วิธีปลูกส้มจี๊ด พร้อมคำแนะนำในการขายส้มจี๊ด

ต้นส้มจี๊ด
 

ส้มจี๊ดเป็นผลไม้ตระกูลส้ม ที่มีผลขนาดเล็ก รสชาติจี๊ดจ๊าดสะใจมากๆ ส้มจี๊ดปลูกได้ทั้งในกระถาง หรือปลูกลงดิน ในช่วงแรกเกษตรกรไม่นิยมเก็บผลส้มจี๊ดไว้สักเท่าไหร่ แม้ว่าจะติดผลเยอะก็จะทำการเด็ดทิ้งไป เพื่อสร้างพุ่ม เมื่อเห็นว่าต้นแข็งแรงและทรงพุ่มได้แล้ว จึงจะปล่อยให้ดอกติดผล

ลักษณะทั่วไปของต้นส้มจี๊ด

ส้มจี๊ดเป็นไม้ยืนต้น มีพุ่มขนาดกลางเมื่ออายุประมาณ 4-5 ปีขึ้นไป ความสูงของต้นส้มจี๊ดอยู่ที่ 1.25-2.70 เมตรเท่านั้น ความกว้างของพุ่มอยู่ที่ 1.30-1.65 เมตร มีหนามอ่อนๆ เกิดระหว่างข้อใบ ลำต้นอ่อนจะมีสี้น้ำตาลอ่อนๆ แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่
ใบจะมีลักษณะเป็นรูปไข่ ขอบใบเรียว ปลายแหลม กว้าง 2-4 เซนติเมตร และยาวประมาณ 4-7 เซนติเมตร ใบอ่อนจะมีสีเหลืองอ่อน ใบแก่จะมีสีเขียว เรียงสลับกันไป

ต้นส้มจี๊ดผลกลม
ต้นส้มจี๊ดผลกลม
ผลจะค่อนข้างกลม จะมีสีเขียวหากเป็นผลอ่อน และมีสีเขียวอมเหลืองนั่นแปลว่าสามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว มีเปลือกบาง เนื้อในสีเหลือง รสชาติเปรี้ยวอย่าบอกใครเลยล่ะ

ต้นส้มจี๊ดผลรูปไข่
ต้นส้มจี๊ดผลรูปไข่
ผลรูปไข่กินได้ทั้งผล ทั้งเนื้อและเปลือก เนื้อมีรสเปรี้ยว แต่เปลือกจะมีรสหวาน ต้นส้มจี๊ดที่อยู่ในธรรมชาติมักมีขนาดเล็ก จึงเหมาะที่จะปลูกในกระถาง หรือนำมาทำบอนไซ

สามารถขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ติดตา และตอนกิ่ง แต่ที่เกษตรนิยมส่วนใหญ่จะเป็นการตอนกิ่ง เพราะจะง่ายต่อการปลูก สามารถต้านทานโรค และที่สำคัญให้ผลผลิตได้อย่างรวดเร็ว ต้นเตี้ย ง่ายต่อการเก็บเกี่ยว

วิธีการปลูกส้มจี๊ด

1.แนะนำให้ปลูกในช่วงฤดูฝน เพื่อไม่ให้ต้นส้มจี๊ดที่ลงดินไปแล้วเกิดการขาดน้ำ
2.การเว้นช่วงในการปลูก คือระยะ 3×6 เมตร 3×3 เมตร และ 5×5 เมตร ทำการขุดหลุมให้มีความกว้าง 50×50 เซนติเมตร และลึก 50 เซนติเมตร
3. ผสมดินกับปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ด้วยอัตรา 1:1 เข้าด้วยกัน แล้วนำดินใส่ที่ถูกผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักใส่กลับลงไปในหลุมเหมือนเดิม ประมาณ 2 ใน 3 ของความลึก
4.นำต้นกล้ามาวางไว้ในหลุม ใช้มีดกรีดถุงพลาสติกออก ระวังอย่าให้ดินในถุงแตกออก แล้วกลบด้วยดินที่เหลือลงไปในหลุม
5.เพื่อป้องกันต้นพันธุ์ส้มจี๊ดล้ม ให้ปักไม้ไว้บริเวณโคนส้มจี๊ดแล้วผูกเชือก จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม

การดูแลรักษาต้นส้มจี๊ด

1.น้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในช่วงแรกที่มีการปลูกส้มจี๊ด เพราะหากเกษตรกรปล่อยให้ขาดน้ำ จะนำไปสู่การเป็นโรคและแมลงรบกวน หลังจากการปลูกใหม่ๆ ควรรดน้ำทุกวัน หลังจากที่เห็นว่าต้นส้มจี๊ดพออยู่ตัวสามารถเปลี่ยนเป็น 2 สัปดาห์ครั้ง และค่อยรดเฉพาะช่วงแล้ง หรือฝนไม่ตกเป็นครั้งคราว เมื่อต้นโตเต็มที่แล้วก็ยังต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ เกษตรกรท่านไหนที่ปลูกเป็นสวนขนาดใหญ่จะต้องมีระบบรดน้ำแบบมินิสปริงเกอร์
2.การใส่ปุ๋ย ในช่วงแรกที่มีการปลูกใหม่ๆ ให้อัดปุ๋ยคอกไปก่อน ในช่วงนี้ปุ๋ยเคมียังไม่สำคัญอะไรมาก ค่อยมาเริ่มใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 20-10-10 และ 20-11-11 เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของต้นและใบ ในช่วงเดือนที่ 4 ด้วยปริมาณ 200 กรัมต่อต้น แล้วค่อยเพิ่มมาเป็น 300-500กรัมต่อต้น เมื่อต้นส้มมีอายุได้ 2 ปี เมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 ให้เปลี่ยนสลับเป็นปุ๋ยตัวกลางคือ 8-24-24 หรือ 12-24-12 แต่ทั้งนี้ไม่ควรใช้ติดต่อเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เพราะจะทำให้เกิดการสะสมธาตุ P มากเกินไป แนะนำให้ใช้สลับกันไป การให้ปุ๋ยทุกครั้งจะต้องมีการหว่านตามแนวพุ่ม ไม่แนะนำให้ชิดโคนต้นส้มจี๊ดจนเกินไป เพราะอาจทำให้โคนเน่าหลังจากปุ๋ยละลาย
3.การตัดแต่งกิ่ง สำหรับส้มจี๊ดเป็นพุ่มที่มีลำต้นหลักเพียงต้นเดียว และแตกกิ่งประมาณ 3-5 กิ่ง เกษตรกรจำเป็นจะต้องเลือกตัดกิ่งที่รกทึบบริเวณด้านล่างและกลางต้นออก เพื่อที่แสงแดดจะได้ส่องถึงโคนต้น กิ่งที่อ่อนแอ ที่น้ำค้าง เป็นโรคและถูกแมลงทำลายให้จัดการตัดทิ้งไปได้เลย

วัชพืช

1.หนอนชอนใบ จะคอยทำลายระยะใบอ่อน ทำการกัดกินใบจากด้านหน้าสู่ด้านหลัง สังเกตได้ง่ายๆ ใบจะเห็นเป็นทางสีขาวคดเคี้ยวไปมา ใบหงิกงอ ขอบใบม้วนเข้ากลางใบ ไม่เจริญเติบโตและแคระแกรน วิธีการป้องกันเกษตรกรจะต้องทำการสุ่มสำรวจบริเวณยอด หากพบในปริมาณที่ไม่มากนัก ให้เด็ดใบเผาทำลายทิ้ง กรณีที่มากให้ใช้ อบาแม็คติน อัตตรา 3-5 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นไปบริเวณที่มีหนอนชอนใบ
2.เพลี้ยไฟ จะเป็นรอยสีเทา เป็นขั้วบริเวณที่ถูกทำลาย ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดกับผลอ่อน โดยที่เพลี้ยจะดูดกินน้ำจากยอดอ่อน ใบและผล วิธีการป้องกันหากพบลักษณะดังกล่าวให้ใช้ อิมิดาคลอพริด ในอัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
3.ไรแดง จะเกิดอาการใบส้มจี๊ดหงิกงอ ไม่เจริญเติบโต และร่วงหล่น ผลจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินและสีน้ำตาลในเวลาต่อมา มีผิวที่กร้าน แคระแกรนและร่วงในที่สุด วิธีการกำจัดด้วยวิธีการพ่นกำมะถันชนิดละลายน้ำ ด้วยอัตราส่วน 4 ช้อนต่อน้ำ 20 ลิตร ทุกๆ 15 วัน เช้าเย็น เพื่อป้องกันอาการใบไหม้

ส้มจี๊ดจัดว่าเป็นส้มที่ปลูกและดูแลง่ายสุดในตระกูลส้มแล้ว อีกทั้งให้ผลผลิตที่ดี ลูกดก ต้นทุนต่ำ เป็นอีกหนึ่งการเกษตรที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับเกษตรกรท่านไหนที่กำลังวางแผนปลูกผลไม้เสริมอยู่นั้น ลองหันมาปลูกส้มจี๊ดดูนะครับ ได้ผลผลิตอย่างงาม

ส้มจี๊ด

error: Content is protected !!