแรก ๆ อาจทำเป็นชั้นเล็กก่อน รับ 5-7 คนแล้วค่อย ๆ ขยายได้ถึงชั้นเรียนละ 20 คนต่อครู 1 คน เด็กจะได้รับการดูแลให้สนุกรวมถึงแรงจูงใจก็คือการให้คะแนนและยกย่องผู้มีความสามารถ เช่น สอนให้เป็นดาว 1-4 ดวงหรือการแจกรางวัลผู้มา เรียนสม่ำเสมอ หรือมีการประกวดผลงานสำหรับเด็กนักเรียนที่มีฝีมือก็ย่อมได้
ปัญหาและโอกาสทางธุรกิจ
ปัญหาแรกก็คือสถานที่ และทำเลที่เหมาะสม ควรมีอยู่แล้ว มากกว่าลงทุนแพง ๆ และต่อมาก็คือความถนัดของผู้ร่วมทุนเปิดสอน ซึ่งควรมีวิชาครู และความรู้ความชำนาญด้านศิลป๋อยู่บ้าง ส่วนคุณภาพการสอนสูงหรือต่ำตามค่าเล่าเรียนซึ่งต้องดูให้ใต้คุณค่า การหาเด็กมาเรียนก็ต้องค่อย ๆ สร้างแรงปากต่อปาก อย่าเล็งผลเลิศโดยลงทุนมือหนักแบบจมทุน หรือเสียค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์เกินควรในระยะแรก
ข้อควรคำนึงต่อมาก็คือเทคนิคในการจัดเวลาให้สะดวกทั้งผู้ปกครองและเด็กในการมาส่งและรับกลับบ้าน เช่น ไม่ควรไปเช้าเกินไปในวันหยุด หรือเลิกดึกเกินไปในวันธรรมดา หรือมีชั่วโมงยาวจนเกินไป เด็กจะเหนื่อยหรือหิวและไม่อยากมาเรียน
โอกาสในการขยายสินค้าอื่น ๆ ที่ส่งเสริมคุณภาพเยาวชนแต่ต้องทำให้แนบเนียน ไม่ดูเป็นการค้าไปเสียหมดเช่น การขายเครื่องเขียนต่าง ๆ หรือแบบฝึกหัดทักษะต่าง ๆ เพื่อเอาไปฝึกต่อที่บ้าน หรือการขายหนังสือ และของเล่นแบบเสริมการศึกษา ถ้าธุรกิจเริ่มเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว อาจต้องดูแลเรื่องการขออนุญาตเป็นโรงเรียนเสียให้ถูกต้อง รวมทั้งเรื่องใบอนุญาตประกอบการค้า ถ้าคุณโชคดีอาจรวบรวมกลุ่มเพื่อน หรือชักชวนผู้มีตึกแถวในทำเลดี ๆ ที่ปล่อยชั้นบนไว้ให้อย่างไม่คุ้มค่า เปิดขยายเป็นหลายชั้นก็ไต้ตามย่านชุมชนทุกแห่ง รายการนี้เป็นโอกาสเหมาะสำหรับบัณฑิตว่างงานมากทีเดียวในการไต่เต้าไปเป็นเจ้าของกิจการธุรกิจของตนเองไม่ต้องเป็นลูกจ้างเขา