สำหรับบทความนี้ก็จะมาเจาะลึกการทำธุรกิจที่แขวงจำปาสัก ประเทศลาว ว่ามีอะไรอย่างไรบ้าง เหมาะสำหรับท่านที่สนใจการทำธุรกิจที่ประเทศลาว โดยเฉพาะเจาะลึกที่แขวงจำปาสักนี้ เชิญอ่านกันได้เลยครับ
ด้านสภาพทั่วๆ ไป
– ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของแขวงจำปาสัก เป็นจุดเชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมทางบกระหว่างไทย-ลาว-กัมพูชา ตามเส้นทางจังหวัดอุบลราชธานี-จำปาสัก-อัตตะปือ-สตรึงเตรง(กัมพูชา) และจุดเชื่อมต่อไทย-ลาว-เวียดนามโดยเชื่อมต่อไทย กับ ทะเลจีนใต้ ตามเส้นทางอุบลราชธานี-จำปาสัก-ดานัง-เว้ หรือ เชื่อมต่อไทยไปยังปากแม่น้ำโขง ตามเส้นทางอุบลราชธานี-จำปาสัก-โฮจิมินห์-คุชิ-วุงเตา (เวียดนาม)
– แขวงจำปาสัก มีทั้งหมด 10 เมือง คือ เมืองปากเซ เมืองชนะสมบูรณ์ เมืองบาเจียงเจริญสุข เมืองปากช่อง เมืองปทุมพร เมืองโพนทอง เมืองจำปาศักดิ์ เมืองสุขุมา เมืองมูลปาโมกข์ เมืองโขง
– แขวงจำปาสักเป็นจุดเชื่อมเครือข่ายคมนาคมทางบกระหว่างประเทศให้กับแขวงอื่นๆ ภายในประเทศ โดยเฉพาะแขวงที่ไม่มีด่านพรมแดน ได้แก่ แขวงสาละวัน เซกอง และอัตตะปือ ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานี ไปยังตอนใต้ของประเทศลาวจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรที่ด่านช่องเม็ก-วังเต่า รวมทั้งสินค้านำเข้าและส่งออกระหว่างไทยกับลาว
– การเดินทางทางอากาศสะดวก ตอนนี้มีสนามบินนานาชาติ 1 แห่ง คือ สนามบินปากเซ ซึ่งสามารถบินจากกรุงเทพไปปากเซในแขวงจำปาสักได้เลย และยังมีบินอีกจากหลายจังหวัดในไทยที่ไปปากเซ
ด้านธุรกิจการลงทุน
– แขวงจำปาสักมีศักยภาพที่จะพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และมีภูมิอากาศที่พอเหมาะกับการผลิตพืชผลทางเกษตรสำหรับการบริโภคในประเทศ และการส่งออกไปต่างประเทศ เช่น ข้าว เมล็ดกาแฟ ผักผลไม้ และพืชไร่ต่างๆ โดยเฉพาะเมืองปากช่อง ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูง มีสภาพอากาศเย็นตลอดทั้งปี และมีฝนตกชุก เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก นอกจากนั้นแขวงจำปาสักมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกคอนพะเพ็ง (อยู่ในเชียงของ ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีขนาดยาวที่สุดในโลก ถึง 10.7 กิโลเมตร) น้ำตกหลี่ผี น้ำตกดอนเฮือง และประสาทหินวัดพู เป็นต้น
– แขวงจำปาสักเป็น 1 ใน 4 แขวงของประเทศลาว ที่เจ้าแขวงมีอำนาจอนุมัติโครงการลงทุนได้เอง หากมูลค่าโครงการไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และใช้พื้นที่ไม่เกิน 100 เฮกตาร์
– จำปาสักในลาวเมืองตอนใต้ที่เชื่อมต่อไปยัง 3 ประเทศเพื่อนบ้าน คือ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม เมืองมีความเป็นธรรมชาติ น่าท่องเที่ยว และเหมาะแก่การทำเกษตร ทั้ง สับปะรด กาแฟ
– แขวงจำปาสักมีการเติบโตรายได้ต่อหัวของประชากร มูลค่า 1,034 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปีในปี พ.ศ. 2558 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1,514 ดอลลาร์ต่อคนต่อปีใน พ.ศ. 2561 ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีเศรษฐกิจดี ประชากรมีรายได้สูงกว่าเมืองหลวงเวียงจันทน์ ที่มีรายได้ต่อหัวเพียง 835 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี
– เช่นเดียวกันกับ GDP สูงถึงปีละ 8% ในปี พ.ศ. 2552 ทำให้กลายเป็นแหล่งดึงดูดเงินลงทุนหลายโครงการจากต่างชาติ อีกทั้งกฎหมายยังเปิดกว้างรับเงินลงทุนต่างชาติ ที่สำคัญยังมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ แม้จะยังมีปัญหาทางด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ยังรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ทัน แต่กระนั้นกลับกลายเป็นโอกาสทองในการเปิดรับทุนจากต่างประเทศ โดยอุตสาหกรรมที่เป็นโอกาส คือ อุตสาหกรรมการเกษตร เช่น กาแฟ ชา ถั่วเหลือง และหวาย รวมถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหาร
– แขวงจำปาสักเป็นแหล่งแร่บอกไซต์ขนาดใหญ่ติดอันดับโลก และสถานการณ์จะเปลี่ยนไปมาก หากสำรวจพบก๊าซ และน้ำมันดิบในปริมาณมากพอที่จะผลิตขึ้นมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ในแขวงนี้ยังมีเขื่อนผลิตไฟฟ้าอีกหลายแห่ง รวมทั้งเขื่อนกั้นลำน้ำโขงที่ชายแดนไทย 2 แห่ง
– มีตลาด 25 แห่ง เป็นระดับแขวง 4 แห่ง เมือง 8 แห่ง และหมู่บ้าน 13 แห่ง
– แขวงจำปาสักตอนนี้กำลังเร่งก่อสร้างปรับปรุงถนน อาคาร ร้านค้า มีรถบรรทุกขนส่งวัสดุก่อสร้าง เหล็กเส้น น้ำมันเชื้อเพลิง และสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยวิ่งกันขวักไขว่ และยังมีโรงแรมขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายแห่งรองรับคนไทย และเวียดนามที่เดินทางเข้ามาไม่ขาดสาย
– ที่ดินผืนใหญ่ในลาว เริ่มหายากขึ้นทุกทีสำหรับโครงการขนาดใหญ่ แต่แขวงจำปาสักกำลังหยิบยื่นโอกาสสำคัญนี้แก่นักลงทุน
– แขวงจำปาสักยังรวมอยู่ในแผนพัฒนาสามเหลี่ยมมรกต (Emerald Triangle) ระหว่างลาว เวียดนามและกัมพูชาที่ได้รับการช่วยเหลือจากญี่ปุ่น เกาหลี และธนาคารพัฒนาเอเชีย เพื่อให้เขตรอยต่อ 3 ประเทศ กลายเป็นทั้งแหล่งผลิตอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
– นอกจากนี้รัฐบาลลาวยังเปิดกว้างการลงทุน ด้านการผลิตแปรรูปสินค้าเกษตร โครงสร้างพื้นฐาน ท่องเที่ยวและบริการ อุตสาหกรรม โลจิสติกส์ รวมถึงการพัฒนาคน
เมืองสำคัญของแขวงจำปาสัก
เมืองปากเซ
เมืองปากเซ เป็นเมืองเอกของแขวงจำปาศักดิ์ และถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของลาวตอนใต้ ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง มีประชากรประมาณ 70,000 คน เป็นเมืองที่มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติ ประเพณีและวัฒนธรรม ทั้งชาวลาว ชาวจีน และชาวเวียดนาม บรรยากาศทั่วไปเงียบสงบเป็นธรรมชาติ ชาวบ้านมีวิถีชีวิตเรียบง่าย และสนามบินของแขวงจำปาสักก็ได้ตั้งอยู่ที่เมืองปากเซอีกด้วย
เมืองจำปาศักดิ์
เมืองจำปาศักดิ์ เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรจำปาสัก และเคยเป็นเมืองเอกของแขวงจำปาสัก ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ภายหลังการยึดครองของฝรั่งเศสในปี พ.ศ.2448 เมืองจำปาสักได้ถูกลดความสำคัญลงกลายมาเป็นเมืองบริวารของแขวง โดยย้ายเมืองเอกไปยังเมืองปากเซอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ห่างจากเมืองจำปาสักไปทางทิศเหนือประมาณ 30 กิโลเมตร
ด่านพรมแดนที่สำคัญของแขวงจำปาสัก
– ด่านพรมแดนวังเต่า ติดต่อกับประเทศไทยที่ด่านพรมแดนช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีประมาณ 90 กิโลเมตร
– ด่านพรมแดนเวินคาม ติดต่อกับประเทศกัมพูชาทางเรือโดยสารตามแม่น้ำโขงไปยังเมืองสตึงแตรง
– ด่านพรมแดนดงกระลอ ติดต่อกับประเทศกัมพูชาที่ด่านดงกะลอ จังหวัดสตึงแตรง โดยทางหลวงหมายเลข 13 (ใต้) ของลาวเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 7 ของกัมพูชา
การเดินทางจากพรมแดนไทย
จากด่านพรมแดนช่องเม็ก สามารถเดินทางผ่านด่านพรมแดนวังเต่าเข้าสู่ประเทศลาว จากนั้นมาตามทางหลวงหมายเลข 16 ซึ่งเป็นถนนลาดยาง ระยะประมาณ 42 กิโลเมตร ข้ามแม่น้ำโขงที่สะพานลาว-ญี่ปุ่น ความยาว 1,380 เมตร เข้าสู่เมืองปากเซ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง โดยสามารถใช้บริการรถโดยสารจากชายแดนไทยที่สถานีขนส่งลาว ห่างจากด่านตรวจคนเข้าเมืองลาวประมาณ 300 เมตร มีทั้งรถโดยสารประจำทาง และรถสองแถววันละหลายเที่ยว (แต่ถ้ามีประมาณ 3-4 คน แนะนำให้ใช้บริการรถยนต์รับจ้าง จะสะดวกและเร็วกว่า) นอกจากนี้ทั้งประเทศลาวและไทยได้ร่วมมือกันจัดเดินรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศ จากตัวเมืองอุบลราชธานี-ปากเซ