ส้มเช้ง หรือเรียกอีกชื้อหนึ่งว่าส้มตรา เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศจีนที่เชื่อกันว่าเป็นผลไม้มงคล นิยมใช้ในเทศกาลตรุษจีน สารทจีน ไหว้พระจันทร์ และงานมงคลสมรส มีรสชาติที่หวานอมเปรี้ยว จัดอยู่ในกลุ่มส้มเกลี้ยง
ลักษณะทั่วไปของส้มเช้ง
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ทรงพุ่มเล็กแต่แน่นทึบ กิ่งแก่มีสีเขียวเข้ม ส่วนใบมีลักษณะกลมรี ปลายแหลมและโคนกว้าง ดอกมีขนาดเล็กมีสีขาว ผลกลมสูง มีเว้าที่ฐานเล็กน้อย ปลายผลเป็นร่อง สำหรับผิวของส้มเช้งจะไม่เหมือนส้มชนิดอื่นคือขรุขระทั้งผล เปลือกหนา และมีต่อมน้ำมันอยู่ทั่วผิว ผลแก่จะมีสีเขียวเข้ม สังเกตหากเป็นสีเขียวอมเหลือสามารถรับประทานได้แล้ว
คุณประโยชน์ของส้มเช้ง
เนื่องจากในผลส้มเช้งได้มากไปด้วยวิตามินซี และสารอาหารต่างๆ ที่เข้าไปช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล สมานแผล บำรุงสมอง และช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายมีความแข็งแรง กระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆ ถ้าทานส้มเช้งเป็นประจำจะสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วยจ้า
สารอาหารที่ได้ในส้มเช้ง
ในการทานส้มเช้งสามารถทานได้ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งวัยเด็ก แต่ต้องมีอายุมากกว่า 6 เดือนนะครับ วิธีการทานให้คั้นเป็นน้ำผสมกับน้ำต้มปริมาณครึ่งต่อครึ่งเพื่อลดการระคายเคือง และทำให้เด็กไม่ติดหวาน สำหรับสารอาหารที่พบในส้มเช้งผลสด 100 กรัมประกอบไปด้วย
– เบต้าแคโรทีน 82 ไมโครกรัม
– วิตามินซี 50 มิลลิกรัม
ซึ่งส้มเช้งหนึ่งผลมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 140 กรัม แสดงว่าในผลส้มเช้งประกอบไปด้วยเบต้าแคโรทีน และวิตามินซีอย่างละ 115 ไมโคกรัม และ 70 มิลลิกรัม ถือว่าให้สารอาหารค่อนข้างสูง บวกกับกากใย น้ำตาล และโพเทสเซียมที่สำคัญกับร่างกาย
ทำไมไม่ค่อยเห็นส้มเช้งในท้องตลาด
เมื่อพูดถึงส้มเช้ง เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้จักกันแล้ว ซึ่งปกติเมื่อก่อนส้มเช้งมักจะน้ำมาวางขายใกล้ๆ กับส้มเขียวหวาน ด้วยความที่ส้มเช้งมีรสชาติหวานอมเปรียว ไม่อร่อยเท่าส้มเขียวหวาน และวิธีการปอกเปลือกที่ยากกว่าจะได้ทานสักลูกต้องใช้เวลาที่นานกว่า ทำให้กระแสความนิยมลดน้อยลง ส้มเช้งกลายเป็นผลไม้ที่ถูกลืม ยิ่งปัจจุบันนี้ผลไม้ตระกูลส้ม ลูกเล็กๆ ในประเทศจีนเข้ามาตีตลาด ยิ่งทำให้อัตราการปลูกส้มเช้งลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด
วิธีการปลูกส้มเช้ง
ในการขยายพันธุ์ส้มเช้ง จะสามารถขยายได้ด้วยวิธีการตอนกิ่ง เกษตรกรควรให้ความสำคัญในจุดนี้เป็นส่วนใหญ่ จะต้องคัดเลือกกิ่งพันธุ์ที่สมบูรณ์และพร้อมที่จะขยายพันธุ์เมื่อได้กิ่งพันธุ์ของส้มเช้งมาแล้วดำเนินการปลูกด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1. ในการปลูกส้มเช้ง ควรปลูกให้มีรากลอยขึ้นมา หากรากจมดินหรือใช้ดินกลบ จะทำให้เกิดปัญหาต้นส้มให้ผลผลิตเพียงแค่ปีเดียว และการควบคุมการออกดอกและติดผลก็เป็นไปได้ยากอีกด้วย
2. เมื่อส้มเช้งมีอายุประมาณ 1-2 ปี เกษตรกรสามารถใช้ดินกลบ หรือพอกโคนส้มเช้งได้ แต่ทั้งนี้ควรเว้นรากบางส่วนออกมาพ้นดิน เพื่อการหายใจ
วิธีการปลูกส้มเช้งแบบรากลอย มีส่วนช่วยให้ส้มมีการปรับตัวได้ดี ในสภาวะต่างๆ เช่นหากเป็นพืชที่ดินแฉะ รากที่อยู่บนพื้นดินก็จะสามารถระเหยน้ำได้นั่นเอง
การดูแลรักษาส้มเช้ง
1. เนื่องจากส้มเช้งเป็นพืชที่ต้องการน้ำในปริมาณที่เหมาะสม กล่าวคือไม่มากหรือน้อยจนไป ในช่วงฤดูร้อนจะต้องมีการดูแล และรดน้ำมากเป็นพิเศษ ถ้าปริมาณน้ำไม่เพียงพอ อาจทำให้ต้นส้มเช้งตายทั้งยืน ส่วนฤดูหนาว เนื่องจากมีน้ำค้างเยอะให้รดน้ำในช่วงเข้า หรือช่วงบ่ายแทน เพื่อที่น้ำจะได้ไม่แฉะจนเกินไป
2. ในช่วงที่ส้มออกดอก เกษตรกรไม่ควรรดน้ำให้แฉะจนเกินไป เวลารดน้ำจะต้องปล่อยให้น้ำซึมเข้าไปในผืนดินให้หมดก่อนแล้วค่อยรดน้ำซ้ำอีกรอบ หากน้ำแฉะจนเกินไปจะทำให้ดอกที่ออกร่วงหล่นลงได้
3. ในการให้ปุ๋ย ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยเสริมจะให้ 3 ช่วง คือ หน้าร้อนให้ใส่ปุ๋ยในช่วงกลางเดือนเมษายน และหน้าหนาวให้ปุ๋ย 2 ระยะคือช่วงที่ส้มเช้งกำลังออกดอก และติดผล สำหรับช่วง 3 ปีแรก ต้นส้มยังไม่ออกดอกให้ใส่ปุ๋ย 4 ครั้งคือให้ทุกๆ 3 เดือน ในเดือนต่อมา ค่อยเพิ่มขึ้นตามลำดับ
การติดผลของส้มเช้ง
ดอกของส้มเช้ง เป็นดอกที่สมบูรณ์เพศสามารถผสมกันเองได้ในดอกเดียวกัน หรือต่างดอกก็ได้ แต่เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียจะต้องสมบูรณ์ทั้งคู่ ไม่อย่างนั้นผลที่ได้จะไม่สมบูรณ์ ไม่โต และมีรูปทรงที่บิดเบี้ยว
1. อายุดอกตั้งแต่ออก จนกระทั่งบาน ใช้เวลาประมาณ 25-30 วัน ตั้งแต่บานจนกระทั้งเก็บเกี่ยวประมาณ 9-10 เดือน ในช่วงนี้เกษตรกรควรให้ฮอร์โมนน้ำดำ และแคลเซียมโบรอน เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยให้ลำต้นสมบูรณ์แข็งแรง หลังจากติดผล
2. เมื่อติดผลแล้วต้องการให้ผลส้มเช้งสวย ผิวดี ให้ทำการห่อด้วยถุงพลาสติก ตังแต่ผลขนาดเท่ามะนาว
3. การตกแต่งกิ่ง กิ่งด้านล่างควรตัดออกทิ้งไป เพื่อป้องกันไม่ให้พุ่มทึบมากเกินไป เพราะอย่างไรเสียกิ่งไม้เหล่านั้นก็ไม่ติดผลอยู่แล้ว ทั้งนี้จะต้องหมั่นตัดตกแต่งกิ่งออกเพื่อให้โปร่งอยู่เสมอ
เห็นมั้ยล่ะครับว่าส้มเช้งไม่ได้ปลูกยากอย่างที่คิด แต่เกษตรกรจะต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด หมั่นสังเกต เพียงเท่านี้ก็สามารถให้ผลผลิตได้ไม่น้อยแล้วล่ะครับ