แนะนำการทำอาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์

อาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
 

อาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เป็นอีกอาชีพที่มีผู้เลือกทำเป็นทั้งอาชีพหลัก และอาชีพเสริม เพราะรายได้จากการชายอสังหาริมทรัพย์นั้น ค่อนข้างสูง ถ้าหากอสังหาริมทรัพย์ที่ขายนั้นมีราคาสูง ผู้ที่เป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ก็จะได้ส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์สูงตามไปด้วย และนี่เป็นสิ่งจูงใจที่หลายๆ คนคิดจะทำอาชีพนี้ และหากอยากทำจะเริ่มจากตรงไหน ซึ่งคงตอบได้ยากเพราะต้องแล้วแต่ว่าคุณมีความสามารถในการเจรจา หรือการติดต่อกับผู้คนมากแค่ไหน หรือสามารถเข้าถึงผู้ที่ต้องการซื้ออย่างจริงจังได้แค่ไหน

การเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์นั้น ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะในปัจจุบันมีหลายแบบ เช่น เป็นนายหน้าประจำกับบริษัทที่ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ หรือนายหน้าอิสระ และมีทั้งที่มีใบอนุญาต และไม่มีใบอนุญาตในการเป็นนายหน้า อีกทั้งนายหน้าบางคนก็ผ่านการอบรม มีความรู้ในสาขาอาชีพ หรือบางคนแค่สมัครเล่น

ดังนั้นหากคุณอยากทำอาชีพนี้ควรศึกษาข้อมูล และสำรวจตัวเองว่าพร้อมหรือไม่ เพราะการที่จะขายที่สักแปลง หรือบ้านสักหลังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย คือ หากคุณเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่จะขาย คุณอาจแค่ลงประกาศขายเอง คือ ติดป้ายประกาศไว้ , บอกกล่าวคนรู้จัก , หรือ ประกาศตามเว็บไซต์ที่ลงประกาศฟรี หรือใช้บริการจากบริษัทซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และนี่ถือได้ว่าเป็นขั้นตอนแรกในการขายอสังหาริมทรัพย์ แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า ระยะเวลาที่จะขายได้นั้นไม่ใช่แค่ข้ามคืน บางครั้งอาจใช้เวลากันนานนับปีก็มี

ทีนี้เราอยากให้คุณเช้าใจถึงขั้นตอนการติดต่อกับบริษัทซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ในกรณีที่คุณเป็นผู้ขาย อันดับแรก คือ คุณต้องเลือกบริษัทที่จะให้มาเป็นตัวแทนขายให้คุณก่อน ซึ่งมีอยู่มากมาย คุณสามารถหาได้จากตามเวปไซค์ หรืออาจหาจากป้ายประกาศที่เกี่ยวกับการขายอสังหาริมทรัพย์ ที่เราเห็นโดยทั่วๆ ไป หรือหาจากหนังสือที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และเมื่อเลือกได้แล้ว เราก็ต้องติดต่อเพื่อนัดคุยในรายละเอียดต่างๆ เพราะบริษัทซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้นจะมีการตกลงทำสัญญาในการเป็นตัวแทนขายให้ ซึ่งรายละเอียดแต่ละบริษัทก็จะคล้ายๆ กัน

ซึ่งในขั้นตอนการเจรจานั้นคุณจะยังไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ทางบริษัทนายหน้าจะพิจารณาว่าอสังหาริมทรัพย์ของคุณนั้นมีโอกาสกี่เปอร์เซ็นต์ที่จะขายได้และทำกำไรได้มากน้อยแค่ไหน เพราะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบกัน เช่น ทำเลของอสังหาริมทรัพย์ สภาพอสังหาริมทรัพย์ หรือ ระยะเวลาการใช้งาน (เช่น บ้าน คอนโด) ขนาดพื้นที่ ราคาที่คุณต้องการขาย เพราะทางบริษัทนายหน้า จะทำการประกาศขายตามสื่อต่างๆ และติดป้ายประกาศ ซึ่งทางผู้ขายต้องแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนขาย โดยมีการกำหนดระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งการประกาศตามสื่อต่างๆ นั้น ทางบริษัทอสังหาริมทรัพย์จะเป็นผู้จัดให้ทั้งหมด หากมองแล้วว่ามีโอกาสทำกำไรได้

ซึ่งหากคุณไม่ต้องการที่จะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ใคร คุณต้องทำการประกาศขายตามสื่อต่างๆ เอง และอาจมีค่าใช้จ่าย เช่น ลงตามนิตยสารต่างๆ ซึ่งค่าโฆษณาขึ้นอยู่กับหน้าที่ลงประกาศ หรืออาจลงตามเว็บประกาศขายฟรีต่างๆ ซึ่งมีผู้เข้าไปค้นหาหรือเข้าชมเป็นจำนวนพอสมควร และอาจมีติดต่อกลับมา แต่คุณก็ต้องเข้าใจก่อนว่า การขายอสังหาริมทรัพย์นั้น เป็นอะไรที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน นอกจากอสังหาริมทรัพย์ของคุณน่าสนใจจริงๆ และตรงตามความต้องการของผู้ที่กำลังอยากได้หรือค้นหาอยู่พอดี ซึ่งก็เป็นไปได้ยาก

ดังนั้นการขายอสังหาริมทรัพย์ จึงต้องวางแผนให้ดีว่าความต้องการคุณเป็นแบบไหน เช่น ตั้งเป้าและระยะเวลาในการขาย เพื่อให้ได้ราคาตามต้องการ หรืออาจต้องรีบที่จะใช้เงินก้อนใหญ่ หรือขายไม่รีบร้อนตั้งราคาไว้และต้องการขายตามราคาที่ต้องการ ไม่กำหนดระยะเวลาในการขาย ซึ่งเราคงอาจบอกไม่ได้ว่าวิธีไหนจะดีที่สุด เพราะสิ่งที่จะตอบคุณได้นั้นมีหลายเหตุปัจจัยมาเกี่ยวข้อง เพราะในปัจจุบันที่มีการแบ่งผังเมืองตามสีต่างๆ ในการใช้สอยประโยชน์ที่ดิน และยังมีข้อกฎหมายก่อสร้างต่างๆ ที่เป็นตัวกำหนดอีกหลายอย่าง หากอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นที่ดินเปล่า แต่หากเป็นประเภทบ้าน หรือคอนโด ก็จะขึ้นอยู่กับทำเล และความสะดวกสบายต่างๆ เช่น ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ทั้งในโครงการและบริเวณใกล้เคียง การเดินทาง และสภาพการจราจร และความปลอดภัยในการอยู่อาศัย เป็นต้น

แน่นอนว่าการตัดสินใจขาย หรือซื้อนั้น คงต้องวางแผนต่างๆ ในขั้นต้นและเมื่อหากมีการตกลงซื้อขายกันอย่างแน่นอนแล้ว ก็จะต้องตกลงทำสัญญาซื้อขาย และต้องจัดการรังวัดสอบเขต (กรณีที่ดินเปล่า) แล้วจึงไปทำเรื่องการซื้อขายและโอนกันที่กรมที่ดินที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ โดยจะต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าภาษี ซึ่งจะแยกเป็นกรณีนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา ภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าอากร ค่าธรรมเนียมการโอนต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในส่วนของค่าโอนต่างๆ นั้น ต้องตกลงกันระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ออก ค่าใช้จ่าย เพราะมีทั้งออกคนละครึ่ง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ชำระให้ทั้งหมด

ซึ่งถ้าหากมีการใช้บริการของธนาคารเพื่อจำนองในการซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น จะต้องมีค่าธรรมเนียมจดจำนองด้วย และในส่วนนี้ผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้จดจำนองจะต้องเสียค่าธรรมเนียมส่วนนี้เอง และถ้าหากมีการใช้บริการนายหน้าผู้ขายจะต้องให้ค่าธรรมเนียมนายหน้าตามตกลงกันไว้ และจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงคร่าวๆ ในการจะซื้อจะขายอสังหา

error: Content is protected !!