องุ่นเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่จัดว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้จะต้องเลือกนำมาใช้ประโยชน์ให้เหมาะสมกับชนิดและพันธุ์นั้นๆ ด้วยนะคะ นอกจากทานสดๆ แล้วยังมากมายไปด้วยประโยชน์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตากแห้งเป็นลูกเกด ทำเหล้าองุ่น คั้นเป็นน้ำองุ่น หรือจะเป็นองุ่นบรรจุกระป๋อง
ชนิดและพันธุ์ขององุ่นนั้นมีมากมายเป็นหมื่นเป็นพันชนิด โดยเกษตรกรมักจะนำพันธุ์ต่างๆ ที่มีอยู่นั้นมาทำการผสมพันธุ์กัน โดยเฉพาะพันธ์ที่มาจากยุโรปและอเมริกา เพื่อจะได้พันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และภูมิอากาศในท้องถิ่นนั้นด้วยๆ ส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับการปลูกได้แก่ การตลาด เพราะบางพันธุ์สำหรับทานสด บางพันธุ์ไว้สำหรับตากแห้ง เป็นต้น
พื้นที่เหมาะสมสำหรับเพาะปลูกองุ่น
บอกเลยว่าสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจจะลองหันมาปลูกองุ่นนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แต่ทั้งนี้จะต้องมีการศึกษารายละเอียดให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน เริ่มต้นที่สถานที่ที่เหมาะสมจะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
ดินดี
คือลักษณะของดินจะต้องมีความอุดมสมบูรณ์ ปราศจากเชื้อโรค หรือแมลงรบกวน ในจุดนี้สำคัญมากๆ องุ่นนั้นบอกก่อนเลยว่าสามารถขึ้นและเจริญเติบโตได้ในพื้นที่ดินเกือบทุกชนิด แต่ที่เมืองไทยถือว่าเป็นเมืองร้อน ดังนั้นลักษณะของดินจะต้องมีการระบายน้ำและมีการถ่ายเทของอากาศได้สะดวก แนะนำให้เป็นดินร่วนปนดินทราย ช่วยให้รากของต้นองุ่นสามารถชอนไชหาอาหารมาช่วยเสริมให้ลำต้นเกิดความอุดมสมบูรณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น องุ่นสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งมีค่า pH ระหว่าง 5.5-5.6
ลักษณะภูมิอากาศที่เหมาะสม
ประเทศไทยจัดว่าเหมาะสมสำหรับการปลูกองุ่นเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เป็นเพราะว่าองุ่นชอบพื้นที่ที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง แสงแดดจัด ความชื้นในอากาศต่ำ ระดับของฝนที่ตกลงมานั้นไม่ควรน้อยกว่า 15 นิ้ว แต่ไม่ควรเกิน 40 นิ้ว
ในการเพราะปลูกแม้ว่าองุ่นจะชอบพื้นที่อุณหภูมิสูงแต่ก็ต้องการน้ำในการเจริญเติบโตไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นในการเพาะปลูกจะต้องไม่ขาดแคลนน้ำ ในการเพาะปลูกอีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องระมัดระวังคือแมลง และศัตรูพืชที่มารบกวน โดยเฉพาะฤดูการให้ผลผลิต
การขยายพันธุ์องุ่น
องุ่นจัดว่าเป็นผลไม้ที่เกษตรกรสามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด แต่ส่วนมาก เกษตรกรอาศัยการเลือกซื้อต้นพันธ์แทนการขยายพันธุ์ เนื่องจากสะดวกและรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ยังมีค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย ดังนั้นหากท่านไหนที่ต้องการมีไร่องุ่นเป็นของตัวเองจะต้องศึกษา และมีความรู้เรื่องการขยายพันธุ์องุ่นได้เอง โดยสามารถทำได้ถึง 6 วิธีได้แก่
การเพาะเมล็ด
การตัดกิ่งปักชำ
การติดตา
การทาบกิ่ง
การตอนกิ่ง
การต่อเสียบ
วิธีการปลูกองุ่น
เตรียมพื้นที่
พื้นที่ทราย สำหรับพื้นที่ที่ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ สามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกถั่ว เพื่อบำรุงดินไว้ล่วงหน้า และมีออกดอกให้ทำการไถกลบหน้าดินเหล่านั้น
ดินเหนียว ที่นำท่วมถึง ให้ทำการยกร่องให้สูงอย่าให้มีน้ำท่วมถึงได้อย่างเด็ดขาด จากนั้นบำรุงหน้าดินด้วยการใส่ปุ๋ยหมัก และทรายหยาบลงไปเพื่อดินที่โปร่งและร่วนซุยมากยิ่งขึ้น
พื้นที่ดินลอน หรือลาดเขา ให้ทำการแก้ไขด้วยการไถให้ลูก ตากหน้าดินไว้อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ บำรุงหน้าดินด้วยการปลูกพืชตระกูลถั่ว และค่อยดำเนินการไถกลบทับเมื่อออกดอก
วิธีการปลูก
เมื่อเกษตรกรได้เตริมพื้นที่สำหรับการปลูกองุ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเริ่มต้นด้วยการขุดหลุมโดยเว้นระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 2.5 – 3.00 เมตร ระหว่างแถว ประมาณ 4 เมตร ในการเพาะปลูกจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพของดินในพื้นที่นั้นๆ ด้วย หากเป็นดินเหนียวให้มีถี่ลงกว่านี้ สำหรับแถวที่มีการปลูกองุ่นจะต้องมีการยกเป็นลูกฟูกตลอดแนว กว่า 1.5 เมตร
ขนาดของหลุมที่ขุดกว่าง 1 เมตร ลึก 1 เมตร แยกดินปากหลุม และก้นหลุมไว้ ตากให้แห้งประมาณ 15-20 วัน จากนั้นทำการผสมดินปากหลุมกับปุ๋ยคอกรองที่ก้นหลุม ส่วนดินก้นหลุมก็ผสมกับปุ๋ยคอก ไว้ที่ปากหลุมสลับกัน เมื่อนำต้นองุ่นลงปลูก ตัดแต่งกิ่งเล็กกิ่งน้อยออกไป เหลือลำต้นมีตาแค่ 2-3 ตา แล้วค่อยๆ นำดินที่อยู่ปากหลุมกลบลำต้นให้พูน ปักด้วยหลัดเพื่อป้องกันต้นโยกคลอน เสร็จเรียบร้อยแล้วทำการรดน้ำใช้ใบมะพร้าวหรือใบไม้ เพื่อกำบังแสงแดด การปลูกองุ่นแนะนำให้ปลูกฤดูฝนจะเป็นการประหยัดน้ำ
เมื่อต้นองุ่นเจริญเติบโตได้พอประมาณ จะต้องทำค้าง เพื่อที่ลำต้นได้เลื้อย ไม่อย่างนั้นจะเลื้อยไปตามดินและเจริญเติบโตช้า ผลที่ออกมาก็จะเกาะกับพื้นดิน เกิดการเน่าเสีย และให้ผลผลิตน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
การบำรุงรักษาองุ่นหลังการเพาะปลูก
การให้ปุ๋ย ทั่วไปแล้ว จะให้ปุ๋ย 3 ชนิดได้แก่
1.ธาตุไนโตรเจน เพื่อเสริมหากสังเกตเห็นลำต้นองุ่น เจริญเติบโตช้าผิดปกติ แคระแกรน ใบเหลืองซีด ก้านเปราะ ผลสุกช้า
2.ฟอสฟอรัส หากต้นองุ่นขาดธาตุนี้จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า รากไม่เจริญเติบโต ผลแก่ช้ากว่าปกติ
3.โปแตสเซียม เส้นใบและขอบใบมีสีเหลือง ริมใบมีสีน้ำตาล
การให้น้ำ แม้ว่าองุ่นจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพภูมิอากาศที่มีอุณหภูมิสูง และไม่ค่อยชอบดินแฉะหรือพื้นที่ที่มีน้ำในปริมาณที่มากจนเกินไป แต่น้ำก็จะช่วยบำรุง แต่งผลให้ดูดี สวยงาม ดังนั้นในช่วงฤดูกาลให้ผลผลิตองุ่นจะขาดน้ำไม่ได้เลย อาจมีการจัดเตรีมนำสำรองไว้ในส่วนนี้ในปริมาณที่เพียงพอ