สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่สนใจทำธุรกิจ SME วันนี้เรามีสูตรพารวยมาแบ่งปันกันอีกแล้วนะครับ โดยธุรกิจวันนี้ขอแนะนำการทำขนมจีบซาลาเปาขายครับ เนื่องจากเราเล็งเห็นว่า ขนมจีบซาลาเปาเป็นอาหารที่อร่อยถูกปากคนไทย รับประทานได้ง่าย สะดวกทุกเวลา แถมยังทานได้สนิทใจ ไม่มีพิษมีภัยต่อสุขภาพ เหมือนอย่างอาหารปิ้งย่าง หรืออาหารทอดเกรียมอย่างอื่นนะครับ ซึ่งนอกจากร้านเซเว่นแล้ว ขนมจีบซาลาเปาก็ยังไม่มีการขายแพร่หลายนัก นอกจากไปร้านอาหารติ่มซำดังๆ
วิธีการทำขนมจีบแบบธรรมดา
– หมูสับ 400 กรัม
– หมูเด้ง 400 กรัม (ปรุงรสแล้ว)
– กุ้งสับหยาบ 200 กรัม
– มันหมูแข็ง หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 100 กรัม
– กระเทียม ,พริกไทย และรากผักชี โขลกให้ละเอียด มากน้อยตามความชอบ
– น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
– แห้วสับหยาบ กะเอาเองครับ
– เห็ดหอมสับหยาบ กะเอาเองครับ
เมื่อได้วัตถุดิบมาแล้ว ให้เอาทุกอย่างผสมให้เข้ากัน และพักไว้ และให้นำแป้งเกี๊ยว (ตราไก่) 1 ห่อ ตัดมุมทั้ง 4 มุม จุ่มน้ำ แล้วเอาขึ้นทันที จะช่วยให้แป้งเกาะไส้ และแป้งเกี๊ยวนิ่ม ตักไส้ใส่ ใหญ่เล็กตามใจครับ และให้ขยำๆ แป้งวางบนลังถึงที่วางใบตองฉีก และทาน้ำมันเอาไว้แล้ว เมื่อเราวางขนมจีบเต็มลังถึงแล้ว ก่อนนึ่งต้องพรมน้ำก่อนนะครับ ขนมจีบเราจะได้ดูนิ่มๆ เด้งๆ
วิธีการทำขนมจีบไก่
– ไก่บด 3 ขีด ซื้อที่เขาบดแล้วมันจะปนหนังด้วย ซึ่งหนังมันๆ ที่ปนอยู่จะทำให้ไส้นุ่มไม่กระด้าง ถ้าใช้หมูก็ต้องเป็นหมูสับผสมกับมันหมูแข็งต้มสุกสับละเอียด
– ข้าวโพดดิบฝาน
– แครอทหั่นเต๋าเล็กๆ พอประมาณ
– ต้นหอมซอยสัก 2 ต้น
– ซอสปรุงรส
– รากผักชี กระเทียม พริกไทย อาจเพิ่มรสดีรสไก่ก็ได้แต่ต้องลดซอสปรุงรสลง
– แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
– เห็ดหอมหั่นละเอียด
– แผ่นเกี๊ยว ต้องเลือกแบบที่เป็นแผ่นบางอย่าเอาอย่างแผ่นหนาไม่เหมาะทำขนมจีบ เวลานึ่งแล้วแป้งจะแข็งไม่นิ่ม
1. นำส่วนผสมไส้ทั้งหมดผสมเข้าด้วยกัน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าไส้รสชาดใช้ได้แล้ว วิธีทดสอบคือให้นำไส้มาปั้นเหมือนทอดมันแล้วนำไปทอดให้สุกแล้วชิมดู ถ้าถูกใจแล้ว ก็นำไส้ที่ผสมแล้วพักแช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
2. ตัดแผ่นเกี๊ยวให้เป็นวงกลม นำไส้ที่แช่ตู้เย็นเรียบร้อยแล้วมาห่อ โดยตักไส้ใส่ตรงกลางแผ่นแป้ง โดยทำมือให้หัวแม่มือกับนิ้วชี้เป็นวงกลม วางแผ่นเกี๊ยวลงไป ตักไส้ใส่ลงไป แล้วห่อจับจีบให้ดูสวยงาม
3. จัดใส่ลังถึงโดยปูผ้าขาวบางบนลังถึงก่อน หรือจะใช้ใบตองรอง หรือจะนำน้ำมันทาลงบนลังถึงตามแต่ถนัด แล้วนำขนมจีบจัดวางลงไปอย่างให้ติดกัน นำไปนึ่งน้ำเดือดประมาณ 5 นาที ก็รับประทานได้แล้วครับ
ลองทำดูนะครับ เพราะที่ทำไส้จะไม่เละเกาะตัวกันดีแล้วแป้งก็ไม่กระด้างด้วยครับ ทำสำคัญแผ่นแป้งต้องบางครับ ถ้าเอาออกมาจากห่อแล้วแป้งแข็งหรือแห้งก็ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดแผ่นแป้งก่อนห่อก็ได้ครับ ถ้าต้องการใส้กุ้งก็เพิ่มกุ้งเข้าไปได้ครับ โดยกุ้งจะหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เคล้ากับเกลือนิดหน่อยแล้วผสมกับส่วนผสมอื่นๆ บางสูตรก็จะเพิ่มไข่ขาวลงไปด้วย 1 ฟอง แต่ที่ทำจะไม่ได้ใส่ไข่ขาวใส่ แต่แป้งข้าวโพดก็จับตัวกันดี แล้วแต่ความชอบนะครับ
ข้อมูลเกี่ยวกับซาลาเปา
ซาลาเปา หรือภาษาจีนเรียกว่า เปาจื่อ ซึ่งพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 นิยามว่า “ชื่อขนมชนิดหนึ่งของจีน ทำด้วยแป้งสาลีปั้นเป็นลูกกลม ข้างในใส่ไส้ มีทั้งไส้หวานและไส้เค็ม”
ซาลาเปาเป็นอาหารจีนชนิดหนึ่งทำมาจากแป้งสาลีและยีสต์ และนำมาผ่านขบวนการนึ่ง ซาลาเปาจะมีไส้อยู่ภายในโดยอาจจะเป็นเนื้อหรือผัก ซาลาเปาที่นิยมนำมารับประทานได้แก่ ซาลาเปาไส้หมู และ ซาลาเปาไส้ครีม สำหรับอาหารที่มีลักษณะคล้ายซาลาเปา ที่ไม่มีไส้จะเรียกว่า หมั่นโถว นอกจากนี้ซาลาเปายังคงเป็นส่วนหนึ่งในชุดอาหารติ่มซำ ในวัฒนธรรมจีน ซาลาเปาสามารถนำมารับประทานได้ในทุกมื้ออาหาร ซึ่งนิยมมากในมื้ออาหารเช้า
ซาลาเปาได้ชื่อว่าได้รับการคิดค้นขึ้นมาโดย จูกัดเหลียง หรือ ขงเบ้ง ในคริสต์ศตวรรษที่ 2 เมื่อจูกัดเหลียงกลับจากการต่อสู้กับเบ้งเฮ็กแล้วก็เดินทางมากถึงแม่น้ำแห่งหนึ่งที่คนแถวนั้นเชื่อว่ามีวิญญาณสิงอยู่ใต้น้ำ ทหารบอกจูกัดเหลียงว่า ถ้าจะข้ามฟาก ต้องตัดหัวทหารทั้งหมดเพื่อบูชาดวงวิญญาณ แต่จูกัดเหลียงไม่อยากให้ทหารต้องตายจึงคิดการทำหมั่นโถวขึ้นมา แล้วปล่อยให้ลอยตามน้ำเพื่อบูชาดวงวิญญาณ เมื่อบูชาแล้ว จูกัดเหลียงก็พาทหารข้ามสะพานไปยังพระนครเซงโต๋
ในภาษาอังกฤษเรียกซาลาเปาว่า “Chinese bun” ถ้ารู้ไส้ก็เรียกตามไส้ เช่น “pork bun” คือ ซาลาเปาไส้หมู
วิธีการทำซาลาเปา
วันนี้ผมจึงอยากจะมาสาธิตวิธีเริ่มธุรกิจกันได้อย่างง่ายๆ เลยครับ
เริ่มจากมาลองหัดทำซาลาเปากันก่อนเลยดีกว่า ดูสิว่าฝีมือของท่านอยู่ระดับไหน วิธีการทำก็ไม่ยาก เตรียมส่วนผสมได้เลยตามนี้ครับ
– แป้งสำเร็จรูป หรือแป้งร่อนแล้ว 500 กรัม
– ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
– นำเปล่า 350 กรัม
นำส่วนผสมทั้งสามอย่างมาผสมเข้าด้วยกันเป็นเนื้อเดียว และใส่ภาชนะปิดฝาทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง เนื้อแป้งจะฟูขึ้นมาประมาณ 2-3 เท่า จากนั้นเตรียมแป้งอีกส่วนหนึ่งประกอบด้วย
– แป้ง 500 กรัม
– น้ำตาลทราย 200 กรัม
– เกลือ ครึ่งช้อนชา
– เนยขาว 110 กรัม
– น้ำเปล่า 150 กรัม
– นำส่วนผสมที่สองมาใส่รวมกับก้อนเชื้อแป้งที่หมักไว้ก่อนหน้า แล้วผสมให้เข้ากันด้วยเครื่องผสม จนรู้สึกว่าเนื้อเนียนเป็นก้อนเดียวกัน ไม่ติดชามแล้ว ก็ลองเอามือดึงแบ่งมาดู เนื้อแป้งจะต้องเหนียวนุ่มมากถึงจะเรียกว่าใช้ได้แล้ว
– จากนั้นก็ตัดแบ่งแป้งเป็นก้อนๆ เพื่อเตรียมใส่ไส้ โดยไส้ที่ทำก็แล้วแต่จะครีเอทีฟกันเลยนะครับ ทั้งนี้ไม่ควรพลาดไส้ยอดนิยมอย่างหมูสับและไส้ครีมครับ จะจัดไส้กันเต็มๆเอาใจลูกค้าก็ว่ากันเลย ถ้าไม่กลัวขาดทุน
– สำหรับไส้อื่นๆ ก็อาจจะทำไส้ถั่วดำ ถั่วแดง หรือคิดไส้ขึ้นมาเองง่ายๆ เช่นไส้กะเพราะ แกงกะหรี่ แกงเขียวหวาน ลองดูนะครับ อันนี้แล้วแต่ฝีมือของใครของมัน ไม่กล้าบอกสูตร เพราะไม่มีจริงๆ ครับ
– ได้แป้งได้ไส้มาแล้วขั้นต่อไป ก็เริ่มปั้นซาลาเปา ใส่ไส้ให้เป็นลูกได้เลยครับ หัดพับจีบพับมุมให้สวยหรูดูน่ารับประทานด้วยนะครับ ทิ้งเอาไว้ให้แป้งขึ้นต่ออีกสักครึ่งชั่วโมง เพื่อความหนานุ่มอร่อยนะครับ
– ขั้นต่อไป ก็ตั้งหม้อน้ำให้เดือด แล้วนำซาลาเปาไปนึ่งสักสิบนาที แค่นี้ก็อร่อยแล้วครับ
พอทำเสร็จแล้ว จะไปขายตามตลาดนัดก็ได้ ตามเส้นทางที่มีคนเดินผ่านไปมาเยอะๆ ก็ดี ยิ่งถ้าหากหน้าบ้านท่านอยู่ติดถนน หรือเป็นซอยทางเข้าหมู่บ้าน ก็จะเข้าทางเลยทีเดียวครับ
เป็นอย่างไรเอ่ย วิธีการช่างง่ายเลยนะครับ ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่การทำไส้ให้อร่อยติดใจลูกค้าด้วยครับ อย่าลืมไปฝึกปรือฝีมือกันนะครับ ขอให้รวยจากการขายขนมจีบซาลาเปานะครับ สวัสดีครับ