วิธีปลูกมะนาว พร้อมคำแนะนำในการขายมะนาว

สำหรับในบทความนี้ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมะนาวครับ ว่ามะนาวปลูกยังไง และเอาไปขายเป็นอาชีพอย่างไรได้บ้าง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่จะเอามะนาวไปขายนะครับ เพราะในประเทศไทยมีการขายมะนาวกันแทบจะทุกตลาดนัดก็ว่าได้ ด้วยเหตุผลนี้การขายมะนาวจึงยังขายได้เรื่อยๆ ไม่ค่อยขาดทุนครับ

ข้อมูลทั่วไปของมะนาว

มะนาวเป็นพืชพื้นเมืองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลของมะนาวโดยทั่วไปแล้ว มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ประมาณ 4 เซนติเมตร ต้นมะนาวเป็นต้นไม้พุ่มเตี้ย เมื่อสูงเต็มที่จะสูงประมาณ 4-5 เมตร ทั้งนี้แล้วแต่พันธุ์ด้วย ก้านของต้นมะนาวจะมีหนามเล็กน้อย ก้านมีขนดก ใบจะออกไปทางยาวเรียวคล้ายใบส้ม ส่วนดอกจะมีสีขาวอมเหลือง ปกติมะนาวจะมีดอกผลตลอดทั้งปี เว้นแต่ในช่วงหน้าหนาว จะออกผลน้อย และให้น้ำน้อย

สำหรับชื่อในภาษาอังกฤษของมะนาวคือ Lime และมะนาวมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Citrus Aurantifolia Swingle หรือ Citrus Aurantifolia Swing

พันธุ์มะนาวที่นิยมปลูกในประเทศไทย

พันธุ์มะนาวที่นิยมปลูกในประเทศไทย มีดังต่อไปนี้คือ

มะนาวแป้น ผลจะมีตั้งแต่ขนาดกลางถึงค่อนข้างใหญ่ กลมแป้น เปลือกจะบาง และมีน้ำมาก นิยมใช้บริโภคมากกว่าพันธุ์อื่นๆ เพราะเป็นมะนาวที่สามารถให้ดอกออกผลตลอดทั้งปี สามารถปลูกให้ออกผลในฤดูแล้งได้ง่ายใน มะนาวแป้นจะนิยมปลูกกันสองชนิด คือ พันธุ์แป้นรำไพ และพันธุ์แป้นดก
มะนาวหนัง ผลอ่อนจะกลมยาว และหัวท้ายแหลม เมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมค่อนข้างยาว มีกลมมนบ้างเล็กน้อย ด้านหัวจะมีจุกเล็กๆ และมีเปลือกหนา ทำให้สามารถเก็บรักษาได้นาน
มะนาวไข่ ผลอ่อนกลมยาวหัวท้ายแหลม เมื่อโตเต็มที่ผลจะค่อนข้างกลมมน สีจะอ่อนๆ คล้ายกับไข่เป็ด เปลือกบาง ขนาดประมาณสองถึงสามเซนติเมตร จะใหญ่กว่ามะนาวหนัง
มะนาวทราย จะเป็นทรงพุ่มสวย สามารถให้ผลได้ตลอดปี แต่ไม่ค่อยนิยมบริโภค เพราะว่าน้ำมีรสขมเจือปน
มะนาวพันธุ์อื่นๆ เช่น มะนาวตาฮิติ มะนาวหวาน มะนาวปีนัง มะนาวโมฬี มะนาวพม่า มะนาวเตี้ย เป็นต้น ซึ่งมะนาวในบางพันธุ์อาจมีชื่อเรียกได้หลายชื่อได้

วิธีการปลูกมะนาวลงดิน

สภาพแวดล้อมในการปลูกมะนาวลงดิน

สำหรับสภาพแวดล้อมในการปลูกมะนาวลงดินนั้นไม่ยากเลยครับ ต้องบอกก่อนว่ามะนาวเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ดีในดินแทบทุกชนิต ไม่ว่าจะเป็น ดินเหนียว หรือว่าดินทราย แต่ถ้าเราต้องการจะปลูกมะนาวให้งอกงามดี มีผลดก และมีคุณภาพดี เราก็ควรจะปลูกในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนซุย มีการระบายน้ำที่ดี มีอินทรียวัตถุผสมอยู่มาก และควรเลือกพื้นที่ที่อยูใกล้แหล่งน้ำ

ก่อนที่เราจะปลูกมะนาวนั้น ให้เราจัดเตรียมกิ่งพันธุ์เอาไว้ก่อน เราต้องกิ่งพันธุ์ที่สมบูรณ์ และไม่มีโรคที่ติดมากับกิ่งพันธุ์ และให้นำกิ่งตอนมาชำ วัสดุในการชำให้ใช้ดินผสมแกลบ หรือขุยมะพร้าว ชำลงถุงเบอร์ 3×7 หรือเบอร์ 4×8 นิ้ว ทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน และให้รอจนรากต้นมะนาวมีความแข็งแรงก่อน แล้วค่อยนำไปปลูก

การเตรียมพื้นที่ปลูกมะนาวลงดิน

– พื้นที่ลุ่ม สำหรับพื้นที่ลุ่มให้เราเตรียมพื้นที่โดยทำคันดินใหัมีขนาดความกว้างประมาณ 6-8 เมตร สำหรับส่วนสูง ให้เราสังเกตจากปริมาณน้ำที่เคยท่วมสูง โดยให้พื้นที่ที่ปลูกมะนาวอยู่สูงกว่าแนวระดับน้ำท่วมประมาณ 50 เซนติเมตร และให้ซอยร่องทำประตูน้ำเพื่อเป็นการระบายน้ำเข้าออก ขนาดร่องน้ำกว้างประมาณ 1.5 เมตร และลึก 1 เมตร พื้นที่ร่องกว้าง 0.5-0.7 เมตร และใช้ระยะปลูก 5X5 เมตร
– พื้นที่ดอน สำหรับพื้นที่ดอน เราควรจะไถพรวนเพื่อทำให้ดินร่วนซุย และเพื่อเป็นการกำจัดวัชพืช ใช้ระยะปลูกประมาณ 4×4 – 6×6 เมตร ระยะปลูกจะขื้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน หรืออาจจะทำการวัดตำแหน่งหลุมปลูก โดยนำไม่ไผ่มาเหลาเป็นแท่งเล็กๆ เพื่อปักไว้ตามตำแหน่งที่เราจะทำการขุดหลุม

การเตรียมหลุมปลูกมะนาวลงดิน

– การปลูกมะนาวลงดินนั้นถ้าจะให้ดีที่สุด ควรจะปลูกในช่วงต้นฤดูฝน
– ให้เราขุดหลุมปลูกให้หลุมมีขนาดกว้าง 50×50 เซนติเมตร ส่วนความลึกของหลุมจะอยู่ระหว่าง 30-50 เซนติเมตร แล้วแต่เจ้าของสวน จะ 30 เซนติเมตร 40 เซนติเมตร หรือ 50 เซนติเมตรก็ได้ ใช้ได้ตามความเหมาะสม
– ทำการรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยมูลวัวตากแห้ง หรือถ้าหาไม่ได้ก็ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 หรือ 25-7-7 โรดรองก้นหลุมบางๆ ประมาณครึ่งกำมือ
– การใส่ดินในหลุมให้วางสูงประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม
– ให้เรารวางกิ่งพันธุ์ที่เตรียมมาลงไปในหลุม โดยให้ระดับของดินในถุงสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อย
– ใช้มีด หรือกรรไกรที่คม กรีดถุงจากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุงทั้ง 2 ด้าน ทั้งช้ายและขวา
– ให้เราดึงถุงพลาสติกออก โดยต้องระวังอย่าให้ดินแตก และกลบดินที่ขุดขึ้นมาลงในหลุม
– ต่อมาให้กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น และทำการปักไม้หลัก ซึ่งก็คือไม้ไผ่ที่ใช้ปักตำแหน่งเอาไว้ตั้งแต่ตอนแรก และผูกเชือกยึดเอาไว้ เพื่อป้องกันลมแรงพัดโยกต้นไม้
– หาวัตถุเพื่อนำมาคลุมดินบริเวณโคนต้น ทำร่มเงา เพื่อช่วยพรางแสงแดด ยกตัวอย่างเช่น หญ้าแห้ง หรือฟางข้าว

การดูแลรักษาต้นมะนาว

การรดน้ำ

เจ้าของสวนต้องมีการให้น้ำกับต้นมะนาวอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ปลูกใหม่ๆ ควรรดน้ำวันละครั้งเป็นอย่างน้อย แต่ถ้ากรณีที่ฝนตกก็ไม่ต้องให้รดน้ำเพิ่ม หลังจากผ่านไปประมาณ 15 วัน ต้นมะนาวก้จะสามารถตั้งตัวได้แล้ว ให้เราเปลี่ยนเป็นรดน้ำเดือนละ 2-3 ครั้งพอ และควรหาวัสดุมาคลุมดินบริเวณโคนต้น เพื่อช่วยรักษาความชื้นให้ต้นมะนาว

และควรจะงดการรดน้ำ ในช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป จนไปถึงกระทั่งช่วงที่ออกดอก เพื่อให้มะนาวสะสมอาหารให้มากพอ จนสามารถสร้างตาดอกได้ ซึ่งปกติแล้ว ต้นมะนาวจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งหลังจากมะนาวออกดอก และกำลังติดผลอ่อน จะเป็นช่วงที่มะนาวต้องการน้ำมาก เพื่อใช้ในการเจริญเติบโตของผล ช่วงนี้ก็ให้รดน้ำได้ตามปกติ

การใส่ปุ๋ย

– หลังจากปลูกมะนาวไปได้ 3-4 เดือน ควรใส่ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ใส่ในปริมาณต้นละครึ่งกิโลกรัม ในกรณีใส่ปุ๋ยเคมีควรใส่หลังจากพรวนดิน และกำจัดวัชพืชแล้ว ให้ใส่ปุ๋ยบริเวณรอบทรงพุ่ม แล้วก็ค่อยรดน้ำตาม เพื่อให้ปุ๋ยละลาย
– เมื่อปลูกมะนาวไปได้ 1 ปี ให้เจ้าของสวนใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในประมาณต้นละ 300 กรัม
– และเมื่อปลูกมะนาวไปได้ 2 ปี ก็ให้เพิ่มปริมาณปุ๋ย โดยให้ใส่ปีละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1 กิโลกรัม ทั้งนี้ก็ขี้นอยู่กับสภาพความอุดมสมบูรณ์ของต้นมะนาว
– เมื่อปลูกต้นมะนาวย่างเข้าปีที่ 3 ต้นมะนาวจะเริ่มให้ผลผลิตเป็นลูกมะนาว
– สำหรับในช่วงระยะก่อนมะนาวออกดอกประมาณ 1-2 เดือน ให้เราใส่ปุ๋ยที่มีสูตรที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น สูตร 12-24-12 หรือปุ๋ยสูตร 3-10-10 เพื่อเป็นการเร่งการเจริญเติบโต ในระยะที่มะนาวยังไม่ออกดอก และให้ใช้สูตร 0-52-34 ในระยะที่เร่งการออกดอกประมาณไม่เกิน 1 กิโลกรัมต่อต้น ซึ่งปริมาณที่ใช้ ขึ้นอยู่กับอายุของต้นมะนาว โดยให้ใส่ในปริมาณครึ่งหนึ่งของอายุต้นมะนาว

การกำจัดวัชพืช

– สำหรับการกำจัดวัชพืชในสวนมะนาว สามารถทำได้หลายวิธี เช่น ถอน ถาง หรือจะใช้เครื่องตัดหญ้าก็ได้ แต่เราก็ต้องระวังไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนตามโคนต้น หรือไปกระทบกระเทือนราก
– วิธีกำจัดวัชพืชวิธีหนึ่งที่นิยมกันมาก คือ การใช้สารเคมี เช่น ไกลโฟเสท พาราชวิท และดาวพอน เป็นตัน
โดยการใช้สารเคมี เราจะต้องระวังไม่ให้สารเคมีปลิวไปถูกใบมะนาว เพราะอาจจะทำให้ใบไหม้เหลืองเป็นจุดๆ หรือไหม้ทั้งใบ ดังนั้นเวลาพ่น ควรพ่นตอนลมสงบ ไม่ควรพ่นตอนลมพัดแรง

การตัดแต่งกิ่ง

– การตัดแต่งกิ่งก็เพื่อให้ต้นมะนาวมีทรงพุ่มดูสวย และให้ผลดกปราศจากโรค และแมลง
– สำหรับการตัดแต่งกิ่ง ให้เจ้าของสวนทำหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว โดยตัดกิ่งที่เป็นโรค กิ่งแห้ง หรือกิ่งที่ไม่มีประโยชน์ออกจากต้นมะนาวให้หมด และนำกิ่งที่ตัดแล้วไปเผาทำลาย อย่าปล่อยทิ้งไว้ตามโคนต้น เพราะจะทำให้เป็นแหล่งสะสมโรคได้

การค้ำกิ่ง

– เมื่อต้นมะนาวใกล้จะออกผล เจ้าของสวนจะต้องมีการค้ำกิ่งให้กับต้นมะนาวด้วย เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหัก หรือฉีกขาด โดยในเฉพาะช่วงติดผล และการค้ำกิ่งยังช่วยลดความเสียหายเนื่องจากโรค และแมลงได้ โดยวิธีการค้ำกิ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
– การค้ำกิ่งโดยใช้ไม้รวก หรือไม้ไผ่ทำเป็นง่าม สอดเขัาไปกับกิ่งมะนาว โดยให้ปลายอีกข้างหนึ่งวางตั้งรับน้ำหนักของกิ่งอยู่บนพื้นดิน และใช้เชือกผูกมัดกิ่งไว้
– การค้ำกิ่งแบบคอกหรือนั่งร้าน ทำได้โดยเอาไม้มาทำเป็นนั่งร้านในแบบรูปสี่เหลี่ยมรอบๆ ต้นมะนาว เพื่อให้สามารถรองรับกิ่งใหญ่ๆ ของมะนาวได้ โดยอาจจะทำเป็น 2-3 ชั้น และให้กิ่งพาดอยู่ที่ชั้นใดก็ได้ สำหรับวิธีนื้จะค้ำกิ่งมั่นคงแข็งแรงกว่าวิธีแรก

การเก็บเกี่ยวมะนาว

สำหรับการเก็บเกี่ยวมะนาว ถ้าต้นมะนาวไม่สูงมากนัก สามารถเก็บมะนาวด้วยมือ แต่ถ้าต้นมะนาวสูง เราก็ต้องใช้ตะขอผูกติดกับด้ามไม้รวกยาวๆ คล้อง และกระตุกผลมะนาวลงมา แต่วืธีนี้อาจจะทำให้มะนาวช้ำได้ แต่ถ้าเราไม่ต้องการให้มะนาวช้ำ เพื่อให้ได้มะนาวเกร็ดเอมีคุณภาพ เราก็ควรจะใช้ตะกร้อหวายในการเก็บเกี่ยวมะนาว

การเก็บเกี่ยวมะนาว ควรเก็บในขณะที่ผลเริ่มแก่ โดยให้เราสังเกตจากทางด้านขั้วของผลที่เริ่มจะมีสีเหลืองเล็กน้อย ผิวเปลือกจะเป็นลักษณะเรียบบางใส และมีสีเขียวอ่อนกว่าผลมะนาวที่ยังไม่แก่ และลองบีบดูจะรู้สึกค่อนข้างนุ่มมือ ในการเก็บเกี่ยวมะนาว ข้อควรระวัง คือ ไม่ควรเก็บมะนาวที่แก่จนเกินไป เพราะเปลือกมะนาวจะบางมาก อาจจะทำให้มะนาวช้ำเสียหายในระหว่างการขนส่งได้ และเมื่อนำไปขาย จะทำให้วางขายได้ไม่นาน ผลมะนาวก็เน่าเสียได้เร็ว

การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวมะนาว

สำหรับวิธีการเก็บรักษามะนาวให้เก็บไว้ได้นาน ก็คือว่า ให้เราคัดผลมะนาวเสียก่อน ให้เราเลือกเอาผลมะนาวที่ดูแก่พอเหมาะ สังเกตได้จากมีสีเขียวจัด ไม่มีสีเหลืองเจือปน ไม่มีรอยช้ำหรือเน่า และที่สำคัญควรมีขั้วผลติดอยู่ด้วย นำมะนาวมาล้างทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น คลอรอกซ์ สำหรับการผสมให้ทำการผสมน้ำในอัตรา 1 ต่อ 15 ส่วน และแช่ผลมะนาวไว้ประมาณ 5 นาที ต่อจากนั้นให้นำผลมะนาวมาผึ่งลมไว้บนตะแกรง เพื่อให้มะนาวสะเด็ดน้ำ และสุดท้ายก็เป็นการคัดขนาดใส่เข่ง หรือภาชนะอื่นๆ เพื่อส่งตลาด หรือร้านค้าต่างๆ

วิธีทำให้มะนาวออกดอกนอกฤดู

สำหรับในช่วงหน้าหนาว มะนาวจะออกผลน้อย ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายมะนาว อาจจะมีรายได้ลดลงในช่วงนี้ แต่ปัญหานี้จะหมดไป ถ้าเราสามารถทำให้มะนาวออกดอกนอกฤดูได้ ซึ่งวิธีการมีอยู่หลายวิธี แต่วิธีที่นำเสนอนี้จะทำให้ต้นมะนาวไม่โทรมเร็วเกินไป วิธีปฏิบัติมีดังนี้

– เดือนกันยายน ให้ใส่ปุ๋ยเคมีในอัตราส่วน 1:3:3 เช่น ปุ๋ยสูตร 8:24:24 เพื่อเป็นการบำรุงให้ใบแก่เร็วขื้น และสามารถเก็บอาหารไว้บำรุงดอกต่อไป
– เดือนตุลาคม สำหรับเดือนนี้ควรจะงดการให้น้ำ เพื่อทำให้ต้นมะนาวมีการเก็บสะสมอาหาร เมื่อถึงปลายเดือนจึงให้น้ำเต็มที่
– เดือนพฤศจิกายน เป็นช้วงที่มะนาวเริ่มออกดอก จึงควรฉีดพ่นสารเคมีป้องกัน และกำจัดแมลง ประมาณปลายเดือนนี้ ดอกจะเริ่มบาน และเริ่มติดผล
– เดือนธันวาคม ให้ใส่ปุ๋ยเคมีในอัตราส่วน 1:1:1 เช่น ปุ๋ยสูตร 15:15:15 หรือ 16:16:16 เพื่อเป็นการบำรุงต้นมะนาวให้แข็งแรงสมบูรณ์
– เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป สำหรับช่วงนี้ผลมะนาวจะเริ่มโตพอที่จะเก็บเกี่ยวได้บ้างแล้ว จนมาถึงต้นเตือนเมษายน ผลมะนาวก็จะโตพอที่จะเก็บเกี่ยวได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งก็จะอยู่ในช่วงที่มะนาวมีราคาแพงพอดี ซึ่งหลังจากที่เราได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตจนหมดแล้ว ประมาณเดือนพฤษภาคม เจ้าของสวนควรจะทำการตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ยคอก และปุ๋ยเคมีสูตร 15:15:15 เพื่อบำรุงต้นมะนาวให้สมบูรณ์ และเพื่อความพร้อมสำหรับการผลิตมะนาวนอกฤดูในปีต่อๆ ไป

แนวทางการขายมะนาวในท้องถิ่น

จะเห็นได้ว่าการปลูกมะนาวก็ไม่ได้ยากจนเกินไปนะครับ ดูแลรักษาให้ได้ผลผลิต เมื่อได้ผลผลิตมาได้ต่อมาก็จะเข้าสู่กระบวนการขายครับ ซึ่งในบางครั้ง การที่เราเป็นผู้ขายมะนาวหน้าใหม่ การที่เราจะรอพ่อค้าแม่ค้าจะมาซื้อที่สวนนั้น มีโอกาสจะเป็นไปได้น้อย เป็นเพราะปริมาณมะนาวไม่เพียงพอกับความต้องการของพ่อค้าแม่ค้าที่จะมารับซื้อ

ดังนั้นปัญหานี้ จึงเป็นปัญหาหลักๆ ของผู้ปลูกมะนาวว่าจะไปขายผลผลิตที่ไหน กรณีนี้ผู้ปลูกมะนาวหน้าใหม่ใหม่ก็ควรศึกษาไว้ด้วยก็จะดีมาก ซึ่งสำหรับแนวทางการขายมะนาวในท้องถิ่นนั้นมีหลายวิธี แต่ผมจะขอนำเสนอวิธีขายมะนาวแบบลองก่อนแล้วซื้อทีหลัง โดยหลักการมีดังนี้ครับ

– ในชุมชนที่คุณปลูกมะนาวจะต้องมีร้านอาหารตามสั่ง หรือน้ำปั่น หรือตลาดนัดที่มีพ่อค้าแม่ค้าขายมะนาวรายย่อยๆ รวมไปถึงรถเร่ขายกับข้าวทั่วๆ ไป เป็นต้น วิธีการก็คือเราจะทำอย่างไรที่จะสอดแทรกเข้าไปเพื่อกินส่วนแบ่งทางตลาดในบริเวณนั้นได้ ซึ่งในทางการตลาด การที่ทำธุรกิจเหมือนกัน แต่ทำทีหลังย่อมต้องออกแรง หรือลงทุนมากกว่าเจ้าเดิมที่มีอยู่แล้ว จึงจะสามารถแทรกตัวเข้าไปในตลาดนั้นๆ ได้
– ดังนั้นเราต้องลงทุนโดยการแจกให้ลองก่อนแล้วค่อยซื้อทีหลัง ขั้นแรกเราต้องแนะนำตัว และแจกมะนาวให้พ่อค้าแม่ค้ากลุ่มเป้าหมายได้ลองเช่นเจ้าละ 5 ลูก พร้อมทั้งแนบนามบัตรของเรา ที่ระบุเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่สวนมะนาวของเราให้ทราบ เพื่อที่จะสามารถติดต่อกับเราได้และบอกราคาขายมะนาวของเราไว้ด้วย เพียงเท่านี้คุณก็สามารถจำหน่ายมะนาวได้แล้ว แต่ที่สำคัญเราต้องมีมะนาวส่งให้พ่อค้าแม่ค้าได้ตลอดทั้งปี ถ้ามะนาวเราดี เป็นที่ต้องการของเค้า เราก็รอพ่อค้าแม่ค้ามาเหมาสวนแบบประจำไปเลยครับ ยิ่งถ้าไม่มีใครปลูกแถวนั้นด้วย ยิ่งไม่ต้องห่วงเรื่องตลาดครับ การตลาดแบบง่ายๆ แบบนี้ ให้เราลองเอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้เลย

error: Content is protected !!