สูตรวิธีการทำขนมถังทอง สูตรที่ 1
ส่วนผสมขนมถังทอง
– แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
– แป้งสาลีอเนกประสงค์ ½ ถ้วย
– ยีสต์ ½ ช้อนชา
– น้ำสะอาด 1 ½ ถ้วยตวง
– เบกกิ้งโซดา ¼ ช้อนชา
– น้ำตาล ½ ถ้วย
– ผงฟู ¼ ช้อนชา
– น้ำมันพืช หรือเนยสด สำหรับทากระทะ
ส่วนผสมไส้ขนม
– น้ำตาลทราย
– เกลือป่น
– งาขาว
– งาดำคั่ว
– มะพร้าวอ่อน หรือมะพร้าวทึนทึกขูด
วิธีการทำขนมถังทอง
– ขั้นตอนแรกเริ่มทำกันที่ตัวแป้งขนมกันก่อน นำเอาแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งข้าวเจ้า ยีสต์ น้ำตาลทราย เทลงในอ่างผสม ค่อยเติมน้ำลงไป แล้วตีหรือคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ดูให้น้ำตาลทรายละลายดี และแป้งต้องไม่จับตัวเป็นเม็ด เมื่อเห็นว่าแป้งเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้เทแป้งลงในภาชนะที่มีฝาปิด จัดการปิดฝาให้เรียบร้อย วางไว้ในอุณหภูมิห้อง ประมาณ 30 นาที
– หันมาทำตัวไส้ง่ายๆ ด้วยการผสม น้ำตาล เกลือป่น งาขาว งาดำ ให้เข้าด้วยกัน พักเตรียมไว้สำหรับเป็นไส้
– เมื่อครบเวลา 30 นาทีแล้ว ให้นำแป้งออกมาเปิดฝา ใส่เบกกิ้งโซดาและผงฟูลงไป ตีหรือคนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง แต่คราวนี้สังเกตได้เลยว่าถ้ามีฟองขึ้นมา แปลว่าแป้งได้ที่แล้ว
– ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง เมื่อเห็นว่ากระทะเริ่มร้อนให้หรี่ไฟลงเล็กน้อย ทาน้ำมันพืชหรือเนยบางๆ ลงในกระทะ แล้วจัดการเตรียกแป้งที่เราทำไว้ลงไป แล้วปิดฝา ทิ้งไว้ไม่นาน เปิดฝาดูเมื่อแป้งสุกจะฟู่ขึ้น ให้ใส่มะพร้าวขูด และน้ำตาลที่เราผสมไว้ลงไป ชอบหวานขนาดไหนก็ใส่ได้ตามใจชอบ แล้วจัดการพับครึ่งตัวขนม แล้วใช่จานเสิร์ฟได้ทันที
– สำหรับขนมถังทองสามารถทำได้หลายไส้ ไม่ว่าจะเป็น ไส้เผือก ไส้ข้าวโพด ไส้ครีม ไส้ฝอยทอง และอื่นๆ ได้อีกมากมาย นอกจากนี้การใส่ไส้ในขณะที่ขนมยังอยู่ในเตา ความร้อนจะทำให้น้ำตาลละลาย หากใครที่ไม่ชอบให้น้ำตาลละลาย สามาระตักขนมขึ้นมาแล้วรอให้เย็นก่อน ค่อยใส่ไส้ก็ได้
สูตรวิธีการทำขนมถังทอง สูตรที่ 2
ส่วนผสมขนมถังทอง
– แป้งข้าวเจ้า 2 กิโลกรัม
– โซดาไบคาร์บอเนต 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำต้มสุด 1-2 ถ้วย
– แป้งเชื้อที่หมักไว้
– น้ำตาลเคี่ยว ½ ถ้วย (น้ำตาลปี๊บ 2 กิโลกรัม, น้ำ 1 ถ้วย, ใบเตย 8 ใบ)
– ส่วนผสมของไส้ มะพร้าวทึนทึกขูด 6 ถ้วย, งานดำบุบพอแตก 1 ถ้วย, น้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม คลุกเคล้าให้เข้ากัน
วิธีการทำขนมถังทอง
– ก่อนจะได้ทำขนมถังทอง ต้องทำแป้งเชื้อไว้ล่วงหน้า 2 วันเลยทีเดียว สำหรับสูตรนี้ โดยการผสมแป้งข้าวเจ้า 500 กรัม กับน้ำ ½ ถ้วย เข้าด้วยกัน แล้วปิดฝาหมักทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน
– ทำน้ำตาลเคี่ยว ด้วยการนำน้ำตาลปี๊บ กับน้ำ 1 ถ้วย มาเทลงบนกระทะ ยกตั้งขึ้นไฟ โดยต้องใช้ไฟอ่อน ใส่ใบเตย เคี่ยวและคนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเหนี่ยวเป็นยางมะตูม แล้วค่อยตักใบเตยทิ้ง แล้วจัดการกรองอีกครั้งด้วยผ้าขาวบาง วางทิ้งไว้ให้เย็น
– ถึงเวลาที่จะมาทำตัวแป้งขนมกันแล้ว ใส่แป้งเชื้อที่หมักไว้ลงในอ่างผสม แล้วเทแป้งข้าวเจ้า น้ำ แล้วคนให้เข้ากัน แป้งที่จะมีลักษณะเหนี่ยวข้น ให้ปิดฝาหมักทิ้งไว้อีก 6-10 ชั่วโมง
– เมื่อแป้งได้ที่ให้ผสมแบ่งตามอัตราส่วน แป้งที่หมักไว้ 4 ถ้วย น้ำตาลเคี่ยว ½ ถ้วย โซดาไบคาร์บอเนต ¼ ช้อนชา คนให้ทุกอย่างเข้ากัน ควรใช้เวลา 5-10 นาที
– ตั้งกระทะพิมพ์ให้ร้อน เช็ดพิมพ์ด้วยน้ำมันให้ทั่วพิมพ์ แล้วตักแป้งใส่ ปิดฝาประมาณ 2 นาที แล้วโรยด้วยมะพร้าวขูด และน้ำตาลที่เราผสมงาเอาไว้ แซะด้านข้างแล้วพักครึ่งเป็นรูปวงกลม เป็นอันว่าเสร็จ
– เคล็ดลับการเทแป้งลงพิมพ์ ควรจะใส่จากขอบพิมพ์ก่อน ให้ตัวแป้งจับขอบพิมพ์บางๆ ตรงหน้าหนาได้ เวลาทำเสร็จช่วยขอบจะได้กรอบ ซึ่งสูตรนี้ทำได้ประมาณ 100-150 ชิ้นเลยทีเดียว หากทำน้อยๆ ให้ลดทอนส่วนผสมลง นอกจากนี้ในการหมักแป้งเชื้อ หากอากาศร้อนๆ แป้งจะขึ้นเร็วกว่าอากาศเย็น หากแป้งมีกลิ่นเปรี้ยวๆ แสดงว่าใช้ได้แล้ว
สูตรวิธีการทำขนมถังทอง สูตรที่ 3
ส่วนผสมขนมถังทอง
– แป้งสาลี 500 กรัม
– แป้งข้าวเจ้า 1500 กรัม
– กะทิ 3 ถ้วยตวง
– น้ำ 6 ถ้วยตวง
– ยีสต์ 2 ช้อนชา
– น้ำตาลทราย 800 กรัม และน้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
– เกลือป่น
– ส่วนผสมไส้ งาดำคั่วพอสุก 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับ น้ำตาลทราย และเตรียมมะพร้าวแก่ขูด 2 ½ ถ้วยตวง
วิธีการทำขนมถังทอง
– อย่างแรกเลยเราต้องผสมแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า และน้ำตาล 800 กรัม และเกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากัน แล้วเติมกะทิและน้ำ กวนส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
– นำภาชนะที่ปิดฝาได้ มาใส่ ยีสต์ที่เตรียมมา มาผสมกับน้ำตาล 2 ช้อนชา และน้ำอุ่นอีกเล็กน้อย คนๆ ให้ส่วนผสมเข้ากันดี แล้วปิดฝาภาชนะ นำไปตั้งตากแดดไว้ประมาณ 8-10 นาที เมื่อครบเวลาแล้ว ให้นำยีสต์ที่ได้ไปผสมกับแป้งในขั้นตอนที่ 1 กวนๆ คนๆ ให้แป้งเข้ากัน แล้วปิดฝาอีกครั้ง ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 3 ชั่วโมง สังเกตว่ามีกลิ่นเปรี้ยวๆ และมีฟองขึ้น แปลว่าใช้ได้
– ตั้งกระทะ ทาน้ำมัน ใช้ไฟกลางๆ ค่อนไปทางอ่อน เมื่อกระทะร้อนได้ที ก็เทแป้งลงในกระทะ พอแป้งสุกให้ใส่มะพร้าว โรยน้ำตาลที่เราผสมไว้ แซะออกจากพิมพ์พับครึ่ง จัดลงจานเสิร์ฟร้อนๆ อร่อยมาก