สำหรับในบทความนี้ ผมก็จะขอนำเสนอบทความเกี่ยวกับการทำเฉาก๊วย และการนำเฉาก๊วยไปขายนะครับ ว่าเค้าทำกันอย่างไรบ้าง ซึ่งเฉาก๊วยนั้น ไม่ว่าผมจะไปตลาดไหน ก็มีร้านขายเฉาก๊วยกันอยู่ทุกตลาด แสดงว่ามีคนทานเฉาก๊วยอยู่เยอะ ทำให้พ่อค้าแม่ค้าขายเฉาก๊วยได้เรื่อยๆ ได้กำไรเลี้ยงชีพ บางคนก็ตั้งตัวได้จนรวยไปเลยก็มีให้เห็นอยู่หลายราย
ก่อนอื่นก็ขอกล่าวถึงประวัติของเฉาก๊วยสั้นๆ นะครับ เฉาก๊วยเนี่ยสมัยก่อนนู้นนานมาแล้ว จะอยู่ที่ประเทศจีนนะครับ เป็นของหวานของประเทศจีนนี่เอง เฉาก๊วยมาจากคำว่า 草粿 (เฉากว่อ) ซึ่งคำในภาษาจีนฮกเกี้ยน ในภาษาจีนกลางจะเรียกว่า เหลียงเฝิ่น หรือ เซียนเฉ่า แปลว่า หญ้าเทวดา ในขณะที่ชาวมาเลย์จะเรียกเฉาก๊วยว่า จินเจา
แรกเริ่มเดิมที เฉาก๊วยมาจากคนจีนที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย และได้นำเฉาก๊วยเข้ามาขายด้วย เริ่มแรกขายเป็นเฉาก๊วยนิ่มแบบดั้งเดิมจากประเทศจีน เวลาจะทานใส่น้ำตาลทรายแบบของจีน โดยจะขายคู่กับเต้าฮวย และเนื่องจากประเทศไทยมีอากาศค่อนข้างร้อน ในระยะต่อมาจึงได้มีการใส่น้ำแข็งใสลงไปด้วย กลายเป็นเฉาก๊วยแบบเย็นอร่อย และกาลเวลาผ่านมาไม่นานนักเฉาก๊วยก็เป็นที่นิยม และเริ่มขยายวงกว้างเป็นที่รู้จักของคนไทยจนมาถึงปัจจุบันนี้
ต้นเฉาก๊วยซึ่งเป็นพืชในตระกูล Lamiaceae (ตระกูลมิ้นท์) ตระกูลเดียวกับ สะระแหน่ กะเพรา โหระพา แมงลัก และยี่หร่า
เอาหล่ะอารัมภบทมาแล้ว ก็มาเข้าสู่เนื้อหาหลักๆ กันดีกว่าครับ มาเริ่มกันเลยครับ
สูตรวิธีการทำเฉาก๊วย สูตรที่ 1
ส่วนผสม
1. เฉาก๊วยสำเร็จรูป 1 ซอง
2. น้ำเปล่า 1 ลิตร
3. น้ำตาลทองธรรมชาติ
4. น้ำเปล่า (สำหรับทำน้ำเชื่อม)
5. น้ำแข็ง สำหรับเสิร์ฟ
6. นมสด
วิธีการทำเฉาก๊วย
1. ในอ่างผสม เติม น้ำ 200 มิลลิลิตร และตามด้วยผงเฉาก๊วย ลงไป ใช้พายคนให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเข้ากันเป็นอย่างดี แล้วพักไว้ก่อนครับ
2. นำหม้อมาใส่น้ำสะอาด 800 มิลลิลิตร นำขึ้นตั้งไฟแรง พอเดือดแล้วให้ปรับลดระดับไฟลง
3. เปลี่ยนระดับความแรงของไฟเป็นไฟอ่อน แล้วนำผงเฉาก๊วยที่ละลายน้ำเอาไว้มาเทใส่หม้อน้ำร้อนที่เดือดแล้วนั้น
แล้วใช้พายกวนต่อ กวนผสมจนเนื้อของสวนผสมเข้ากัน และมีลักษณะเป็นเนื้อที่เนียนสวย ปิดไฟยกลง ตักใส่ภาชนะ รอให้จับตัวแข็งเป็นเนื้อแน่นๆ กว่านี้
ต่อไปมาทำน้ำเชื่อมนะครับ น้ำ 1 ลิตร และน้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม หรือจะเยอะหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ครับ ใช้สัดส่วน 1:1 เทผสมลงในหม้อ ตั้งไฟอ่อน เคี่ยวให้น้ำตาลละลาย ปิดไฟยกลงครับ
4. ตักเฉาก๊วยด้วยช้อน หรือหั่นเป็นสี่เหลี่ยมพอคำ หรือใช้ที่ตักไอศกรีม ค่อยๆ ตักเป็นลูกกลม (ใช้ลูกเล่นนิดหน่อย เพื่อความน่ารักครับ แต่ขณะตักระวังเนื้อเฉาก๊วยแตกด้วยนะครับ) จัดใส่ถ้วย น้ำแข็งป่นโปะลงไป ราดน้ำเชื่อม ตามด้วยนมสด จัดเสิร์ฟ หอมกลิ่นนมสดรับประทาน อร่อยและเย็นชื่นใจมากครับ
สูตรวิธีการทำเฉาก๊วย สูตรที่ 2
ส่วนผสม
1. เฉาก๊วยสำเร็จรูป 1 ซอง
3. น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี
4. นมสด 1 ลิตร
5. ผงชาไทย
6. น้ำแข็ง สำหรับเสิร์ฟ
7. น้ำสะอาด
วิธีการทำเฉาก๊วย
1. น้ำ 150 มิลลิตร ผสมผงเฉาก๊วย คนให้เข้ากัน พักรอสักครู่
2. น้ำสะอาด 750 มิลลิลิตร ในหม้อต้ม ตั้งไฟกลาง เมื่อเดือดปรับเป็นไฟอ่อน เทผลเฉาก๊วยที่ผสมน้ำลงไป คนผสมให้เนื้อเนียนเข้ากันดีแล้ว ปิดไฟยกลง เทใส่ภาชนะสะอาด รอให้แข็งตัว
3. เทผงชาไทยลงในถุงกรองชาให้เต็ม ยกถุงกรองชาไว้บนภาชนะ หรือหม้อ หรือเหยือก ที่ทนความร้อน ขนาดที่ใส่น้ำได้สัก 1 ลิตร เทน้ำร้อนลงในถุงชา แช่ถุงชาไว้ 1 นาที ให้ได้เนื้อชาเข้มข้น แล้วเต็มน้ำตาล 1 ½ กิโลกรัม คนผสมให้ละลาย
4. หั่นเฉาก๊วยเป็น สี่เหลี่ยมกว้างสักชิ้นละ 1 นิ้ว ตักใส่ถ้วย ตามด้วยน้ำแข็งป่น ราดน้ำเชื่อมชาไทยลงไป ตามด้วยนมสด หอมกลิ่นชาไทยผสมนมสด รสชาติละมุนลิ้น เย็นชื่นใจมากเลยครับ
สำหรับเมนูนี้ ถ้าหากต้องการเปลี่ยนจากชาไทยเป็นชาเขียวก็สามารถทำได้เช่นกันนะครับ โดยใช้วิธีทำและสูตรเดียวกัน แค่เปลี่ยนผงชาเท่านั้นครับ
เคล็ดลับการทำเฉาก๊วยให้เหนียวอร่อย
– วิธีทำให้เฉาก๊วยเหนียวนั้น เราไม่จำเป็นต้องใช้เวลากวนเฉาก๊วยหลังใส่แป้ง เป็นเวลามากเกินไป บางท่านอาจจะกวนเฉาก๊วยถึง 30 นาที การทำเช่นนี้นั้นจะทำให้น้ำในเฉาก๊วยระเหยไปเรื่อยๆ นะครับ ทำให้เฉาก๊วยไม่ค่อยเหนียวนะครับ
– หากเอาเฉาก๊วยแช่น้ำเชื่อมไว้ค้างคืน เฉาก๊วยจะรัดตัว จะทำให้เหนียวเด้งขึ้นอีกด้วย
– แต่เคล็ดลับที่ทำให้เหนียวจริงๆ จะอยู่ที่แป้งที่เราใส่ลงไป จะต้องเป็นแป้งที่เหนียวเป็นพิเศษ อาจจะต้องใช้แป้งมันละลายพิเศษสำหรับเฉาก๊วยนะครับ ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้มีบริษัทผลิตออกมาจำหน่ายตามท้องตลาดอยู่ เราต้องไปซอกแซกตามตลาด หาความรู้ใหม่ๆ อยู่บ่อยๆ นะครับ เก็บเล็กผสมน้อย หรือจะแอบถามพ่อค้าแม่ค้าขายเฉาก๊วยก็ได้ครับว่าเฉาก๊วยเหียวๆ อร่อยๆ แบบนี้ใช้แป้งอะไร จะไปลองทำดูบ้าง
วิธีทำน้ำเชื่อมใส่เฉาก๊วย
– ส่วนการทำน้ำเชื่อมนั้นก็ไม่ยากเลยนะครับ ให้ใช้น้ำสะอาดนะครับ ต้มน้ำให้เดือดก่อนแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป ในอัตราส่วน 50/50 คนเรื่อยๆ จนกว่าจะละลาย หากยังไม่ละลายให้เปิดไฟอ่อนๆ ไว้ คนไปเรื่อยๆ และเราอาจจะเติมใบเตยหอมลงไปต้มด้วยนิดหน่อย กลิ่นก็จะหอมขึ้นนะครับ
การบรรจุซองพลาสติกใส่เฉาก๊วย
– ให้บรรจุเฉาก๊วยในซองพลาสติก หรือภาชนะบรรจุที่สะอาด ปิดได้สนิท และสามารถป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกที่อยู่ภายนอกได้
– น้ำหนักสุทธิ หรือจํานวนชิ้นของเฉาก๊วยในแต่ละซองพลาสติก หรือหรือภาชนะบรรจุต้องไม่น้อยกว่าที่ระบุไว้ที่ฉลาก
เครื่องหมาย และฉลากของเฉาก๊วย
ที่ซองพลาสติกใส่เฉาก๊วย หรือภาชนะบรรจุเฉาก๊วยทุกหน่วย อย่างน้อยต้องมีเลข อักษร หรือเครื่องหมายแจ้งรายละเอียดต่อไปนี้ ให้เห็นได้ง่าย ชัดเจน
– ชื่อผลิตภัณฑ์ เช่น เฉาก๊วยสุดหวาน เฉาก๊วยเย็นเจี๊ยบ เฉาก๊วยอร่อยดี หรืออื่นๆ
– ส่วนประกอบที่สำคัญ
– น้ำหนักสุทธิ หรือจำนวนชิ้น
– วัน เดือน ปีที่ผลิต และวัน เดือน ปีที่หมดอายุุ หรือข้อความว่า “ควรบริโภคก่อน (วัน เดือน ปี) ”
– ข้อแนะนำในการเก็บรักษา เช่น ควรเก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
– ชื่อร้าน หรือบริษัท หรือสถานที่ทำ พร้อมสถานที่ตั้ง หรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน
– ในกรณีทีใช้ภาษาต่างประเทศ ต้องมีความหมายตรงกับภาษาไทยที่กำหนดไว้ข้างต้น
การขายเฉาก๊วย
สำหรับการทำเฉาก๊วยขาย ทุกอย่างก็ต้องมีจุดเริ่มต้นนะครับ ส่วนใหญ่แล้วเฉาก๊วยจะขายกันตามตลาดต่างๆ เป็นร้านเล็กๆ ขายร่วมกับขนมหวานอื่นๆ มีทานที่ร้านบ้าง มีใส่แก้วกลับบ้านบ้าง ซึ่งถ้าเราทำแบบธรรมดา รายได้ของเราก็จะธรรมดา
ผมแนะนำให้ทำเป็นร้านที่ขายแต่เฉาก๊วยอย่างเดียวเลยครับ เมื่อนึกถึงเฉาก๊วย ต้องนึกถึงร้านเรา เอาให้ได้อย่างนั้นเลยครับ ให้ร้านของเราเป็นร้านที่มีบรรยากาศของเฉาก๊วย อาจจะเริ่มจากเช่าห้องเล็กๆ ก่อน แต่เราขายบรรยากาศ ไม่ได้ขายเฉาก๊วยอย่างเดียว ข้างฝาผนังเราก็จะติดรูปเฉาก๊วย เมนูของเราก็จะมีแต่เมนูเฉาก๊วย เช่น เฉาก๊วยนมสด เฉาก๊วยคาราเมล เฉาก๊วยทรงเครื่อง เฉาก๊วยธัญพืช รวมไปจนถึงน้ำเฉาก๊วย และเราก็โปรโมทร้านของเราด้วยช่องทางการตลาดออนไลน์ หรือการตลาดแบบท้องถิ่นตามความเหมาะสม แต่ผมแนะนำให้โปรโมทร้านแบบใช้การตลาดออนไลน์จะประหยัดงบมากกว่า เข้าถึงคนได้เยอะกว่าครับ
เมื่อร้านเฉาก๊วยของเรา คนเริ่มเข้ามาทานกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องต่อคิว จองโต๊ะกัน เมื่อนั้นเราก็ต้องทำการขยายร้านครับให้ร้านใหญ่ขึ้น หรือถ้าขยายร้านไม่ได้ เนื่องจากข้างๆ ร้านเค้าไม่ให้เช่าเพิ่ม หรือไม่ขายที่ให้ เราก็ต้องเบนไปทางขยายสาขาแทนครับ เป็นร้านเฉาก๊วยสาขา 1 สาขา 2 สาขา 3 เรื่อยไปตามกำลังของเราจะทำไหว หรือถ้าเราจะเปิดขายแฟรนไชส์ก็ดี เมื่อเราดังแล้ว เงินก็เริ่มมาเรื่อยๆ ครับ
เฉาก๊วยอร่อย บริการดี ทำเลดี บรรยากาศสวย การตลาดเยี่ยม ถ้าทำได้ดังนี้ โอกาสรุ่งมีมากครับ
ก็ลองดูนะครับ สาหรับธุรกิจสายนี้ ยังไปได้อีกไกลครับ สำหรับร้านขายเฉาก๊วยโดยตรง คู่แข่งยังมีไม่มากเท่าไหร่ มีแต่เจ้าใหญ่ครองตลาดอยู่ เรายังสามารถเข้าไปแบ่งชิ้นเค้กได้ ถ้าเราเตรียมตัวมาดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ ขอให้ประสบความสำเร็จกับการขายเฉาก๊วย และร่ำรวยครับ