11 วิธีกินอยู่อย่างประหยัด

ในปัจจุบันนี้อะไรๆ ก็แพงไปหมด ทั้งอาหารการกิน และการเป็นอยู่ แต่เงินเดือน หรือรายรับยังเท่าเดิม ซึ่งเราก็จะต้องรัดเข็มขัดประหยัดค่าใช้จ่ายกันมากขึ้น และหนทางที่จะทำให้เงินมีพอใช้ นั่ก็คือ หารายได้ให้เพิ่มมากขึ้น หรืออีกทางก็คือ ประหยัดเงินให้มากขึ้น ซึ่งการประหยัดเงินนั้นสามารถทำได้ไม่ยากเลยครับ วันนี้ผมก็จะขอแนะนำ 11 วิธีกินอยู่อย่างประหยัดครับ

1. ทำอาหารกินเอง

การทำอาหารกินเองช่วยให้คุณประหยัดขึ้นได้จริง เนื่องจากการทำอาหารกินเองนั้น คุณเป็นคนเลือกซื้อวัตถุดิบในการปรุงอาหารได้ หรืออาจจะเลือกปลูกผักเองเพื่อใช้ในการประกอบอาหาร การทำอาหารกินเองช่วยให้ประหยัดค่ากับข้าวไม่ว่าจะเป็น แกงถุง อาหารสำเร็จรูป หรืออาหารตามร้านอาหาร ได้มาก

2. ปลูกผักกินเอง

ผักเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้นหากบ้านของคุณมีพื้นที่อยู่บ้างก็ควรเลือกปลูกผัก อย่าง พริกขี้หนู กะเพรา โหระพา ต้นหอม ผักชี มะนาว หรือผักอื่นๆ ที่สามารถเติบโตได้ง่าย และไม่ใช้พื้นที่ในการปลูกมากนัก เพราะหากมีวัตถุดิบเองก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการต้องซื้อผักมาปรุงอาหาร อีกทั้งหากช่วงนั้นผักมีราคาแพง คุณก็สามารถเก็บผักที่ปลูกมาใช้ได้เลยไม่ต้องไปหาซื้อ

3. เลือกสถานที่ซื้อ

เราควรเลือกสถานที่สำหรับการซื้อวัตถุดิบในการทำอาหาร ไม่ว่าจะเป็นตลาดสด หรือซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยเลือกผักตามฤดูกาลซึ่งจะมีราคาที่ถูก ส่วนเนื้อหมู ไก่ ปลา หรืออาหารทะเลก็เลือกตามใจชอบและคำนึงถึงการนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนูเป็นหลัก

4. ห่อข้าวกลางวัน

มื้อกลางวันเป็นมื้อที่สำคัญไม่แพ้กับมื้ออาหารเช้า โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงาน การห่อข้าวกลางวันไปกิน จะช่วยประหยัดค่าอาหารตามสั่ง หรือก๋วยเตี๋ยวที่มีราคาสูง ซึ่งบางพื้นที่จะขายข้าวในราคาแพงมาก เช่น สยาม สีลม สุขุมวิท ทองหล่อ ถ้าคุณทำงานแถวนั้น การห่อข้าวไปกิน นี่คือทางประหยัดเงินของคุณ อีกทั้งการห่อข้าวกลางวันยังช่วยทำให้เจริญอาหาร มีเมนูเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามใจชอบ หากห่อข้าวกลางวันไปกินทั้งเดือนจะช่วยประหยัดค่าอาหารถึงหลักพันเลยทีเดียวครับ

5. ไม่กินของจุกจิก

การกินอยู่อย่างประหยัด ไม่ควรกินของจุกจิก อย่างเช่น ขนมขบเคี้ยวต่างๆ น้ำอัดลม หรืออาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีราคาแพง เพราะของเหล่านี้จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้อีกด้วย ดังนั้นคุณจึงควรเลือกกินอาหารมื้อหลักมากกว่าของจุกจิก

6. งดมื้อเย็นนอกบ้าน

การกินมื้อเย็นนอกบ้านไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ควรเลือกกินเฉพาะในโอกาสพิเศษ หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะหากเลือกกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารก็จะเพิ่มรายจ่าย เพราะร้านอาหารนั้นคิดราคาค่าอาหารที่เน้นกำไรอยู่แล้ว ดังนั้นหากคุณอยากที่ประหยัดเงิน ควรงดกินอาหารเย็นนอกบ้าน แต่เลือกที่จะกินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าที่บ้าน เพื่อประหยัดค่าอาหาร อีกทั้งยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวอีกด้วย

7. งดซื้อของฟุ่มเฟื่อย

ของฟุ่มเฟื่อย คือ ของที่เกินความจำเป็น กล่าวคือไม่มีของเหล่านี้ เราก็สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ หลายคนยังทำข้อนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่มักชอบซื้อของฟุ่มเฟื่อย เช่น รองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า เราควรใช้ของที่มีอยู่ให้คุ้มค่าเสียก่อนจึงเลือกซื้อใหม่ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ และเปลี่ยนเป็นเงินเก็บจะดีกว่านะครับ

8. ออมเงิน

การออมเงินควรออมไว้ประมาณ 5-10% ของรายได้ โดยหักเงินออมไว้ก่อน และเข้าบัญชีธนาคาร ให้ฝึกทำเป็นประจำจนเป็นนิสัยในการออม เพราะการออมเงินนั้นช่วยทำให้คุณรู้จักคุณค่าของเงิน อีกทั้งเงินออมยังสามารถนำมาใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น เมื่อต้องเข้าการรักษาในโรงพยาบาล เป็นต้น

9. ซื้อของที่มีคุณภาพ

ของที่มีคุณภาพ หรือของดี คือของที่คุณต้องเลือกซื้อ เพราะของที่มีคุณภาพสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานกว่าของที่มีราคาถูก เช่น อาหารสำเร็จรูป หรือวัตถุดิบนำเข้า ส่วนของใช้ที่จำเป็น อย่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ควรเลือกซื้อของที่ดีมีคุณภาพเพื่อการใช้งานที่ยาวนานกว่า อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียหาย เพราะอาจจะนำมาซึ่งค่าซ่อมแซมที่ยุ่งยาก ค่าซ่อมอาจจะเท่าค่าซื้อ ดังนั้นคุณจึงควรเลือกซื้อของที่มีคุณภาพ

10. เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ

การซื้อของไม่ว่าจะเป็นของกินหรือของใช้ก็ตาม ควรสำรวจราคา และเปรียบเทียบกันเพื่อให้ได้ของที่มีราคาถูก หรือของที่มีราคาสูงแต่ได้ในปริมาณมาก ทำให้ได้ใช้สิ่งของนั้นนานขึ้นไม่ต้องซื้อซ้ำ หรือเลือกที่จะซื้อสินค้าซื้อ 1 แถม 1 ซื้อสินค้าชนิดเติม เช่น สบู่ ยาสระผม น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า เป็นต้น เพราะสิ่งของเหล่านี้เป็นสินค้าที่ต้องใช้ประจำทุกวัน หรือใช้เป็นประจำ หากเลือกซื้อด้วยการเปรียบเทียบราคาก็จะช่วยทำให้ได้ของที่มีปริมาณมากใช้ได้ยาวนานขึ้น และมีราคาที่เหมาะสมอีกด้วย

11. ทำบัญชีรายรับรายจ่าย

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นวิธีหนึ่งที่ดีสำหรับวิธีกินอยู่อย่างประหยัด เพราะการทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะช่วยทำให้คุณรู้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในแต่ละเดือน ทำให้คุณสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้ อีกทั้งยังสามารถหาวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการปลูกผักกินเอง ทำอาหารกินเองทุกมื้อ งดซื้อของฟุ่มเฟื่อย หรือเลือกที่จะทำอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ของคุณให้มากขึ้น และในขณะเดียวกันก็เก็บออมเงินอีกด้วย

สรุป

วิธีกินอยู่อย่างประหยัด คือ การรู้จักกิน รู้จักใช้ ในทุกสิ่งทุกอย่าง และกินอยู่อย่างรู้คุณค่า และคุ้มค่ามากที่สุด เพราะไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงการกินการอยู่ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันได้ ดังนั้นวิธีกินอยู่อย่างประหยัดในยุคของแพงแบบนี้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรรู้ และควรปฏิบัติตามอย่างยิ่งครับ

error: Content is protected !!