ครูสอนพิเศษ เป็นอาชีพที่น่าสนใจมากในปัจจุบัน และสามารถทำงานที่บ้านได้อีกด้วย เนื่องจากในปัจจุบันนี้อัตราการแข่งขันทางการศึกษามีค่อนข้างสูง การเรียนในห้องเรียนที่โรงเรียนไม่เพียงพอ เพราะจำนวนนักเรียนมีมากกว่าครูผู้สอน การดูแล หรือการเน้นความสำคัญของเนื้อหา รวมทั้งเทคนิควิธีต่างๆ หาได้จากการเรียนพิเศษ จึงมีสถาบันสอนพิเศษเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อนมากมากมายนัก
ลักษณะงาน
เป็นการถ่ายทอดความรู้ในวิชาที่เราเชี่ยวชาญให้กับผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีความเข้าใจมากขึ้นสามารถนำไปใช้ในการเรียนในชั้นเรียนได้และสามารถต่อยอดได้โดยมีผลการเรียนในรายวิชานั้นๆ ดีขึ้น หรือถ้าเป็นการสอนด้านดนตรีหรือกีฬา ครูผู้สอนสามารถส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะตามสิ่งที่เราสอนและสามารถปฏิบัติตามได้ อีกทั้งสามารถพัฒนาฝีมือตามขั้นตอนที่เราวางไว้ได้ หรือดีกว่า
คุณสมบัติครูสอนพิเศษ
หลายๆ คนอยากทราบว่า ตัวเรานี้ทำอาชีพครูสอนพิเศษได้รึเปล่า คำตอบคือ คุณทำได้แน่นอน 100% ขอเพียงคุณมีวุฒิการศึกษาที่ช่วยการันตีความรู้ของคุณเท่านั้นก็พอ ถ้าคุณจบปริญญาตรี คุณสามารถสอนคนที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นที่ต่ำกว่าปริญญาตรี นั้นคือ ตั้งแต่เด็กประถมจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย เพราะอะไร ก็เพราะคุณเรียนผ่านมาหมดแล้ว ขอเพียงคุณทบทวนความรู้ ศึกษาอ่านเพิ่มอีกนิด คุณก็สามารถสอนเด็กนักเรียนได้แล้ว ไม่ยากเลยครับ
รายได้
ส่วนมากคิดเป็นรายชั่วโมง หรือคิดเป็นคอร์ส ถ้าคิดเป็นรายชั่วโมงเริ่มต้นตั้งแต่ 50 บาทต่อชั่วโมงขั้นไป จนถึง ชั่วโมงละ 1000 บาทก็มีครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเรียนแบบไหน ถ้าเรียนเป็นกลุ่มจะถูกหน่อย แต่ถ้าเรียนตัวต่อตัวก็แพงขึ้นนิดหน่อย ถ้าคิดเป็นคอร์ส จะมีเป็นขั้นๆ เช่น ขั้นที่ 1 ขั้นพื้นฐาน ขั้นที่ 2 เป็นขั้นตอนต่อไปจนถึงระดับประยุกต์ การสอนเป็นคอร์สนี้ส่วนมากใช้กับการสอนกีฬา ดนตรี และภาษา ซึ่งราคาก็แล้วแต่ผู้สอน ซึ่งมีตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง ราคาที่ตั้งก็ไม่ควรจะสูงมาก เพราะถ้าสูงมากเกินไป เด็กนักเรียนก็จะเลือกไปเรียนที่อื่นดีกว่า ต้องตั้งแบบสมเหตุสมผลดีกว่าครับ
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็น (กรณีเรียนวิชาพื้นฐานเหมือนในโรงเรียน)
1. กระดานไวท์บอร์ด ราคาประมาณ 600 – 3000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด และรูปแบบของกระดาน ถ้าเป็นกระดานสำเร็จก็แพงกว่ากระดานเปล่า (กระดานที่ไม่มีขอบอลูมิเนียม)
2. ปากกาเขียนไวท์บอร์ด อันละ 20 บาท
3. เอกสารการเรียน เราอาจจะทำขึ้นเองโดยหาข้อมูลจากอินเตอร์เนต หรือหาซื้อหนังสือจากร้านหนังสือและถ่ายเอกสารแจกก็ได้
4. โต๊ะสำหรับนั่งเรียน ขึ้นอยู่ว่าต้องการโต๊ะแบบไหน ถ้าเป็นโต๊ะไม้อัดธรรมดาก็ถูกหน่อย
5. เก้าอี้สำหรับนั่งเรียน ถ้าซื้อเป็นเก้าอี้พลาสติก ราคาจะถูกกว่าเก้าอี้ไม้ เริ่มต้นตัวละ 150 บาท
6. สื่อการเรียนการสอน เราอาจะทำเองหรือบางอย่างสามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือ เช่น บัตรคำศัพท์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
การเตรียมตัวเป็นครูสอนพิเศษ
1. ทบทวนความรู้ที่จะสอน
อย่างแรกที่สำคัญที่สุดสำหรับอาชีพครูสอนพิเศษนี้ คือการเตรียมความรู้ของคุณ ไม่ว่าคุณจะมั่นใจมากแค่ไหนในความรู้ที่คุณมี คุณก็จำเป็นต้องเตรียมความรู้กันก่อน เพื่อเป็นการการันตีว่าคุณสอนได้แบบง่ายๆ ซึ่งแน่นอนว่าวิธีเตรียมความรู้ที่ดีที่สุด คือ ให้คุณหาข้อมูลในเรื่องที่คุณจะสอน นำมาศึกษาและทบทวนให้เข้าใจก่อนเริ่มสอน ทางที่ดี และง่ายที่สุด ให้คุณศึกษาหัวข้อที่จะสอนต่างๆ ให้หมดก่อนเริ่มเปิดรับนักเรียน ขั้นตอนนี้ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากเลย คุณเพียงแค่หาหนังสือที่จะสอนมาทบทวนความรู้มาอ่านให้เข้าใจ เท่านี้คุณก็พร้อมแล้วสำหรับการถ่ายทอดความรู้ที่ดีที่สุดที่คุณมีให้กับนักเรียนของคุณ
2. ศึกษาจิตวิทยาการสอน
เตรียมความพร้อมของคุณในด้านความมั่นใจ ความรู้สึก ในทักษะการสอน วิธีที่ง่ายที่สุด คือ ลองหาอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาต่างๆ ดู เช่น จิตวิทยาการสร้างความมั่นใจ การจูงใจ หรือจิตวิทยาการสอน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจจะช่วยคุณไม่ได้มากเท่าไหร่ ของเพียงมันช่วยคุณได้บ้างมันก็มากพอแล้ว และสิ่งสำคัญที่สุด คือ การวางตัวให้สมกับการเป็นครู จังหวะไหนเป็นกันเองก็ต้องเป็นกันเอง จังหวะไหนต้องเด็ดขาดมันก็ต้องเด็ดขาด จำไว้ว่า คุณจะไม่สามารถตามใจเด็กได้ในทุกเรื่อง
3. เตรียมเอกสารในการสอน
เรื่องสำคัญต่อมาคือการ เตรียมเอกสารของคุณที่จะใช้ในการสอน ก็จะขอแนะนำการสอนดังนี้ ในช่วงเริ่มต้น คุณอาจจะรับสอนแค่วิชาเดียว หรือสองวิชาเป็นพอ เพราะคุณยังไม่มีประสบการณ์ เดี๋ยวมันจะกลายเป็นว่าคุณทำอะไรเกินตัว ซึ่งเมื่อคุณเลือกวิชาที่คุณจะสอนได้แล้ว ให้คุณหาเอกสารที่ใช้สำหรับการสอนมาเยอะๆ ก่อน จากนั้นนำมาคัดแยกเรียงลำดับความสำคัญ อาจจะเป็นการสอนในหนังสือก็ได้ หรือคุณเองจะสังเคราะห์เนื้อหา ทำการสรุปย่อออกมาเพื่อใช้ในการสอนก็ได้
4. วางแผนการสอน
เรื่องต่อมาที่ขาดไม่ได้คือ การเตรียมแผนการสอนของคุณ ก็ขอแนะนำว่าให้คุณวางแผนการสอนในลักษณะเป็นชั่วโมงๆ หมายถึงกำหนดว่าชั่วโมงแรกสอนอะไร ชั่วโมงถัดไปสอนเรื่องอะไร มีแบบฝึกหัดอะไรบ้าง มีการบ้านไหม โดยให้คุณยึดหลักที่ว่า สอนทฤษฏีง่ายๆ ไม่ต้องลงลึก แต่ไปเน้นที่การสอนในข้อสอบ หรือแบบฝึกหัดจะดีมากกว่า เพราะยังไงในระหว่างคุณเฉลย หรือพาทำแบบฝึกหัดนั้น คุณเองก็ต้องอธิบายทฤษฏีอยู่แล้ว
5. เตรียมสถานที่สำหรับรับสอนพิเศษ
เรื่องของสถานที่อย่างเพิ่งไปคิดมาก และอย่างเพิ่งไปลงทุนจำนวนมากมาย รอให้คุณมั่นใจก่อน ค่อยลงทุนเช่าพื้นที่ทำห้องเรียน ถ้าบ้านของคุณมีพื้นที่ คุณอาจจะใช้บ้านของคุณ ในการเปิดทำการสอนพิเศษ เพื่อเป็นการลองดูว่าจะมีเด็กนักเรียนมาเรียนกับเรามั้ย ซึ่งถ้ามีมากเกินกว่าพื้นที่ คุณก็จำเป็นต้องขยายพื้นที่ไปเช่าออฟฟิตทำเป็นสถานสอนพิเศษแทน
6. หานักเรียนมาเรียน
ต่อมาสิ่งสุดท้ายที่คุณต้องเตรียม คือเตรียมนักเรียนของคุณ เพราะถ้าไม่มีนักเรียนมาเรียนคุณก็ไม่จะไม่มีรายได้ คำถามคือจะมีนักเรียนมาเรียนหรือไม่ คำตอบคือ มีแน่นอน ถ้าคุณลงมือทำอาชีพครูสอนพิเศษนี้อย่างจริงจัง ไม่ได้ทำเล่นๆ เพราะคนเราถ้าทำอะไรแบบจริงจังผลลัพธ์ที่ได้ ก็จะออกมาแบบจริงจังครับ
7. สำหรับผู้ที่ไม่มีทุนในการเช่าพื้นที่
หากใครไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร พื้นที่ที่บ้านก็ไม่พอ เงินทุนจะไปเช่าพื้นที่ก็ไม่มี ก็ขอแนะนำให้ไปสมัครเป็นติวเตอร์ที่เค้ารับติววิชาต่างๆ ในสถาบันที่เปิดติวหนังสือให้กับเด็กนักเรียน และนักศึกษาก่อน เพื่อเป็นแนวทางว่าจะเริ่มต้นสอนอย่างไรดี เพราะตามสถาบันต่างๆ ที่ติวหนังสือในรายวิชาต่างๆ เค้ามีแพลนอยู่แล้วว่าจะสอนอะไร อย่างไร เราก็สอนตามแพลน ใส่เนื้อหา เทคนิค เพิ่มเติมเท่านั้นเอง หรือหากใครคิดว่า เราก็เจ๋งพอตัว มีแนวทางการสอนอยู่แล้ว ก็ลุยกันเลยครับ
หาผู้เรียนได้จากที่ไหน
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสอนวิชาอะไร ถ้าเป็นวิชาพื้นฐานที่อยู่ในรายวิชาที่เรียนในโรงเรียน กลุ่มลูกค้าจะเป็นเด็กนักเรียน แต่ถ้าเป็นภาษาหรือดนตรีกลุ่มเป้าหมายอาจจะเป็นทั้งเด็กนักเรียน นักศึกษา และคนวัยทำงาน กลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายหลักส่วนมากคือกลุ่มนักเรียน หรือนักศึกษา (เรียนเพิ่มเติมในรายวิชาเดียวกับที่เรียนในชั้นเรียน และเรียนเพิ่มเติมในด้านต่างๆ เพื่อเป็นความสามารถพิเศษต่อไป) เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือการประชาสัมพันธ์โดยติดป้ายประกาศบริการในบริเวณโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย การแจกใบปลิวก็เป็นอีกทางหนึ่ง และยิ่งถ้าคุณมีหน้าร้านอยู่บริเวณสถานศึกษาดังกล่าวนี้ด้วยแล้วหล่ะก็ แค่ขึ้นป้ายร้านสักนิด งานก็ไหลมาเทมาแล้วล่ะครับ
อีกวิธีหนึ่ง การฝากประกาศรับสอนพิเศษไว้กับเว็บรับประกาศฟรีต่าง ๆ เช่น www.pantipmarket.com เป็นต้น ลูกค้าเห็นประกาศจะติดต่อมาเอง โดยต้องมีที่อยู่หรือเบอร์โทรที่สามารถติดต่อได้สะดวก เมื่อเราเริ่มเปิดสอน ถ้าเราสอนดี และทำให้นักเรียนมีผลการเรียน หรือมีทักษะในสิ่งที่เราสอนเพิ่มขึ้น ก็จะเกิดการบอกต่อๆ กันไปในหมู่เพื่อนฝูง และในหมู่ผู้ปกครอง (ผู้ปกครองเป็นแรงผลักดันที่สำคัญมาก) ซึ่งจะทำให้เราได้ผู้เรียนที่เพิ่มขึ้นได้
ขอสรุปวิธีการหานักเรียนมาเรียนไว้นะครับ
1. ใช้วิธีปากต่อปาก หมายถึงให้คุณบอก เพื่อน คุณรู้จัก ญาติพี่น้อง ว่าคุณทำอาชีพครูสอนพิเศษ และขอให้พวกเขาช่วยแนะนำเด็กมาเรียนพิเศษ เมื่อมีการพูดปากต่อมากกันมากๆ เดียวก็มีผู้ปกครองพาเด็กมาเรียนเอง
2. สร้างโฆษณา ติดไว้หน้าบ้านของคุณ เพื่อบอกว่าคุณรับสอนพิเศษในราคาเป็นกันเอง
3. บางครั้งคุณก็ต้องมีการจัดโปรโมชั่นบ้าง เช่นมาลงทะเบียนเรียนพร้อมกัน 4 คน คิดคาราค่าลงทะเบียนแค่ 3 คนเท่านั้น เป็นต้น
4. ผ่านเพื่อนที่เป็นครู ช่องทางนี้ดีมาก ให้เพื่อนของคุณแนะนำนักเรียนของเขามาเรียนกับคุณ และจะดีมากขึ้นอีก ถ้าคุณสามารถดึงคุณครูที่เป็นเพื่อนของคุณ มาสอนด้วยกัน เพราะจะได้ช่วยการันตีการสอน และยังได้นักเรียนที่เป็นลูกศิษย์ของเพื่อนคุณตามมาด้วย
สรุป
สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็ตามแต่ในโลกใบนี้ จะเป็นอาชีพประจำ อาชีพเสริม อาชีพอิสระ หรือแม้แต่การทำอย่างอื่นในชีวิตของคุณ ขอเพียงคุณลงมือทำเท่านั้น มันถึงจะมีผลลัพธ์เกิดขึ้น หากคุณไม่ลงมือทำอะไรเลย มันก็จะไม่มีผลลัพธ์อะไรเกิดขึ้นเช่นกัน และถ้าคุณลงมือทำมันอย่างจริงจังผลลัพธ์ที่คุณจะได้ คุณก็จะมีรายได้แบบจริงจัง ถ้าคุณลงมือทำแบบอาชีพเสริม ผลรับที่คุณจะได้รับคือ รายได้แบบอาชีพเสริม และถ้าคุณลงมือทำด้วยความสุข ผลลัพธ์ที่คุณจะได้คือ ความสุข และรายได้
สำหรับคนที่คิดว่าตนเองมีความรู้ และกำลังมองหารายได้พิเศษอยู่ อาจจะนำอาชีพครูสอนพิเศษนี้ไปพิจารณา แล้วลองทำดูก็ดีเหมือนกันนะครับ