วิธีการเปิดร้านขายดอกไม้ให้ประสบความสำเร็จ

เริ่มต้นแนวคิดเปิดร้านขายดอกไม้

ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบสิ่งหอมๆ อย่างเช่น ดอกไม้ หรือถ้าคุณได้เคยลองจัดดอกไม้ แล้วคิดว่าเราก็มีฝีมือในทางด้านทางนี้ ลองหันมาทำธุรกิจเปิดร้านขายดอกไม้ดูไหมครับ รับรองธุรกิจนี้ไปได้สวยอย่างแน่นอน เพราะดอกไม้เป็นของขวัญชั้นดี ที่แทนความรู้สึกของผู้ให้ได้ทุกโอกาส ทุกเทศกาล ดังที่เราจะเห็นผู้คนมอบดอกไม้ให้กันและกัน ไม่ว่าช่วงไหน เวลาใด และแถมราคาในการจัดดอกไม้แต่ละช่อราคาก็ไม่เบาเลยทีเดียว ท้งที่ต้นทุนจริงๆ แล้วไม่สูงมากนัก เราสามารถหาแหล่งดอกไม้ที่หาง่ายและถูก และบวกอุปกรณ์ตกแต่งที่ไม่เยอะมาก แต่อาศัยไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ลงไป ก็เป็นอันขายได้ครับ

ลักษณะธุรกิจ

ลักษณะของธุรกิจร้านขายดอกไม้สด จัดอยู่ในผลิตภัณฑ์ประเภทอายุไม่ยืน ถ้าไม่มีลูกค้ามาซื้อ ดอกไม้ก็จะเหี่ยวเฉาไปในที่สุด และเราก็จะสูญเงินไปเปล่าๆ ถ้าไม่มีคนมาซื้อดอกไม้ และต้องทิ้งดอกไม้ไปบ่อยๆ ธุรกิจอาจเจ๊งได้ครับ ฉะนั้นตรงนี้ต้องทำการตลาดให้ดีๆ หาทำเลให้ดีๆ หรือหาลูกค้าประจำให้ได้มากๆ ครับ

คุณสมบัติผู้ที่จะเปิดร้านดอกไม้

ซึ่งการขายดอกไม้นั้นจัดเป็นธุรกิจที่มีอายุสั้น ต้องเป็นผู้ที่ละเอียดอ่อนละเมียดละไม ผู้ที่จะทำธุรกิจชนิดนี้จึงต้องคิดทบทวนให้ดี เพราะหากประกอบธุรกิจไม่ตรงกับที่ใจรัก ก็ยากที่จะประสบผลสำเร็จนะครับ เราก็มาดูคุณสมบัติผู้ที่จะเปิดร้านดอกไม้กันเลยครับ

– การหยิบจับดอกไม้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ต้องมีความรู้ และความสามารถในด้านการจัดตกแต่งดอกไม้เป็นอย่างดี
– เรียนรู้จากหนังสือ เว็บไซค์ หรือตามคอร์สต่างๆ เรื่องการจัดดอกไม้เพื่อหาความแปลกใหม่ ความสร้างสรรค์เพื่อนำมาพัฒนาการจัดแต่งดอกไม้อยู่เป็นประจำ
– มีความรับผิดชอบสูง เพื่อให้ได้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
– สถานการณ์ปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูง เจ้าของร้านดอกไม้จะต้องมีศักยภาพในการบริหารร้านที่ดี เนื่องจากลูกค้ามีโอกาสที่จะเลือกซื้อดอกไม้ได้หลายแห่ง ดังนั้นธุรกิจร้านดอกไม้ต้องหันมาพัฒนาคุณภาพและรูปแบบของสินค้า และบริการของตนเองอยู่ตลอดตามสภาพแวดล้อม และพฤติกรรมของลูกค้า

ทำเล

สำหรับทำเลการตั้งร้านขายดอกไม้ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเปิดในแหล่งชุมชนที่มีคนพลุกพล่านทั้งวัน ยกตัวอย่างเช่น ในแหล่งชุมชน ในตลาด ในห้างสรรพสินค้า หน้าโรงเรียน หน้ามหาวิทยาลัย เรียกได้ว่าที่ไหนก็ได้ที่มีคน เราจะไปตั้งร้านตรงนั้น และเราควรจะหลีกเลี่ยงการตั้งร้านดอกไม้ ใกล้กับร้านดอกไม้ใหญ่ๆ จะทำให้ร้านเราโดนบดบังรัศมีได้ ซึ่งจะกระทบต่อยอดขาย เพราะคนไปซื้อร้านใหญ่กันหมด มาซื้อที่ร้านเรานิดเดียว หรือถ้าเราคิดร้านเรามีดีมากพอก็สู้เลย งัดการตลาดใหม่ๆ ขึ้นมา หรือทางที่ดีก็คือควรที่จะตั้งร้านดอกไม้ให้ห่างจากจุดที่มีร้านขายดอกไม้ในโซนนั้น เพื่อแบ่งเค้กทางการตลาดไปแบบให้เหมาะสมกันครับ

เงินทุน

แน่นอนว่าทุกธุรกิจใช้เงินทุน ไม่มีธุรกิจไม่ใช้เงินทุน ปัญหาก็จะอยู่ที่ว่าจะไปหาเงินทุนมาจากไหน ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีถึงหลักล้าน หรือหลักเฉียดล้าน ผมบอกไม่ได้โดยตรงว่าคุณต้องใช้เงินเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน และทำเลของร้าน

สำหรับเงินทุนผมไม่อยากให้คุณไปกู้หนี้ยืมสินมาทำ ถ้าคุณทำแล้วมันเจ๊ง คุณจะหนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมันไม่คุ้มเลย ทางที่ดีให้ใช้เงินของเราเอง ถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัทอยู่ ถ้าคุณจะเปิดร้านขายดดอกไม้จริงๆ หล่ะก็ ผมแนะนำให้คุณทำงานที่ร้านขายดอกไม้เลย หรือบริษัทที่ขายเกี่ยวกับดอกไม้ หรือรับตกแต่งด้วยดอกไม้ ให้คุณคลุกคลีอยู่กับงานเหล่านี้ จะดีกว่าที่คุณทำงานในบริษัทที่ไม่เกี่ยวกับดอกไม้ คุณจะไม่มีประสบการณ์ตรงนี้เลย เมื่อมาเปิดร้านจริงๆ คุณจะต้องใช้เวลาปรับตัวค่อนข้างมาก

เมื่อคุณทำงานในวงการเกี่ยวกับดอกไม้แล้ว ให้คุณเก็บเงินเก็บหอมรอมริบ จนจำนวนเงินมากพอสมควร บวกกับประสบการณ์ที่เป็นมือโปรในการจัดดอกไม้ เมื่อนั้นให้ออกมาทำธุรกิจของเราได้เลย

การตั้งราคา

การตั้งราคาก็จะขึ้นอยู่กับดอกไม้ชนิดนั้นๆ บวกกับฝีมือการจัดดอกไม้ ยิ่งจัดสวยก็จะสามารถเพิ่มราคาสูงขึ้นไปอีก เพราะในเมื่อร้านขายดอกไม้หลายๆ ร้าน ก็มีดอกไม้เหมือนกันไปหมด สุดท้ายอาจจะวัดกันที่ฝีมือในการจัดแต่งดอกไม้ ว่าทำให้สวยชวนให้ลูกค้าซื้อเพียงไหน ซึ่งบางท่านก็ได้นำผัก ผลไม้ หรือสมุนไพร เข้ามาในการตกแต่งช่อดอกไม้ ให้แปลกตา และกลมกลืนเข้ากัน และในเทศกาลสำคัญที่ต้องใช้ดอกไม้ ในช่วงนี้ราคาดอกไม้ก็จะดีดตัวขึ้นตามราคาของตลาด เราก็สามารถเพิ่มราคาตามราคาตลาดได้ เป็นช่วงกอบโกย ซึ่งเมื่อถึงเทศกาลสำคัญๆ เราก็ต้องทำการตลาดให้ดีๆ และเตรียมดอกไม้ไว้ให้พร้อมครับ

และถ้าร้านขายดอกไม้ของเราอยู่ในทำเลที่แพงๆ ค่าเช่าสูงๆ เราก็จำเป็นต้องตั้งราคาขายดอกไม้ให้สูงขึ้นไปอีกหน่อย ตามราคาค่าเช่าครับ

การจัดร้าน

เริ่มแรกเราอาจจะเริ่ม จากการเปิดเป็นร้านขายดอกไม้เล็กๆ จัดร้านให้ดูเก๋ มีสไตล์ สะดุดตา ต่อผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมา ซึ่งการจัดหน้าร้านสำหรับร้านดอกไม้มีความสำคัญมาก ไม่ควรให้ดูเรียบจนเกินไป ถ้าต้องการลูกค้าจากหน้าร้าน เราควรจะนำดอกไม้สวยๆ มาวางตั้งโชว์ที่หน้าร้านเสมอ ให้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้รู้สึกทึ่งกับความสวยของดอกไม้ร้านเรา

ส่วนการจัดวางภายในร้าน ก็ต้องทำให้เป็นระเบียบดูเรียบร้อยสะอาดตา เพราะดอกไม้คือของหอม ร้านของเราก็ควรจะสะอาดตามไปด้วย พื้นไม่ควรให้สกปรก หรือมีกลิ่นเหม็นตามจุดใดๆ ที่วางดอกไม้ จุดไหนที่มีกลิ่นอับควรจะหาดอกไม้แห้งมาวาง หรือแขวนไว้ เพื่อดับกลิ่นอับนั้น

และเราก็ต้องวางดอกไม้แยกประเภทแยกพันธุ์ให้ลูกค้าเห็นได้อย่างชัดเจน การวางดอกไม้ในร้านไม่ควรวางต่ำเกินไป จนลูกค้าต้องก้มไปดูทุกครั้ง ควรจะวางบนโต๊ะที่สูงสักขนาดเอว เพื่อให้ลูกค้าชม และสูดกลิ่นดอกไม้ได้อย่างสบาย

การบริการ

สำหรับธุรกิจร้านขายดอกไม้ ถ้าดอกไม้ดี ร้านสะอาด ทำเลดี แต่การบริการไม่ดี ก็ถือว่าจบกัน ซึ่งการบริการที่ดี จะทำให้เกิดการซื้อซ้ำอีกครั้ง และอีกครั้ง เคยมั้ยที่เราไปทานอาหาร แล้วแม่ค้าหน้าไม่ยิ้มเลย ถามอะไรก็ไม่ตอบ แต่ทำอาหารอร่อย เวลาเราจะไปทานครั้งต่อไป ก็จะนึกถึงแม่ค้าคนนั้น ทำให้ไม่อยากไปทานอีก เปลี่ยนไปทานร้านอื่น ถึงอาหารจะไม่อร่อยเท่า แต่บริการดี ซึ่งก็ทดแทนกันได้

แล้วลองคิดดูนะครับ ถ้าดอกไม้ดี ร้านสะอาด ทำเล และบริการดี ร้านเราจะเยี่ยมเพียงไหน เจ้าของร้านขายดอกไม้ก็ต้องใส่ใจกับจุดนี้ด้วยนะครับ

การจัดซื้อดอกไม้เข้าร้าน

สำหรับการจัดซื้อดอกไม้เข้าร้านนับเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จของร้านขายดอกไม้เลยก็ว่าได้ เพราะการซื้อดอกไม้ หลักการจัดซื้อดอกไม้ที่ มีเทคนิคสั้นๆ คือ จะต้องกะปริมาณจำนวนดอกไม้ เมื่อหมดวันแล้วให้มีดอกไม้เหลือ หรือค้างอยู่น้อยที่สุด เนื่องจากดอกไม้มีอายุการเก็บรักษาที่สั้น เหี่ยวเฉาไปตามเวลา เมื่อเหี่ยวเฉาแล้วก็ต้องทิ้ง อย่างนี้เป็นต้น

การตลาดร้านขายดอกไม้

– ขายหน้าร้านโดยตรง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเข้ามาสั่งซื้อเพราะเห็นว่าร้านนี้มีดอกไม้สวยดี
– ลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งซื้อ ลูกค้าประเภทนี้จะเจาะจงมาที่ร้านโดยเฉพาะ มาทำการสำรวจดอกไม้ ความสวยความหอมของดอกไม้ และอาจเป็นลูกค้าขาประจำมีการให้เครดิตแต่เป็นระยะสั้นประมาณหนึ่งเดือน
– ซึ่งในปัจจุบันร้านขายดอกไม้ ก็จะต้องเว็บไซต์ หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้อง Fanpage ของตนเอง เพื่อให้ลูกค้าได้มาดูว่า ร้านเราขายดอกไม้ชนิดไหนบ้าง ราคาอยู่ในระดับไหน ร้านอยู่แถวไหน เพื่อเป็นประกอบการตัดสินใจซื้อของลูกค้า

กลุ่มลูกค้า

จะเห็นได้ว่าดอกไม้ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามาก เช่น เมื่อเจ้านายป่วยเข้าโรงพยาบาล ลูกน้องก็ต้องซื้อตอกไม้ไปเยี่ยม หรือเพื่อนรับปริญญา เราก็ต้องดอกไม้ไปให้ เป็นต้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าก็จะแบ่งออกดังนี้

– กลุ่มลูกค้าคนทำงานที่มีรายได้น้อย จะไม่เน้นรูปแบบดอกไม้ แต่เน้นปริมาณการจัดดอกไม้ต้องมีราคาไม่แพง
– กลุ่มลูกค้าคนทำงานที่มีรายได้ระดับปานกลาง เน้นรูปแบบดอกไม้ ไม่เน้นปริมาณและราคา จะต้องไม่ถูกหรือแพงเกินไป
– ระดับสูง เป็นกลุ่มลูกค้านักธุรกิจที่มีรายได้สูงเน้นรูปแบบดอกไม้ ไม่เน้นปริมาณ เป็นกลุ่มผู้มีฐานะทางการเงิน มีการพบปะสังสรรค์ในสังคม ทำให้ขายในราคาสูงได้
– กลุ่มลูกค้ายังรวมไปถึงรับจัดดอกไม้ตามงานแต่งงาน หรืองานมงคลต่างๆ รวมถึงเข้าไปเป็นสปอนเซอร์จัดแต่งฉากให้กับละครทางโทรทัศน์

การจัดส่งดอกไม้

ซึ่งแน่นอนว่านอกจากเราจะขายดอกไม้ในหน้าร้าน เราก็จะต้องรับออเดอร์ดอกไม้จากทางโทรศัพท์ด้วย เราจำเป็นที่จะต้องจ้างพนักงานขนส่งไว้ประจำ ถ้ายังไม่มีทุนมากก็อาจจะเป็นมอเตอไซต์ 1 คัน มีกล่องที่กันดอกไม้จากลม และฝุ่นละอองต่างๆ อยู่ด้านหลังคนขับ ซึ่งจะไปส่งได้เพียงครั้งละ 1 ดอกเท่านั้น ซึ่งถ้าเราไม่มีเงินทุนมาก ก็ต้องใช้วิธีนี้ไปก่อน เมื่อเริ่มมียอดออเดอร์สั่งดอกไม้มากขึ้น ก็ซื้อรถกระบะมาเพิ่มเติม 1 คัน เพื่อใช้จัดส่งดอกไม้ และเราต้องระบุด้วยว่า ถ้าสั่งซื้อและให้ไปส่ง ดอกไม้จะมีค่าส่งด้วยเท่านี้ๆ ต้องบอกลูกค้าให้ชัดเจน จะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง

สำหรับพนักงานขนส่งดอกไม้ ควรจะต้องเลือกแต่ผู้ที่มือเบาเท่านั้น ยิ่งรักดอกไม้ด้วยยิ่งดี เพราะดอกไม้ช้ำไม่ได้ เพราะลูกค้าอาจตีกลับได้ ขั้นตอนการขนส่ง เจ้าของร้านดอกไม้ ก็ต้องใส่ใจเป้นพิเศษด้วย

ปัญหาในการเปิดร้านขายดอกไม้

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ก็เป็นปัญหาที่ทุกๆ ร้านน่าจะมีเหมือนกัน ผมก็ได้รวบรวมมาให้อ่านนะครับ

– การดูแลและเงื่อนไขเกี่ยวกับวัตถุดิบขึ้นอยู่กับฤดูกาล บางครั้งวัตถุดิบขาดแคลน และราคาขื้นลงไม่แน่นอน เช่น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ วันวาเลนไทน์ หรือวันคริสต์มาส ซึ่งในช่วงนี้ดอกไม้จะเป็นที่ต้องการของลูกค้า และจะมีราคาสูง และขายดี ทำให้ผลิตไม่ทันกับความต้องการ ทำให้ต้องมีการจ้างช่างจัดดอกไม้ หรือต้องหาลูกมือมาช่วย
– การขนส่งก็มีปัญหาเกี่ยวกับผู้บริโภคเช่นกัน เมื่อมาถึงร้าน ดอกไม้บางดอกช้ำ
– บางครั้งลูกค้าส่วนมากจะเลือกหรือหยิบจับดอกไม้เอง ทำให้ดอกไม้ช้ำเสียหาย
– การร้านเปิดใหม่ ต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า
– การสั่งซื้อวัตถุดิบในช่วงแรกๆ อาจจะยังไม่ได้รับเครดิตจากผู้ขาย เราจะต้องจ่ายเงินสดทุกครั้ง อาจจะทำให้ขาดสภาพคล่องในการหมุนเวียนเงินสด
– การบริหารเองโดยไม่มีลูกมือ อาจจะทำให้งานล่าช้า ถ้ามีการสั่งซื้อมากๆ อาจทำให้เสียโอกาสได้
– ถ้าเงินทุนในการซื้อดอกไม้น้อย ถ้ามีการสั่งซื้อมากๆ อาจทำให้เสียโอกาสได้เช่นกัน
– เศรษฐกิจไม่ดีก็มีผลกระทบต่อยอดขายมาก เป็นต้น

สรุป

แม้ว่ามันอาจจะไม่ง่าย ในการเริ่มต้น แต่ถ้ามีก้าวแรก ก็ต้องมีก้าวต่อไปเสมอ ค่อยๆ เรียนรู้ธุรกิจไปก่อนที่เราจะเปิดร้าน ไม่ต้องรีบเร่ง ให้เป็นไปตามธรรมชาติ บางครั้งการรีบเร่งการไปจะทำให้เราสะดุดในภายหลังได้ เราอาจจะซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเปิดร้านขายดอกไม้มาอ่าน ศึกษาพันธุ์ดอกไม้ ศึกษาการจัดดอกไม้ รวมไปถึงศึกษาการตกแต่งร้าน ศึกษาให้ทะลุปุโปร่ง เมื่อพร้อมแล้วทั้งคุณสมบัติ และเงินทุน จึงค่อยเปิดครับ

ผมก็ขอให้ทุกท่านเปิดร้านขายดอกไม้ จนประสบกับความสำเร็จ และร่ำรวยกันทุกท่านนะครับ

error: Content is protected !!