เรียนรู้บุคลิกนักธุรกิจต่างชาติ

ในปัจจุบันนี้ชาวต่างชาติได้เข้ามาร่วมลงทุนธุรกิจในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก รวมถึงคนไทยเองก็ได้ไปร่วมหุ้น ร่วมธุรกิจกับชาวต่างประเทศเช่นกัน ผมคิดว่านักธุรกิจไทยหลายท่านๆ ต้องเคยพบกับความอึดอัดใจ ยามต้องติดต่อ หรือต้องทำงานร่วมกับนักธุรกิจต่างชาติ ใช่ไหมครับ

เพราะอะไร เหตุก็คือ เพราะวัฒนธรรมของแต่ประเทศที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องขนบธรรมเนียมประเพณี กิริยามารยาทต่างๆ รวมถึงภาษา ทำให้การติดต่อสื่อสารอาจเกิดความเข้าใจที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการทำธุรกิจ เกิดการผิดใจ จนกลายเป็นบ่อเกิดแห่งความล้มเหลวในการทำธุรกิจร่วมกัน ระหว่างคุณกับคู่ค้าต่างชาติได้

สำหรับวันนี้ผมก็จะมาแนะนำว่า นักธุรกิจใน 4 ประเทศนี้ เค้ามีบุคลิก หรือขนบธรรมเนียมกันอย่างไรบ้าง จะได้กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นครับ

นักธุรกิจชาวจีน

ในเรื่องการทักทาย สำหรับนักธุรกิจที่เป็นชาวจีน บางคนอาจทักทายด้วยการพยักหน้า และก้มศีรษะโค้งเล็กน้อย หรือในกรณีการจับมือ อาจจะจับแบบหลวมๆ ซึ่งหากไม่มีการสบตาเกิดขึ้นนั่นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะชาวจีนบางท่าน อาจจะไม่คุ้นเคยกับการติดต่อกับนักธุรกิจต่างประเทศ

ในการพรีเซนต์งาน หากเรามีข้อซักถามควรให้การพรีเซนต์นั้นจบลงเสียก่อนจึงค่อยเริ่มถามคำถาม โดยเฉพาะกับนักธุรกิจชาวจีน เพราะเขาจะถือว่าไม่สุภาพมาก ถ้าไปขัดจังหวะในขณะที่เขากำลังพูดอยู่

เมื่อเชิญนักธุรกิจชาวจีนมางานเลี้ยง ควรเสิร์ฟอาหารหลัก ไม่ควรเสิร์ฟเครื่องดื่ม หรือขนม และหากคุณถูกเชิญไปงานเลี้ยงอาหารเย็น ควรจะลองชิมอาหารทุกจาน ที่เจ้าภาพเสิร์ฟ และควรเหลืออาหารไว้ในจานเล็กน้อยเมื่ออิ่ม เพราะเจ้าภาพจะถือว่าไม่อิ่มถ้ารับประทานอาหารจนเกลี้ยง และอาจได้รับการเสิร์ฟอาหารไปเรื่อยๆ

ส่วนการไปทานที่ร้านอาหารจีน การให้ทิปค่อนข้างเหมือนกับประเทศไทย คือจะถูกห้าม เพราะถือว่าเป็นการติดสินบน แต่สมัยนี้ดูจะเป็นเรื่องธรรมดา ไปเสียแล้ว ฉะนั้นหากจะทิป ก็ให้ประมาณสิบเปอร์เซ็นต์ของบิลในร้านอาหารนั้นเป็นพอ

สำหรับการให้ของขวัญ ของที่ระลึก พยายามหลีกเลี่ยงสีขาว และสีดำ เพราะคนจีนถือว่าเป็นสีที่ใช้ในงานศพ และหลีกเลี่ยงของขวัญต่างๆ ดังต่อไปนี้ คือ นาฬิกา ร่ม ดอกไม้ขาว ผ้าเช็ดหน้า หรือมีด เพราะสิ่งเหล่านี้แสดงถึงความเศร้าโศกเสียใจ การจากกัน และการตัดสัมพันธ์

ตัวเลขนำโชคของชาวจีน คือ 8 และ 6 ส่วนตัวเลขขัดลาภคือเลข 4

นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น

บุคลิกของนักธุรกิจญี่ปุ่น หรือชาวญี่ปุ่นโดยทั่วไปแล้ว เขาจะค่อนข้างเป็นชาตินิยม ดังนั้นการพูดจาอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับชาติของเขา หรือไปวิพากษ์วิจารณ์ประเทศของเขา อาจสร้างความไม่พอใจ ผิดใจ จนแตกคอกันทางธุรกิจได้ ควรที่จะคุยเรื่องราวทั่วไปเบาๆ จะเหมาะสมกว่า

ส่วนการวางตัวต้องสุภาพพอสมควร จะเห็นว่าวัฒนธรรมของเขา ต้องโค้ง ต้องคำนับ เราก็ไม่ต้องถึงขนาดนั้น รักษาความเป็นไทย ทำตัวให้สำรวมสุภาพก็พอแล้ว หรือถ้าท่านใดไปติดต่อธุรกิจที่ประเทศญี่ปุ่น อยากจะทักทายแบบชาวญี่ปุ่น จะลองโค้ง ลองคำนับแบบชาวญี่ปุ่นก็ได้

ส่วนการเทคแคร์ด้านอาหาร ชาวญี่ปุ่นชาตินิยมมาก อย่างไรก็ตาม เขาย่อมชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่น หรืออะไรที่เป็นของชาติญี่ปุ่นอยู่แล้ว ถ้าอยากพาไปสังสรรค์ต่อควรพาไปคาราโอเกะ และห้ามแย่งไมโครโฟนจากเขาเป็นอันขาด

บุคลิกหนึ่งที่สัมผัสได้คือ นักธุรกิจญี่ปุ่นจะไม่ค่อยชอบไปสังสรรค์เฮฮา กับนักธุรกิจที่เป็นฝรั่งสักเท่าไรนัก ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใดก็ตาม เขารักที่จะทำงานร่วมกับชาวญี่ปุ่นด้วยกันมากกว่า ดังนั้นหากต้องไปร่วมกัน ควรจัดที่นั่งให้ได้ระยะห่างกันพอสมควร และมีคนไทย หรือคนเอเชียด้วยกันคั่นไว้จะเหมาะมาก

นักธุรกิจชาวอเมริกัน

เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศเปิด มีอิสระเสรีเหนืออื่นใด ทำให้ครอบคลุมมาถึงเรื่องของการทำงาน ทำธุรกิจ นักธุรกิจชาวอเมริกัน ค่อนข้างเปิดกว้างกับทุกคน กล้าได้กล้าเสีย เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน

บุคลิกที่เด่นชัดของนักธุรกิจชาวอเมริกันอีกอย่าง คือ ค่อนข้างตรงไปตรงมา ต้องการอะไรก็จะพูดจะบอกกันตรงๆ ดังนั้นเราก็ควรพูดตรงๆ แต่อยู่ในลีลาของความเป็นไทยไปด้วย

คนอเมริกันเป็นคนขี้คุย เพราะฉะนั้นต้องปล่อยให้เขาคุยมากๆ โดยเราต้องมีข้อมูลทั่วไปเตรียมพร้อมอยู่ในหัว และพร้อมที่จะเออออบ้าง หรือถ้าไม่เห็นด้วยก็คัดค้านบ้างอย่างมีเหตุผล อย่างมีศิลปะ

นักธุรกิจชาวเยอรมัน

บุคลิกคนชาติเยอรมันจะค่อนข้างเงียบๆ ไม่ชอบสั่ง ชอบทำอะไรด้วยตัวเอง ดังนั้นการปฏิบัติของเรา ถ้าเรามีนายเป็นชาวเยอรมัน ในฐานะที่เป็นลูกน้อง ก็ต้องเข้าหาเจ้านายให้มากขึ้นเพื่อช่วยงานของเขา ซึ่งการเข้าไปตรงๆ ถือว่าเป็นการเรียนรู้การทำงาน สร้างความเข้าใจกันได้ดียิ่งขึ้น หรือถ้าเป็นนักธุรกิจก็ต้องนัดพูดคุยเจรจากันตรงๆ จะได้เรื่องมากกว่าครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับกับบทความ เรียนรู้บุคลิกนักธุรกิจต่างชาติ ถึงตรงนี้คงทำให้นักธุรกิจทั้งหลายได้มีความเข้าอกเข้าใจ อุปนิสัยใจคอ นักธุรกิจต่างชาติเหล่านี้ดีขึ้นบ้างแล้วนะครับ และถ้าจะนัดเจรจาธุรกิจ กับชาวต่างชาติในครั้งหน้า หวังว่าคุณคงคว้าความสำเร็จมาอยู่ในมือของคุณเองได้ไม่ยากครับ

error: Content is protected !!