หนังสือสร้างแรงบันดาลใจเปลี่ยนชีวิตใหม่

เพราะหนังสือเป็นแหล่งรวมพลังใจที่แสวงหาได้ง่ายอีกวิธีหนึ่ง จึงไม่แปลก หากเราค้นพบความสุข และเปลี่ยนชีวิตตนเองได้จากถ้อยคำในหนังสือ ขึ้นชื่อว่าหนังสือ ล้วนแล้วแต่บรรจุไปด้วยความรู้ใหม่ๆ ที่รอให้เข้าไปศึกษาภายในเล่มอย่างมากมาย ไม่เว้นแม้แต่หนังสือการ์ตูน หนังสือบทกลอน หนังสือนวนิยาย รวมไปจนถึงหนังสือเรียน และหนังสือที่เต็มเปี่ยมไปด้วยปรัชญาวิชาการที่อัดแน่นไปด้วยความรู้ล้ำลึกเล่มหนา มีใครบ้างไหมที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ ผมกล้าตอบอย่างมั่นใจเลยทันทีว่ามี และจำนวนคนอ่านหนังสือในบ้านเราถ้าเทียบกับเด็กต่างชาติที่ขวนขวายหาความรู้ใส่ตัวนั้นย่อมเทียบกันไม่ติดอยู่แล้ว น่าแปลกใจเหลือเกินที่ว่า หนังสือเป็นสิ่งที่ให้ความรู้ ให้ความแปลกใหม่อย่างที่เราไม่คาดคิดอยู่หลายเล่ม บางเล่มสามารถทำให้เราฉุกคิดตาม และนำบทเรียนในตำราเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ได้กับชีวิตจริง แต่ทำไมเราจึงละเลย เมื่อสิ่งที่หนังสือเขียนสอนไว้ล้วนมีความหมายว่า ‘ดี’ แต่คนเราสมัยนี้ รู้แต่กลับไม่ทำเอง

เพราะแค่อ่านหนังสือ ก็เหมือนการพาตัวเองท่องโลกกว้างไปยังดินแดนแปลกใหม่ ที่อัดแน่นไปด้วยความรู้ ประสบการณ์หลากหลายของคนสำคัญอื่น ๆ ที่โลกระลึกไว้จดจำ กระทั่งสิ่งเล็ก ๆ รอบตัวที่เป็นองค์ความรู้ให ม่ๆ ทำให้เรากลายเป็นคนที่น่าทึ่งและมีความพิเศษเหนือกว่าคนอื่น ๆ ได้ คนบางคนสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองจากจุดที่ต่ำ จุดที่คนอื่นมองว่าเรามีปมด้อยทางความคิดหรือทางใดก็ตาม แต่คน ๆ นั้นก็กลับมามีชีวิตใหม่ที่โดดเด่นมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปด้วยซ้ำ และนั่นก็เป็นเพราะหนังสือเพียงเล่มเดียวที่เขาได้อ่านศึกษาความรู้นั่นเอง

ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่เริ่มอ่าน

1.เลือกหนังสือที่ชอบโดยที่เนื้อหาในเล่มไม่เทอะทะหนาตามากเกินไป เพราะหากเราเป็นคนอ่านหนังสือช้า หรือไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือเท่าไร กว่าจะอ่านจบสักตอนก็อาจทำให้เราเบื่อการอ่านไปเสียก่อน
2.หลายคนอ้างว่าไม่มีเวลาอ่านหนังสือ แนะนำให้อ่านในช่วงเวลาก่อนนอน จะดีที่สุด ตัวหนังสือจะพาเราท่องโลกจินตนาการและปลดปล่อยอารมณ์ขณะนั้นให้ผ่อนคลาย คิดตามได้ และที่สำคัญการอ่านหนังสือก่อนนอนจะช่วยขับกล่อมทำให้เรานอนหลับง่ายและฝันดีอีกด้วยนะ
3.แบ่งบทตอนของเนื้อหาไว้พอสมควรที่เราจะอ่านในช่วงเวลาหนึ่งจบ อย่างเช่นนวนิยาย อาจจะแบ่งไว้อ่านก่อนนอนหรือตอนที่ว่างสักครั้งละ 2-3 บท เพื่อจะทำให้เราไม่เบื่อหน่ายกับการรีบเร่งต้องอ่านให้จบภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว นอกเสียจากเป็นหนังสือที่เราอ่านแล้วชอบ รู้สึกสนุกไปกับมันอย่างแท้จริงเราอาจจะอ่านเพียงรวดเดียวจบเลยก็ได้

วันที่ชีวิตเรากำลังต้องการคำตอบ ให้มองหาหนังสือที่แทนความหมายดี ๆ สักเล่ม เพราะหนังสือนี่แหละที่ถูกสร้างมาเพื่อเปลี่ยนชีวิตเราให้เป็นคนละคน เหมือนหลายครั้งเวลาที่เราอ่อนแอ ไร้กำลังใจ พอหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านทีไร เหมือนรู้สึกพบชีวิตใหม่ขึ้นมาทุกที

ผมก็ขอแนะนำหนังสือสร้างแรงบันดาลใจไว้แบบคร่าวๆ นะครับ

มองโลกให้”บวก”
Price Pritchett, ดร.ทรรศนะ บุญขวัญ(แปล)

มนุษย์แต่ละคนมีข้อแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย นั้นคือทัศนคติ ส่วนความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่นั้น คือ ทัศนคติเป็นบวกหรือเป็นลบ ทัศนคติในการมองเชิงบวกนั้น เป็นแรงกระตุ้นที่ช่วยดึงศักยภาพภายในตัวออกมา การมองเชิงบวกยังนำมาซึ่งแสงที่ส่องมายังมุมมือในชีวิต คนที่มองเชิงบวกจะตีเหตุการณ์ต่างๆ ในมุมมองของความหวัง มองหาผลประโยชน์และทางออกที่สร้างสรรค์ เปิดโอกาสให้กับความคิดใหม่ๆ ในขณะที่คนมองเชิงลบจะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป

“จงออกแบบทัศนคติให้ออกมาในแง่ดี”
“จงระวังวิธีการที่คุณตีความหมายโลกใบนี้อย่างไร มันก็เป็นอย่างงั้น” (Eric Heller)
“ความหวังช่วยกำหนดทิศทางสู่เป้าหมายและนำมาซึ่งความทะเยอทะยาน”
“การมองแง่บวกเป็นพลังอันมหาศาล” (Colin Powell)
“การมองในแง่บวกเป็นทัศนคติของผู้ชนะ และมันเป็นกุญแจดอกสำคัญสู่การมีชีวิตที่ดีขึ้น”

เมื่อยักษ์ตื่่น!
โค้ชสิริลักษณ์ ตันศิริ

จากซุเปอร์ซิ้ม ผู้จัดการฝ่ายบัญชีที่อยู่ในโลกแคบๆ มากว่า 10 ปี จนได้มารู้จักกับธุรกิจเครือข่าย และอยากประสบความสำเร็จอย่างคนอื่นๆ พยายามขวนขวาย อ่านทั้งหนังสือเข้าฟังสัมนามากมาย จนทัศนคติเริ่มเปลี่ยนไปและประกาศกับตัวเอง “ฉันจะเป็นคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของความตั้งใจ ของความมุ่งมั่น ของความอดทน ของความพากเพียรพยายาม ฉันจะทำจนกว่าความฝันของฉันเป็นจริง ฉันมีพลัง ฉันเชื่อมั่น ฉันทำได้!”

ในที่สุดก็สำเร็จและอยากถ่ายทอดความสำเร็จนี้ โดยเริ่มที่น้องๆ ธุรกิจเครือข่าย 5-6 คน และเริ่มเพิ่มมากขึ้น ทุกคนเมื่อฟังจบ ต่างปรบมือ และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “พี่สุดยอดจริงๆ” และตัวเองมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น อยากสอนคนอื่นมากขึ้น โดยมี Anthony Robbins เป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจ อยากที่จะเป็นแบบเขาและมองดูตัวเอง สร้าพลังให้กับตัวเอง สร้างจิตนาการให้กับตัวเอง ปลุกยักษ์ที่มีในตัวเองให้ตื่นขึ้น ฉันรักตัวเอง ฉันรักความฝันและทำมันจนสำเร็จ เป็นนักโมติเวทหญิงคนแรกของเมืองไทย

“ฝันในสิ่งที่คุณอยากฝัน ไปในที่ที่คุณอยากไป เป็นคนที่คุณอยากจะเป็น เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว คือชาตินี้ ที่จะได้ทำในสิ่งที่คุณอยากทำ”
-โค้ชสิริลักษณ์ ตันศิริ-

กลยุทธ์สู่ความสำเร็จในธุรกิจส่วนตัว
ฟิลิป ฮอลแลนด์

เล่มนี้ก็ดีมากๆ เป็นความล้มเหลวในการพยายามทำธุรกิจถึงสี่ครั้งสี่ครา ลองเข้าไปอ่านดูได้ครับ แต่ยังไงเค้าก็สู้ครับ เพราะชีวิตยังต้องเดินต่อไปตามฝัน ที่สำคัญต้องถามตัวเองว่าฝันคืออะไร อะไรที่เราอยากทำ คิดและวางแผน แล้วลงมือทำครับ

เหนื่อยชั่วคราว สบายชั่วโคตร
พอล ภัทรพล

ผมอ่านแล้ว หัวใจหลักๆคือ เป็นการแนะนำการหาเงินแบบ passive income (สร้างระบบให้มีรายได้เข้ามา แม้ว่าเราจะทำงานหรือไม่ทำก็ได้) มันเป็นเหมือนการเล่าชีวิตของพอลว่ากว่าที่ชิวิตเค้า จะมาถึงจุดที่ ได้รู้จักกับคำว่า “เหนื่อยชั่วคราว สบายชั่วโคตร” และในความหมายของคำว่า financially free มันเป็นยังไง ทำอย่างไรให้เกษียณอายุได้เร็วขึ้น ไม่จำเป็นต้องรอให้แก่แล้วค่อยเกษียณ หนังสือดีครับ ลองหาซื้อมาอ่านกันดู

สมองสงสัย ใจตอบ
ขุนเขา

แนะนำ “สมองสงสัย ใจตอบ” ของขุนเขา ดีมากครับ ทำให้เข้าใจตัวเอง เข้าใจคนรอบข้างมากขึ้น จึงมีความสุขมากขึ้น และทำให้เกิดแรงบันดาลใจอยากทำอะไรดีๆ มากขึ้น

error: Content is protected !!