วิธีปลูกส้มจุก พร้อมคำแนะนำในการขายส้มจุก

ส้มจุก เป็นผลไม้ที่มากไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ด้วยรสชาติที่หอมหวานทำให้หลายคนนิยมรับประทาน ปัจจุบันมีส้มจุกวางขายทุกฤดูกาล สามารถรับประทานได้ทุกคนทุกวัย ทั้งที่เป็นผลสดและคันเป็นน้ำ แนะนำให้รับประทานเป็นผลสดจะดีกว่า เพราะมีกากใยมากกว่าแบบคั้นจะช่วยเรื่องระบบขับถ่าย แต่สำหรับเด็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไปหรือผู้ใหญ่ที่มีปัญหาในการเคี้ยวหากรับประทานแบบคั้นจะง่ายกว่านะครับ

ส้มจุก มีความหวานที่พอดี เหมาะสมอย่างมากสำหรับผู้ที่กำลังลดความอ้วน หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานก็สามารถทานได้เช่นกัน โดยไม่ต้องเป็นกังวลเลยว่าปริมาณน้ำตาลจากความหวานจะมากจนเกินไป หรือจะส่งผลอันตรายแก่ร่างกาย

คุณประโยชน์สำหรับส้มจุก

1. ส้มจุก ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย หากเป็นน้ำส้มคั้นเย็นๆ เหมาะอย่างมากในการดื่มหลัง หรือก่อนออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายชุ่มชื่น รู้สึกกระปี่กระเป่าได้ เหมาะสำหรับผู้ที่เสียเหงื่อ
2. ในส้มจุก เต็มไปด้วยสารที่ต่อต้านและชะลอความแก่ ให้แก่ผู้ที่กำลังดูแลสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง
3. ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส ไม่เหี่ยวย่น ผิวเด้งตึงอยู่ตลอดเวลา
4. บำรุงสายตา ป้องกันการเป็นโรคต่อกระจกในวัยผู้ใหญ่
5. สำหรับผู้ที่รับประทานส้มจุกเป็นประจำ สามารถหลีกเลี่ยงอากาเลือดออกตามไรฟัน ช่วยให้สุขภาพของฟัน และเหงือกมีความแข็งแรง เนื่องจากในส้มจุกล้วนเต็มไปด้วยวิตามินซี

ลักษณะโดยทั่วไปของส้มจุก

ส้มจุกจัดอยู่ในพืชตระกูลเดียวกับส้มโชกุนและส้มเขียวหวานทั่วไป เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีความสูงเพียงแค่ 5-7 เมตรเท่านั้น แต่มีอายุที่ยืนยาว มีเปลือกล่อน ขั้วและผลออกมาจากกิ่งต้นคล้ายๆกับจุก จึงเป็นที่มาของชื่อส้มจุกนั่นเอง

ระยะเวลาในการปลูก จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ ปีที่ 3 โดยใช่เวลาเพียงแค่ 20 วันในการออกดอกจนกระทั่งดอกบาน และสามารถเก็บผลผลิตได้ในเดือนที่ 8 รู้หรือไม่ว่าส้มจุกจะเริ่มให้ผลผลิตได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพ เมื่อย่างก้าวปีที่ 5 ไปเรื่อยๆ ไม่ต่ำกว่า 20 ปี สามารถให้ผลผลิตที่มากได้เรื่อยไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด หากมีการดูแลและการจัดการที่ดีพอ

ผู้ที่นำส้มจุกเข้ามาปลูกเป็นรายแรก คือเกษตรกร อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ประมาณปี พ.ศ. 2444 ต่อมามีการขยายพันธุ์ไปทั่วทั้งอำเภอ และแหล่งอื่นๆ

วิธีการขยายพันธุ์

ในการขยายพันธุ์ส้มจุก สามารถทำได้หลายวิธีการไม่ว่าจะเป็นการเพาะเมล็ด ติดตา และตอนกิ่ง แล้วแต่ความถนัดของเกษตรกรนั้นๆ ที่นิยมกันมากที่สุดคือ การตอนกิ่งจากต้นที่มีความแข้งแรงมากที่สุด มาติดตาบนต้นที่เกิดจาการเพาะเมล็ด เพื่อป้องกันโรค และการเจริญเติบโตที่ไม่มีประสิทธิภาพตามมาในภายหลัง รวมถึงการกลายพันธุ์ของพันธุ์ส้มจุกอีกด้วย

ขั้นตอนในการปลูก

1. การเตรียมดิน ก่อนที่จะมีการปลูกส้มจุกจะต้องมีการวิเคราะห์ความสมบูรณ์ของดิน วัดค่าความเป็นกรดเป็นด่าง และทำการปรับดินให้มีความเหมาะสม เนื่องจากส้มจุดจะสามารถเจริญเติบโตได้ในพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ที่สำคัญดินจะต้องมีสภาพความเป็นกรดเป็นด่างที่เหมาะสม
2. ทำการยกร่องเพื่อให้มีการระบายน้ำที่ดี ไม่ว่าพื้นที่เหล่านั้นจะเป็นที่ลุ่ม หรือที่ดอน
3. ขุดหลุมเพื่อเตรียมการลงต้นส้มจุก ความกว้างอยู่ที่ 50×50 เซนติเมตร จัดว่าพอเหมาะอย่างยิ่ง โดยให้มีระยะห่างระหว่างแถวอยู่ที่ 5-6 เมตร และระหว่างต้นอยู่ที่ 4-5 เมตรก็พอแล้วจ้า
4. ต่อมาให้นำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรองก้นหลุม จากนั้นให้นำต้นกล้าส้มจุกลงปลูกเหมือนกับวิธีการปลูกส้มทั่วๆ ไป
5. ในการรดน้ำจะต้องให้ในปริมาณที่เหมาะสม ทั้งนี้จะต้องพิจารณาจากลักษณะของพื้นที่เพาะปลูก ดินวิธีเพราะปลูก ลักษณะภูมิประเทศ เงินทุน และแหล่งน้ำด้วย
วิธีการให้ปุ๋ยต้นส้มจุก

นับตั้งแต่เริ่มปลูก เกษตรกรควรใส่ปุ๋ยทุกๆ 2-3 เดือน โดยสามารถเริ่มต้นจากปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยเคมีสูตร12-24-12 เดือน ครั้งต่อไปสามารถเปลี่ยนเป็น 9-24-24

ระยะก่อนการเก็บเกี่ยว1 เดือน ช่วงนี้สามารถให้อาหารทางใบ ด้วยการฉีดพ่นเสริม สูตร 13-13-21 หรือ 0-0-50 เพื่อเสริมความพร้อมและความแข็งแรง และการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ของผล

หลังจากเก็บเกี่ยว หรือในช่วงตัดตกแต่งกิ่ง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องบำรุงอย่างเต็มที่ เพื่อความแข็งแรงของลำต้น และเตรียมความพร้อมในการผลิดอกติดผลในครั้งต่อไป ให้เลือกใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15
การตัดตกแต่งกิ่ง

ต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่าการตัดตกแต่งกิ่งนั้นจะต้องทำตั้งแต่ระยะแรกที่ปลูก เพื่อให้ลำต้นของส้มจุกได้ทรงตามที่ต้องการ และเพื่อง่ายต่อการดูแลรักษา และเก็บเกี่ยวผลผลิต หลักจากเก็บเกี่ยวผลผลิตออกแล้ว ก็ไม่ควรที่จะปล่อยปละละเลย จะต้องตัด ตกแต่งกิ่งแห้ง กิ่งที่ได้รับความเสียหาย และกิ่งที่เป็นโรคออกไป เป็นการบำรุงลำต้นให้มีความแข็งแรงอยู่ตลอดเวลา เพื่อรองรับการติดผลในครั้งต่อไป วิธีการนี้นำมาซื้อผลผลิตตามที่ต้องการ ตัวผลมีความอุดมสมบูรณ์และคุณภาพสูงตามไปด้วย

ทุกวันนี้กระแสความนิยมการเลือกทานส้มจุกกำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากหาทานง่าย และมีให้ทานทุกฤดูกาล ทานง่าย สามารถแปรรูปทานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการทานแบบผลสด คั้นทานเป็นน้ำ เชื่อม เป็นต้น

error: Content is protected !!