ทุกชีวิตล้วนเกิดมามีค่าด้วยกันทั้งนั้น แต่การใช้ชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกัน เป็นเครื่องตัดสินอย่างหนึ่งได้ว่า คุณค่าในตัวที่มี ขณะนี้เพิ่มขึ้นหรือลดน้อยลง
มีวลีอมตะที่ว่า “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” ให้เราได้ยินกันอยู่เสมอ ในความหมายของประโยคนี้บ่งบอกได้ว่า สำหรับคนที่ทำงานล้วนก่อให้เกิดคุณค่าในตัวเองด้วยกันทั้งสิ้น เพราะเมื่อผลของงานออกมาดีแล้ว งานนี่แหละที่จะช่วยต่อยอดชีวิตของเราให้ก้าวกระโดดไปสู่จุดยืนที่สมสง่า อีกทั้งยังเป็นความภาคภูมิใจให้ตัวเราได้ก้าวอย่างมาดมั่นต่อไป
สำหรับผมแล้ว ก่อนหน้านั้นผมมักเชื่อว่าตัวเราทุกคนเกิดมาล้วนมีคุณค่าด้วยกันทั้งนั้น แต่คุณค่าของเราจะมีเพิ่มขึ้นหรือลดปริมาณน้อยลง อันนี้อยู่ที่ตัวเราแล้วว่าการกระทำของเราเป็นอย่างไร หลายคนที่มีใจรักการทำงาน เขามักสร้างคุณค่าในผลงานให้เกิดขึ้น เมื่อเขาเป็นที่ชื่นชมของเจ้านายและเพื่อนร่วมงานแล้ว เมื่อนั้นชีวิตเขาก็เท่ากับได้สร้างคุณค่าในตัวเองให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นไปอีก
แต่คนอีกส่วนหนึ่ง ที่ไม่ขยันหมั่นเพียร ไม่เห็นความสำคัญของการทำงาน หรือเป้าหมายในการดำเนินชีวิต คนแบบนี้ นอกจากไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว การกระทำของเขาย่อมถือเป็นการตัดทอนคุณค่าในตัวเองที่เคยมีมาให้ลดน้อยลง บางคนเผลอลดคุณค่าในตัวจนกระทั่งหมดหายไปโดยที่เขาไม่เคยรู้ตัว
การทำงานอย่างตั้งใจเพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพย่อมถือเป็นการสร้างคุณค่าให้แก่งานและตัวเองได้ แต่คนที่อยู่ไปวันๆ เปรียบดั่งคนที่เฝ้าแต่รินน้ำลงผืนทราย ใช้เวลาว่างเปล่าให้ผ่านไปโดยไร้ประโยชน์เฉกเช่นทรายที่ไม่อาจอุ้มน้ำไว้ได้ เราจึงไม่มีแก่นสารอะไรในชีวิตให้ภาคภูมิใจ
แต่ถ้าหากเราลองผันตัวเองมาเป็นชาวประมงออกเรือหาปลา เราก็ย่อมได้ปลามาขาย สามารถสร้างรายได้ให้แก่ตัวเองและครอบครัว นี่แหละการมองโลกอย่างเข้าใจความหมายของการใช้ชีวิตไปพร้อมกัน คนที่รู้ว่าตัวเองรักและอยากทำอะไร มักจะรีบลงมือทำ สร้างงานสร้างความฝันนั้นให้เป็นรูปร่าง แม้ความฝันอาจยังไม่สำเร็จในนาทีที่ทำ หากผลแห่งความภูมิใจที่ได้ทำแล้วต่างหาก ที่สะท้อนบอกใจตัวเองว่า เราสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในชีวิตได้แล้ว
สิ่งที่เราทำ ไม่ว่าจะมีต้นตอความฝันมาจากเรื่องเล็กหรือใหญ่ แม้อาจเป็นแค่แม่ค้าขายส้มตำไก่ย่าง เป็นพนักงานทำความสะอาดตามห้างหรือโรงแรม เป็นพนักงานกวาดถนนข้างทาง หรือแม้จะมีอาชีพเล็กๆ อย่างนั่งเย็บผ้าอยู่กับบ้าน แต่เหล่านี้ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นงานไร้ค่าเลย ตรงกันข้าม การลงมือทำให้ผลงานเกิดขึ้นต่างหาก คือ สิ่งที่สร้างคุณค่าให้แก่เราได้อย่างแท้จริง
คนที่มีความคิดและดิ้นรนมุ่งสู่เป้าหมายอย่างไม่ย่อท้อ มักเปลี่ยนจุดยืนตัวเองจากวันวานที่เล็กๆ มาเป็นจุดยืนที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ เพราะคุณค่าในตัวเราถ้าเราไม่เห็น แล้วใครจะเห็น อยากเป็นคนที่ก้าวหน้า มีอนาคตที่ดีกว่า จงจำไว้ว่าอย่าหยุดยืนอยู่แค่ตรงนี้ ต้องก้าวไปข้างหน้า สร้างสรรค์ผลงานในชีวิตให้เกิดขึ้นมา สมดังประโยคที่ว่า “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” กันทุกท่านนะครับ