วิธีการเปิดร้านล้างรถให้ประสบความสำเร็จ

การทำธุรกิจเปิดร้านล้างรถ
 

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะมีคนขับรถยนต์กันมากขึ้นๆ อีกทั้งยังมีนโยบายของรัฐในเรื่องโครงการรถคันแรกเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมากระตุ้นต่อมคนไทยให้ควักกระเป๋าซื้อรถกัน ส่วนใครมีกำลังทรัพย์มากหน่อยก็ขับรถยี่ห้อดัง รุ่นดีๆ ซักคัน เมื่อเราเป็นเจ้าของรถซักคันแล้วก็จะเกิดอาการหวงแหนรักรถของตัวเองเหมือนกับรถคือคู่หูที่คบกันมานมนาน ดังนั้นเพื่อให้คู่หูคู่ใจของเรามีสภาพภายนอกดีและเงาวับเหมือนใหม่เห็นแล้วชื่นใจ ธุรกิจล้างรถคือหนึ่งในคำตอบที่ช่วยปัดเป่าความสกปรกของรถโดยเฉพาะ

ธุรกิจล้างรถ หรือที่เรียกกันว่า คาร์แคร์ เป็นธุรกิจบริการที่เน้นทำความสะอาดรถเป็นหลัก และทำให้รถแห้งหลังจากล้างด้วยน้ำให้สะอาดแล้ว รวมถึงมีบริการเคลือบสีรถ, ทำความสะอาดภายในรถแบบต่างๆ และอาจมีบริการขจัดคราบอื่นๆ ตอบสนองคนไทยที่มีรถ อาทิ รถเก๋ง, รถกระบะ, รถตู้, รถบรรทุก ธุรกิจล้างรถเหมาะกับพื้นที่ที่มีอากาศร้อนอย่างบ้านเราอยู่แล้ว เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ที่หากขับรถออกนอกบ้านเมื่อไหร่ก็จะเจอกับฝุ่นละอองหรือฝนตกทำให้เกิดคราบสกปรกได้ง่าย

ใครที่สนใจอยากเปิดธุรกิจล้างรถจะต้องมีความอดทนสูงและมีพนักงานที่มีฝีมือล้างรถ (เจ้าของกิจการก็ควรมีสกิลการล้างรถและขัดเงารถด้วย) ส่วนการลงทุนจะเน้นที่อุปกรณ์, สถานที่, พนักงาน, ฯลฯ แล้วแต่ว่าจะเปิดกิจการล้างรถแบบไหน

ธุรกิจล้างรถมีกี่แบบกัน

ทำความสะอาดเบื้องต้น : เป็นการล้างรถที่คิดราคาไม่แพงมาก แต่ไม่ได้ทำความสะอาดรถแบบครบวงจรที่ใช้ค่าใช้จ่ายสูงกว่า การล้างแบบนี้จะเน้นการใช้น้ำและเป่าให้แห้ง เหมาะกับการตอบสนองลูกค้าที่ต้องการให้รถของตนสะอาดแต่ใช้เวลาไม่นาน

บริการล้างและเคลือบสี : เพิ่มเรื่องเคลือบสีมาเป็นของแถม เจ้าของรถส่วนใหญ่ต้องการให้สีรถของตัวเองเงางามตลอดไปอยู่แล้ว บางกิจการจะมีบริการเคลือบสีรถซึ่งจะทำให้สีของรถเงางาม, ป้องกันแสงแดดแรงกล้าที่นับวันจะแรงกล้ามากขึ้นๆ, ป้องกันรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นขณะขับรถ ฯลฯ ซึ่งลูกค้าบางท่านอาจนำน้ำยาแว๊กซ์มาเอง ก็อาจคิดค่าบริการเป็นค่าแรงได้ บางกิจการอาจมีบริการเคลือบแก้ว หรือ Glass Coating ซึ่งว่ากันว่าเป็นการเคลือบที่แพงมาก ตอบโจทย์ให้กับเจ้าของรถที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลรถของตนเอง เพราะการเคลือบแก้วจะปกป้องสีรถได้นานเพราะมีชั้นป้องกันสีรถที่หนาขึ้น ส่วนความเงางามจะมากกว่าการเคลือบสีแบบแว๊กซ์ หากเจ้าของกิจการสนใจจะเปิดบริการในส่วนของเคลือบแก้วด้วย คนที่ทำต้องมีความชำนาญด้วย

ทำความสะอาดภายในรถ : จะเน้นทำความสะอาดภายในของรถตามชื่อเลย เช่น ดูดฝุ่น, ฟอกหรือเคลือบเบาะ, ฟอกพรม, อบโอโซน, ฯลฯ ซึ่งพนักงานจะใช้ทักษะทำความสะอาดตามจุดต่างๆ โดยใช้อุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดภายในรถโดยเฉพาะ

ทำความสะอาดแบบครบวงจร : เป็นโปรแกรมการทำความสะอาดแบบจัดเต็มทั้งในและนอกตัวรถ บางร้านที่ให้บริการอาจมีให้เลือกเป็นแพ็คเกจแล้วแต่ว่าลูกค้าจะเลือกแบบไหน

จำหน่ายสินค้าทำความสะอาดรถ : ข้อนี้ตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากหาซื้อสินค้าไปทำความสะอาดรถสุดรักของตนที่บ้านแทน เช่น ฟองน้ำ, น้ำยาทำความสะอาด, น้ำยาขัดเงา, ผ้าเช็ด, เครื่องฉีดน้ำ, เครื่องดูดฝุ่น, ฯลฯ หรือบางคนอยากหาเช่าอุปกรณ์ ซึ่งบางร้านก็มีบริการให้เช่า

บริการซ่อมบำรุงรถ : เน้นการบำรุงรักษารถ ตรวจสอบระบบภายในรถหรือบริการเปลี่ยนอะไหล่ต่างๆ เช่น น้ำมันเครื่อง, ยางรถ, เบรก, แบตเตอรี่ ฯลฯ ซึ่งเจ้าของควรนำรถมาเช็คซ่อมบำรุงสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเวลาใช้รถเดินทางและใช้รถได้นานๆ

รูปแบบร้านสำหรับเปิดบริการ

ร้านล้างรถแบบเปิดกิจการเอง : ข้อนี้ตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากหาซื้อสินค้าไปทำความสะอาดรถสุดรักของตนที่บ้านแทน เช่น ฟองน้ำ, น้ำยาทำความสะอาด, น้ำยาขัดเงา, ผ้าเช็ด, เครื่องฉีดน้ำ, เครื่องดูดฝุ่น, ฯลฯ หรือบางคนอยากหาเช่าอุปกรณ์ ซึ่งบางร้านก็มีบริการให้เช่าร้านล้างรถแบบเปิดกิจการเอง : แล้วแต่ว่ามีทุนน้อยหรือมาก เจ้าของกิจการจะเลือกเปิดร้านเล็กๆ ต้นทุนไม่มากหรือร้านใหญ่หลายห้อง เจ้าของกิจการเลือกได้ว่าจะทำแบบทำเองคนเดียวหรือมีพนักงานช่วย คุณอาจเคยเห็นบางท่านเปิดร้านภายในบ้าน, ตามปั๊มน้ำมัน, ตั้งร้านใหญ่ๆ มาแล้ว เจ้าของกิจการจะดำเนินการในส่วนการตลาดและบริการทำความสะอาดรถเอง เรียกได้ว่าเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวเองอย่างแท้จริง

ร้านเฟรนไชส์ : สำหรับคนที่จับต้นชนปลายไม่ถูกแต่ต้องการระบบการจัดการสำเร็จรูปและมีเงินทุนมากพอสมควร เฟรนไชส์เป็นตัวเลือกอีกตัวหนึ่งของร้านล้างรถ อีกทั้งยังมียี่ห้อที่เป็นตัวเรียกลูกค้าที่เน้นใช้บริการร้านที่น่าเชื่อถือ แต่มีข้อจำกัดที่เจ้าของกิจการต้องปฏิบัติตามกฏที่ทางเฟรนไชส์ได้วางไว้ด้วย

รายได้จากการบริการ และขายสินค้า

การให้บริการล้างรถจะได้รายได้มากเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าได้เลือกใช้บริการแบบไหนและมากน้อยแค่ไหนด้วย เช่น การล้างรถอย่างเดียวจะได้รายได้ไม่มากนัก เพราะต้นทุนก็ไม่สูงมาก แต่ถ้ามีบริการที่ใช้ความสามารถพอสมควร ก็จะได้รายได้มากขึ้น เช่น แพ็คเกจแบบทำความสะอาดครบวงจร, การเคลือบแก้ว

รายได้อีกแบบหนึ่งคือ การเปิดให้สมัครสมาชิกเพื่อได้รับส่วนลดการให้บริการด้วย เป็นวิธีที่ดึงลูกค้าให้มาใช้บริการร้านบ่อยๆ หรือเปิดพื้นที่ขายสินค้าสำหรับทำความสะอาดเพื่อดึงลูกค้ามาจับจ่ายซื้อของ

ส่วนลูกค้าที่ไม่ค่อยมีเวลานำรถมาล้าง ทางร้านอาจเพิ่มช่องทางโดยการให้บริการล้างรถให้ถึงบ้านหรือที่ทำงาน แต่คิดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเดินทาง, ค่าน้ำ, ฯลฯ ไปด้วย

error: Content is protected !!