มันฝรั่งเป็นพืชที่ต้องการการเอาใจใส่เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาในการปลูก เนื่องจากเป็นพืชทีค่อนข้างปลูกยาก และต้องการความรู้ความเข้า และสภาพพื้นที่ที่เหมาะสมอย่างแท้จริงสำหรับการปลูก เพื่อที่จะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยว ปัจจุบันนี้เกษตรกรในภาคเหนือหันมาให้ความสนใจในการปลูกมันสำปะหลังกันมากขึ้น เนื่องด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง เป็นทั้งรายได้หลักและรายได้เสริม
ขั้นตอนการเตรียมดินสำหรับการเพาะปลูก
1.เริ่มต้นด้วยการไถดินลึกประมาณ 20 เซนติเมตร ตากหน้าดินเพื่อเป็นการกำจัดเอโรคในดินประมาณ 10-15 วัน หากดินมีสภาพเป็นกรดให้ทำการแก้ไขด้วยการหว่าน โดโลไมท์ทั่วทั้งแปลง ในปริมาณ 200-500 กิโลกรัมต่อไร่ โดยค่า PH ที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกอยู่ที่ 5.5-6.5 จากนั้นค่อยไถพรวนอีก 2-3 ครั้งเพื่อที่จะได้ยกแปลงปลูก
การปลูกมันสำปะหลัง สามารถปลูกได้ 3 วิธีได้แก่
1.การปลูกแบบแถวเดี่ยวไม่ยกร่อง
2.การปลูกแบบแถวเดี่ยวยกร่อง
3.การปลูกแบบยกแปลงปลูกแถวคู่
การเตรียมหัวพันธุ์มันฝรั่ง
1.ก่อนอื่นนั้นจะต้องคิดเลือกเอาหัวทีมีคุณภาพ โดยวิธีการสังเกตที่ตารอบหัว หากเป็นหัวที่มี2ตามากแสดงว่าหัวนั้นมีคุณภาพมาก เพื่อที่จะได้แตกกล้าพันธ์ในจำนวนที่มากขึ้นด้วย
2.เมื่อได้หัวพันธ์ให้น้ำมาตัดเป็นชิ้นๆ จำนวนชิ้นตามตาของหัวพันธุ์นั้น โดยหนึ่งหัวจะได้ประมาณ 4-5 ชิ้น จะต้องมีการเตรียมการ โดยการตัดไว้ก่อน 1 สัปดาห์ก่อนปลูก
3.เมื่อจำนวนหัวพันธุ์เรียบร้อยแล้ว ให้ปลูกหลุมละ 1 ชิ้น จากนันให้มีการรดน้ำและดูแลรักษาในขั้นตอนต่อไป
เคล็ดไม่ลับในการเตรียมหัวพันธุ์ ภายหลังจากมีการหันเป็นชิ้นๆ แล้ว หากต้องการป้องกันไม่ให้หัวเน่าแนะนำให้นำปูนซีเมนต์มาทาตรงบริเวณที่มีรอยตัด จะเป็นตัวช่วยอย่างดีในการป้องกันหัวพันธุ์เน่า
ขั้นตอนในการปลูกมันสำปะหลัง
1.การคัดเลือกหัวพันธ์ในกรณีที่เป็นหัวพันธ์ที่เก็บไว้ในห้องเย็น จะต้องนำออกมาสัมผัสกับอากาศข้างนอกเสียก่อน เพื่อที่หัวพันธ์จะได้ปรับสภาพ
2.ทำการไถพรวนดินให้ละเอียด ตามหัวข้อจัดเตรียมหน้าดินในเบื้องต้น
3.ทำการยกร่องโดยมีความกว้างอยู่ที่ 80 เซนติเมตร ในส่วนของความยาวไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่
4.ทำการขุดหลุมให้ลึกพอประมาณทีจะนำหัวพันธ์ลงไปทำการเพาะปลูก แต่อย่าให้ลึกจนเกินไป สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกในพื้นที่ขนาดใหญ่ แนะนำให้ใช้เครื่องช่วยขุด สำหรับการใช้เครื่องทุ่นแรงในการขุดร่อง จะประหยัดทั้งเวลาและแรงงานในประปลูกมันฝรั่ง โดยการนำเครื่องทุนแรงมาวางบนแปลที่ขึ้นไว้แล้ว จากนั้นออกแรงดันเพื่อให้มีความกว้าง และความลึกเท่ากัน แล้วค่อยเอามันสำปะหลังลงปลูกได้เลย ไม่ต้องขุดซ้ำ
5.ใส่ปุ๋ยลงในช่วงระหว่างปลูก
6.นำหัวพันธ์ลงทำการเพาะปลูก
7. ในการปลูกมันฝรั่ง จะค่อนข้างเสี่ยงต่อการเป็นโรคและแมลง ดังนั้นเกษตรกรจะต้องหมั่นสังเกต และรีบหาทางจัดการเมื่อเห็นความผิดปกติ เนื่องจากมันฝรั่งค่อนข้างที่จะดูแลยากและต้องได้รับการเอาใจใส่อย่างเต็มที่
การบำรุงดูแลรักษามันฝรั่ง จะมี 3 ครั้งดังนี้
1.เกษตรกรจะต้องมีการใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในปริมาณ 100-150 กิโลกรัมต่อไร่ รองก้นหลุมก่อนที่จะมีการนำหัวพันธุ์ลงไปเพาะ
2.เมื่อมันฝรั่งมีอายุได้ประมาณ 15-20 วันตามด้วยปุ๋ยยูเรีย ในปริมาณ 25 กิโลกรัมต่อไร่ โดยการใส่ข้างๆ ต้นแล้วพูนดินกลบ
3.เมื่อมันสำปะหลังอายุได้ประมาณ 30 วันต่อด้วยปุ๋ยโปตัสเซี่ยมซัลเฟต ปริมาณ 25กิโลกรัมต่อไร่ ให้ใช้วิธีการโรยปุ๋ยเป็นแถวพร้อมกับพูนดินกลบ โคนอีกครั้งหนึ่ง
โรคและแมลงที่สำคัญ ที่จะทำให้หัวมันฝรั่งได้รับการกระทบกระเทือน เกิดเป็นแผล หรือรอยได้ มีดังนี้
1.โรคใบไม้ เริ่มแรกจะเป็นแผลบนใบ เป็นจุดช้ำ ฉ่ำน้ำ เป็นวงกลม และจะลุกลามขยายใหญ่ขึ้น สาเหตุของการเกิดโรค เกิดจากเชื้อราไฟทอฟเทอร่ำ ที่อยู่ในเศษซากพืช และอยู่ในต้นโรคและต้นพืชที่หลงเหลือ ในการป้องกันจะต้องหลีกเลี่ยงการปลูกพืชซ้ำที่เก่า การกำจัดจะต้องมีการใช้สารเคมีในการจำกัด
2.เพลี้ยอ่อน จะต้องมีการพ่นด้วย สารคาร์บาริล (เซพวิน 85) สลับกับคาร์โบซัลแฟน (พอสซ์) ทุก 10 วันถ้ามีเพลี้ย หรือหนอนลงชอนใบและเพลี้ยไฟระบาดควรพ่นด้วยสารฆ่าแมลงอิมิคำโคลพริค(คอนฟิดอร์100 เอสแอล) สลับไซเพอร์เมทริน/ไฟซาโลน(พาร์ซอน) ฉีดพ่นทุก ๆ 5-7วัน
3.ไส้เดือนฝอย สำหรับไส้เดือนจะเข้ามาทำลายจะเข้ามาทำลายราก ให้เกิดรากปม จากนั้นค่อยนเข้ามาทำรายหัวมันให้เกิดปุ่มปม ให้มีลักษณะหัวเบี้ยว เกษตรกรมักเรียกกว่าโรคหูด การป้องกันกำจัดดูแลรักษาแปลงให้สะอาด หมั่นกำจัดวัชพืชและพืชที่เป็นแหล่งอาศัยของไส้เดือน
4.หนอนผีเสื้อ ทำลายใบมันฝรั่ง จะทะลุเข้าไปเจากิ่งก้านไปกระทั่งหัวของมันฝรั่ง สามารถป้องกันด้วยวิธีการเก็บหัวพันธ์ของมันฝรั่งไว้ในโรงเก็บ ไม่ปลูกมันฝรั่งแบบต่อเนื่องกัน อาจมีการปลูกพืชอย่างอื่นสลับกันบ้างปะปนกันไป