มีรุ่นน้องผมคนหนึ่งตกงานมานานแล้ว และได้มาปรึกษาผม ในทำนองว่า ผมตกงานมาปีกว่าแล้วรู้สึกเครียดมาก อายุก็มากขึ้นเรื่อยๆ ทางบ้านก็กดดัน เพื่อนๆ เค้าได้ดีไปหลายคนแล้ว สุขภาพจิตผมแย่มากครับ วันๆ แทบไม่พูดกับใครเลย ช่วยแนะนำด้วยนะครับ ว่าจะทำอย่างไรดี
ผมจึงให้ความคิดเห็นเค้าไปว่า
อย่าคิดมาก และอย่าปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปเฉยๆ นะครับ ให้มองดูคนที่ตกงานนานกว่าเรา คุณอาจจะสมัครงานไปด้วย และในช่วยเย็นๆ ของทุกวันก็ไปเรียนอาชีพเสริมพิเศษจากโรงเรียนสารพัดช่างเพื่อฝึกงานด้านอาชีพ อาจจะทำขนมขาย เรียนช่างซ่อม หรือไม่ก็ลองไปเรียนนวดแผนไทยที่วัดโพธิ์หรืออะไรอื่นๆ ลองให้เวลากับตัวเองในการคิด และวางแผน คนเราท้อได้ แต่อย่าท้อนาน
และขอให้คุณจงมีความพยายามต่อไป บางช่วงชีวิตเราอาจไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ไม่ได้หมายความว่าตลอดไป และอย่าเลือกงานจงถือคตินี้ครับ อย่าหางานที่เหมาะสมแก่ตัวเอง จงทำตัวให้เหมาะสมแก่งาน ขอให้ถือคตินี้ไว้แล้วคำว่าตกงานจะไม่เกิดขึ้นแก่คุณแน่นอน หรือลองไปฝึกใจด้วยการปฏิบัติธรรมสักพัก แล้วทุกอย่างมันก็จะดีเอง ขออวยพรขอให้คุณได้งานเร็วๆ
และผมเสริมเพิ่มเติมกับท่านผู้อ่านว่า มีคำกล่าวที่ว่า เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตก็คือเวลางาน เพราะงานเป็นการปฏิบัติอย่างสำเร็จของกระบวนการความสร้างสรรค์ส่วนบุคคล ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่รู้สึกแย่เอามากๆ เลย ที่เราตกงาน แต่อยากให้คุณค้นหาตัวเองว่าชอบอะไร และจะทำอะไรให้กับตัวเองได้บ้าง งานอะไรก็ได้นะ ที่ทำแล้วสบายใจทำไปก่อนก็แล้วกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่หนักมากแต่ถ้าทำแล้วสบายใจก็โอเคนะ งานของเราจะทำให้เรามีความสุขเสมอ แต่คนส่วนใหญ่มักไม่สนุกกับงาน เพราะเรายังไม่ค่อยจะเข้าใจและรู้จักตัวเองดีพอ
ผมคิดว่าถ้าคุณถามตัวเองดีๆ ว่า ถ้าจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตแล้วหล่ะก็ คุณอยากทำอะไร อะไรเป็นสิ่งที่กระบวนการความคิดสร้างสรรค์คุณบรรเจิด ผมคิดว่า คุณจะไม่รอช้าเลยสักนิดเดียวที่จะไขว่คว้างานนั้นมาให้เร็วที่สุด ขอให้ค้นตัวเองให้เจอ และเริ่มงานให้ได้นะครับ ไม่มีอะไรที่เรารักแล้วทำไม่ได้