สูตรวิธีทำขนมไข่ พร้อมคำแนะนำในการทำขนมไข่

ขนมไข่

 

สูตรและวิธีทำขนมไข่ สูตรที่ 1

ส่วนผสมขนมไข่ (กรอบนอกนุ่มใน)

– แป้งเค้ก 3 ถ้วยตวง
– ผงฟู 2 ช้อนชา
– ไข่ไก่ 2 ฟอง
– ไข่เป็ด 2 ฟอง
– น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง
– กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
– น้ำมะนาวคั้นสด 2 ช้อนชา
– มาการีน 2 ช้อนโต๊ะ
– ลูกเกด ปริมาณตามความชื่นชอบ

วิธีการทำขนมไข่

– ตวงส่วนผสมแป้งเค้กให้ได้ตามสัดส่วน ทำการร่อนแป้งเค้กและผงฟูเข้าด้วยกัน 2 รอบ จนได้แป้งเนื้อเนียนละเอียด จากนั้นพักไว้ในอ่างผสม
– ตอกไข่ไก่และไข่เป็ดลงไปในโถผสมอาหาร เตรียมเครื่องตีหัวตระกร้อ
– ตีไข่โดยใช้ความแรงสปีดสูงสุด แล้วค่อยๆ เติมน้ำตาลทรายลงไปจนหมด
– ตามด้วยน้ำมะนาวและกลิ่นวนิลา
– ตีส่วนผสมไข่ทั้งสองชนิดให้ขึ้นฟู ประมาณ 10 นาที จนส่วนผสมตั้งยอด ถือเป็นอันใช้ได้
– จากนั้นจึงตักแป้งและผงฟูที่ร่อนพักไว้ ทยอยใส่ลงไปในเนื้อไข่ทีละน้อย แล้วใช้ไม้พายตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน
– ทำเช่นนี้ไปจนกว่าแป้งเค้กและผงฟูจะหมด และคนส่วนผสมขนมไข่ให้เข้ากันอีกครั้ง
– เปิดและวอร์มเตาอบทิ้งไว้ก่อน ด้วยความร้อนเล็กน้อย
– นำผ้าขาวบางชิ้นเล็กๆ ชุบมาการีนเล็กน้อย ทาบางๆ ที่พิมพ์ขนมไข่
– หยอดลูกเกดลงไป 4-5 เม็ดในพิมพ์ขนมหนึ่งชิ้น
– ต่อมาก็ตักขนมไข่หยอดลงไปในพิมพ์ ทำเช่นนี้จนขนมเต็มทุกพิมพ์
– เคาะพิมพ์ขนมเล็กน้อย ให้ส่วนผสมไม่ล้นออกมา
– นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ทั้งไฟบนและล่าง อบขนมนาน 20 นาที
– สังเกตว่าขนมไข่เริ่มขึ้นฟู พองตัวขึ้น และมีสีเหลืองนวล ส่งกลิ่นหอม
– ให้ปิดเตาอบ แล้วนำพิมพ์ขนมออกจากเตา พักไว้ให้ขนมเย็นตัวลง
– ใช้ไม้จิ้มฟัน แซะขนมอย่างเบามือเพื่อเอาออกจากพิมพ์
– จากนั้นก็จัดเสิร์ฟขนมไข่ได้ทันที หรือจะเก็บใส่ถุงพลาสติก แล้วรัดในยางให้แน่น เก็บไว้ทานคู่กับชา กาแฟ หรือเป็นขนมกินเล่นยามว่างก็ได้เหมือนกันนะครับ สำหรับขนมไข่สูตรนี้จะมีเนื้อที่กรอบนอกนุ่มใน นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนจากลูกเกด เป็นไส้ชนิดอื่นได้ตามใจชอบเลยครับ

สูตรและวิธีทำขนมไข่ สูตรที่ 2

ส่วนผสมขนมไข่ (สูตรแยม 3 รส)

– แป้งเค้ก 3 ถ้วยตวง
– ผงฟู 2 ช้อนชา
– ไข่ไก่เบอร์ 0 จำนวน 2 ฟอง
– ไข่เป็ดเบอร์ 0 จำนวน 2 ฟอง
– น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
– กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
– น้ำมะนาวคั้นสด 2 ช้อนชา
– มาการีน 2 ช้อนโต๊ะ
– แยมรสสตอเบอรี่
– แยมรสส้ม
– แยมรสบลูเบอรี่

วิธีการทำขนมไข่

– ในขั้นตอนแรกให้ผสมแป้งเค้กกับผงฟูเข้าตามสัดส่วนเข้าด้วยกัน แล้วทำการร่อนแป้งจำนวน 2 รอบ จนได้แป้งเนื้อเนียนละเอียด จากนั้นให้พักไว้ในภาชนะที่ใช้ผสม
– เตรียมโถผสมอาหารและหัวตระกร้อสำหรับใช้ตีไข่
– จากนั้นก็ตอกไข่ไก่ 2 ฟอง และไข่เป็ด 2 ฟองลงในโถผสม ตามด้วยเติมน้ำตาลทราย เติมน้ำมะนาวคั้นสดและกลิ่นวนิลาตามลงไป
– ตีไข่ทั้งสองชนิดและส่วนผสมต่างๆ ด้วยความเร็วสูงสุด ตีนานประมาณ 10 นาที หรือตีจนส่วนผสมเริ่มมีเนื้อเนียน และให้เนื้อไข่ขึ้นฟูตั้งยอด
– โดยต้องตีส่วนผสมไข่จนกว่าน้ำตาลทรายจะละลายจนหมด
– ต่อมาให้นำแป้งเค้กและผงฟูที่ร่อนไว้ ทยอยผสมลงไปในไข่ที่ตีไว้ ใช้ไม้พายตะล่อมให้เข้ากัน ผสมไปมาอย่างเบามือ
– ตักแป้งผสมลงไปในเนื้อไข่จนหมด คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันอีกรอบ แล้วพักรอไว้ก่อน
– เลือกใช้เตาอบไฟฟ้าขนาดเล็ก สำหรับอบขนมชิ้นเล็ก
– เสียบปลั๊ก แล้วกดเปิดไฟวอร์มเตารอเอาไว้ก่อนนะครับ
– และนำผ้าขาวบางชุบมาการีนเล็กน้อย แล้วทาลงในพิมพ์ขนมเตาอบบางๆ
– จากนั้นก็นำส่วนผสมขนมไข่ตักหยอดลงไปประมาณครึ่งช้อนโต๊ะ
– หยอดแยมรสต่างๆ ลงไปประมาณครึ่งช้อนชา แล้วหลังจากนั้นก็หยอดขนมไข่ตามลงไปอีกประมาณครึ่งช้อนโต๊ะครับ
– ปิดฝาเครื่องอบ แล้วอบขนมประมาณ 5-8 นาที รอจนขนมสุก มีสีเหลืองนวล
– ในขั้นตอนการอบ แนะนำว่าอย่าเปิดฝาเตาอบบ่อยนะครับ เพราะจะทำให้ขนมสุกช้า และเนื้อขนมจะสุกไม่สม่ำเสมอกัน ให้อบแบบหนึ่งรอบ เปิดฝาหนึ่งครั้ง แล้วตักขนมออก
– ใช้ไม้จิ้มฟัน หรือช้อนส้อมแซะขนมไข่ออกจากพิมพ์อย่างเบามือ
– นำผ้าชุบมาการีนบางๆ แล้วเช็ดพิมพ์ขนมอีกครั้ง และทำการหยอดขนมแบบเดิมไปเรื่อยๆ จนตัวขนมหมด
– โดยหยอดสลับแยมรสชาติต่างๆ หรือจะผสมแยมทั้งสามชนิดลงไปพร้อมกันก็ได้ครับ
– เมื่อแซะขนมไข่ออกจากพิมพ์แล้ว ให้วางขนมไข่พักไว้บนตะแกรง รอให้ขนมเย็นตัวลงแล้วค่อยรับประทาน
– สำหรับขั้นตอนการจัดเสิร์ฟ ให้เสิร์ฟพร้อมกับชา กาแฟ โกโก้ร้อน จะช่วยเพิ่มความอร่อยในการรับประทานขนมไข่มากยิ่งขึ้น
– ทั้งนี้สูตรขนมไข่แบบใส่แยมรสชาติต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยนำผลไม้แห้งมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นสตอเบอรี่แห้ง อินทผลัมแห้ง กีวี่แห้ง ลูกพลับแห้ง แล้วนำมาใส่ไส้ขนมไข่แทนแยม หรือจะดัดแปลงไส้เป็นวัตถุดิบอื่นๆ ที่เหมาะสมได้ตามใจชอบครับ

การขายขนมไข่

error: Content is protected !!