สำหรับบทความนี้ ก็เป็นเรื่องของขนมใส่ไส้ที่สุดแสนจะหอมหวานอร่อย ทำทานเองก็อร่อย ทำขายก็มีคนซื้อ เพราะขนมใส่ไส้เป็นขนมที่มีชื่อเสียงมานานแล้วด้านความอร่อย ทุกวันนี้ก็ยังมีพ่อค้าแม่ค้าขายขนมใส่ไส้อยู่เป็นจำนวนมากตามตลาดต่างๆ สำหรับวิธีทำก็ไม่ยากนะครับ ลองศึกษา ลองทำดู เมื่อทำแล้วก็ลองทานเอง หรือให้ญาติพี่น้องลองชิมดูฝีมือของเราดูว่าอร่อยมั้ย รสชาติต้องปรับปรุงมั้ย ทำบ่อยๆ เข้า เดี๋ยวก็ทำขนมใส่ไส้ได้เองหล่ะครับ
สำหรับขนมใส่ไส้ นี่นะครับ มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ขนมสอดไส้ แต่ปัจุจุบันนี้จะเรียกว่าขนมใส่ไส้มากกว่า
สำหรับวิธีทำก็ไม่ยากไม่ง่าย ลองมาศึกษาวิธีทำขนมใส่ไส้กันดีกว่าครับ
สูตรวิธีการทำขนมใส่ไส้ สูตรที่ 1
ส่วนผสมขนมใส่ไส้
– แป้งข้าวเหนียวขาว 1 ถ้วย
– แป้งข้าวเหนียวดำ 1 ถ้วย
– น้ำอุ่น 1 ถ้วย
– มะพร้าวขูด ½ กิโลกรัม
– แป้งข้าวเจ้า ½ ถ้วย
– เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
– น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย
– มะพร้าวทึนทึกขูด 200 กรัม
– น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
– น้ำธรรมดา ¼ ถ้วย
วิธีการทำขนมใส่ไส้
– เริ่มต้นทำขนมใส่ไส้กันด้วยการทำตัวแป้งกันก่อน โดยการนำเอาแป้งข้าวเหนียวขาวและแป้งข้าวเหนียวดำที่เตรียมไว้มาผสมเข้าด้วยกัน ค่อยๆ เติมน้ำอุ่น แล้วใช้มือนวดแป้งไปเรื่อยจนกว่าจะเข้ากันดี เมื่อเห็นว่าแป้งเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ก็ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดประมาณ ½ นิ้ว พักเอาไว้ แต่ต้องนำผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดๆ มาคลุมไว้ เพื่อรักษาความชื้นของแป้ง
– ขั้นตอนที่ 2 ทำหน้าขนม ด้วยการคั่นมะพร้าวขูด ½ กก. ที่เตรียมไว้กับน้ำลอยดอกมะลิ หากไม่มีน้ำลอยดอกมะลิให้ใช้น้ำเปล่าธรรมดาแทนก็ได้ โดยให้ได้หัวกะทิ 4 ถ้วย เมื่อได้หัวกะทิปริมาณตามต้องการแล้ว ให้นำไปผสมกับแป้งข้าวเจ้า เติมเกลือ แล้วนำขึ้นตั้งไฟ ให้ใช้ไฟอ่อน และต้องคนตลอดเวลา อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน เอาแค่ข้นๆ พอ จากนั้นยกลงพักไว้ก่อน
– แล้วหันมาทำไส้ต่อ ด้วยการมะพร้าวทึนทึกที่ขูดเตรียมไว้ มาผสมกับน้ำตาลและน้ำ ยกขึ้นตั้งไฟกลาง คนไปเรื่อยๆ จนเห็นว่ามะพร้าวเหนียวพอที่จะปันได้ ให้ยกลงแล้วทิ้งไว้จนกว่าจะเย็น เมื่อเย็นก็จัดการปั้นเป็นก้อนกลมๆ
– มาถึงขั้นตอนการห่อขนม เริ่มที่การนำแป้งที่เราปั้นเป็นก้อนกลมๆ ไว้ในข้อ 1 มาแผ่ออก แล้วใส่ไส้ จากนั้นห่อแป้งปิดไส้ให้มิดชิด นำบรรจุลงในใบตองที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมตัดหน้าขนมที่เราทำไว้ใส่ประมาณ 2-3 ช้อนชา แล้วห่อเป็นทรงตามแบบฉบับของขนมใส่ไส้ คาดด้วยทางมะพร้าวและกัดด้วยไม่กลัดด้านบน
– นำไปนึ่งประมาณ 10 นาที ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมรับประทาน แต่ควรจะรอให้ขนมเย็นสักพักถึงจะรับประทานได้ เพราะในช่วงที่นึ่งเสร็จใหม่ๆ หน้าขนมจะร้อนและยังไม่เซ็ตตัว จึงควรให้เย็นก่อน
สูตรวิธีการทำขนมใส่ไส้ สูตรที่ 2
ส่วนผสมขนมใส่ไส้
– น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
– เกลือป่น ½ ช้อนชา สำหรับทำไส้ และ เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับทำหน้าขนม
– มะพร้าวทึนทึกขูด
– แป้งข้าวเหนียว 350 กรัม
– น้ำใบเตยปั่นละเอียด 300 มิลลิลิตร
– กะทิ 800 มิลลิลิตร
– แป้งข้าวเจ้า 80 กรัม
– กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา
วิธีการทำขนมใส่ไส้
– การเตรียมใบตองสำหรับห่อขนม ควรเตรียมใบตอง 2 ขนาด คือใบตองชั้นนอกขนาด 5 นิ้ว และใบตองสำหรับใช้ในขนาดประมาณ 4 นิ้ว นำมาตัดมุมให้เป็นทรงวงรี แล้วจัดการเช็ดทำความสะอาด และสามารถนำไปลนไฟเล็กน้อยก็ได้ เพื่อให้ห่อขนมได้ง่ายขึ้น
– ขั้นตอนการทำไส้ขนม นำมะพร้าวขูดทึนทึก เกลือ ½ ช้อนชา และน้ำตาลปี๊บ ลงไปกวนในกระทะทองเหลือง ผัดไปเรื่อย ใช้ไฟอ่อน กวนจนกว่าจะครบ 20 นาที เมื่อเห็นว่ามะพร้าวเริ่มแห้งดี ให้ยกลงแล้วพักไว้ให้เย็น
– ทำตัวแป้ง ด้วยการนำแป้งข้าวเหนียวที่เตรียมไว้ มานวดกับน้ำใบเตย ค่อยเติมน้ำและนวดไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งจะเริ่มเป็นก้อน เมื่อแป้งเป็นก้อนดีให้คลุมไว้ด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำ หรือพาสติกแรป
– ทำหน้าขนม จากกะทิทั้งหมด 800 มิลลิลิตร ให้นำกะทิ ¼ ของที่เราเตรียมมาผสมกับแป้งข้าวเจ้า เกลือป่น กลิ่นมะลิ นำขึ้นตั้งไฟ โดยใช้ไฟอ่อน คนให้ส่วนผสมเข้าไปไม่จับตัวเป็นเม็ด แล้วค่อยๆ เทกะทิส่วนที่เหลือลงไป และคนต่อไปเรื่อยๆ จนกะทิเหนียวข้นอย่างที่เราต้องการ แล้วยกลงจากเตาพักทิ้งไว้ให้เย็น
– การเตรียมปั้นแป้ง สามารถปั้นแป้งในข้อ 3 ให้เป็นก้อนกลมๆ ประมาณ 1 นิ้วครึ่ง คลุมผ้าเตรียมเอาไว้
– เมื่อเห็นว่าไส้เริ่มเย็นจนเราสามารถจับได้แล้ว ให้ปั่นไส้เป็นก้อนกลมขนาด 1 นิ้ว
– เมื่อปั้นแป้งและไส้จนหมดเรียบร้อยแล้ว ให้เตรียมใบตอง และอุปกรณ์การห่อได้เลย โดยเริ่มจากการแผ่แป้งที่ปั้นเอาไว้ให้เป็นแบนๆ แล้ววางไส้ลงตรงกลาง แล้วจัดการห่อแป้งให้มิดไส้ นำใบตองที่ตัดไว้ 2 ขนาดมาว่าประกบกัน ด้วยการให้หน้านวลของทั้ง 2 แผ่นชนกัน นำขนมที่เราได้ปั้นไว้มาว่าลงบนใบตอง แล้วราดด้วยหน้าขนมที่เราทำไว้ ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วพับใบตองเป็นทรงสูงคาดด้วยใบมะพร้าวและกลัดด้วยไม่กลัด
– เตรียมตั้งน้ำ และหม้อนึ่ง เมื่อน้ำเดือดจัด นำขนมวาง ประมาณ 30 นาที ยกลงได้ โดยต้องเสิร์ฟตอนที่ขนมเย็นแล้วเท่านั้น เพราะตอนที่ขนมยังร้อนอยู่หน้าขนมที่เป็นกะทิจะยังไม่เซ็ตตัว แล้วจะเละดูไม่น่ากิน
การบรรจุกล่องขนมใส่ไส้
– ให้บรรจุขนมใส่ไส้ในภาชนะบรรจุที่สะอาด ปิดได้สนิท และสามารถป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกที่อยู่ภายนอกได้ เช่น บรรจุขนมใส่ไส้ลงในกล่องพลาสติก
– น้ำหนักสุทธิ หรือจํานวนชิ้นของขนมใส่ไส้ในแต่ละภาชนะบรรจุต้องไม่น้อยกว่าที่ระบุไว้ที่ฉลาก
เครื่องหมาย และฉลากขนมใส่ไส้
ที่ภาชนะบรรจุขนมใส่ไส้ทุกหน่วย อย่างน้อยต้องมีเลข อักษร หรือเครื่องหมายแจ้งรายละเอียดต่อไปนี้ ให้เห็นได้ง่าย ชัดเจน
– ชื่อผลิตภัณฑ์ เช่น ขนมใส่ไส้แสนอร่อย ขนมใส่ไส้หอมหวาน หรืออื่นๆ
– ส่วนประกอบที่สำคัญ
– น้ำหนักสุทธิ หรือจำนวนชิ้น
– วัน เดือน ปีที่ผลิต และวัน เดือน ปีที่หมดอายุุ หรือข้อความว่า “ควรบริโภคก่อน (วัน เดือน ปี) ”
– ข้อแนะนำในการเก็บรักษา เช่น ควรเก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
– ชื่อร้าน หรือบริษัท หรือสถานที่ทำ พร้อมสถานที่ตั้ง หรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน
– ในกรณีทีใช้ภาษาต่างประเทศ ต้องมีความหมายตรงกับภาษาไทยที่กำหนดไว้ข้างต้น
การขายขนมใส่ไส้
สำหรับการขายขนมใส่ไส้นะครับ ก็ไม่ยากเลย เนื่องจากขนมใส่ไส้ได้รับความนิยมจากอดีตสู่ปัจจุบัน มีผู้คนรู้จักขนมชนิดนี้กันมาก เริ่มเลยเลยเราอาจจะหาทำเลดีๆ สักที่ เพื่อเปิดร้านขายขนมใส่ไส้ ทำเลดีๆ มักจะอยู่ในที่ชุมชน เป็นที่ที่คนเดินไปเดินมา เพื่อให้มีคนเห็นร้านเราให้ได้มากที่สุด เช่น ไปเช่าพื้นที่ในโซนการค้าในพื้นที่ที่เราอยู่ เมื่อได้ทำเลก็เปิดขายหน้าร้าน เพื่อทดสอบตลาด ว่ามีคนมาซื้อเยอะแค่ไหน คุ้มกับค่าเช่าหรือใหม่ แต่ถ้าใครมีบ้านอยู่แถวชุมชนก็ดีเลย จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่
เมื่อลองตลาดได้สักระยะ จนอยู่ตัว อาจจะสัก 6 เดือน เริ่มรู้แล้วว่ารายได้ของเราอยู่ในระดับไหน พอค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ ในแต่ละเดือนมั้ย และที่สำคัญมีเงินเก็บมั้ย ทรัพย์สินย์จะเพิ่มมากขึ้นอก็อยู่ที่เงินเก็บนี่หล่ะครับ
เมื่อทำธุรกิจจนอยู่ตัวแล้ว ขั้นต่อมาเราก็จะพัฒนารูปแบบของขนมใส่ไส้ ให้มันไปอยู่ในกล่องพลาสติก ติดสติ้กเกอร์ชื่อร้านค้าลงไปให้เรียบร้อย (เดี๋ยวนี้มีขนมใส่ไส้ที่ไม่ได้อยู่ในใบตอง แต่อยู่ในกล่องพลาสติก ลองศึกษาเพิ่มเติมดูนะครับ) เพื่อทำการฝากวางขายที่ร้านขนมไทยดังๆ ในละแวกพื้นที่ของเรา เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น
หนทางเถ้าแก่ที่รวยด้วยการขายยขนมใส่ไส้ ก็เป็นหนทางที่มีความเป็นไปได้ บางคนทำ 5 ปี 10 ปี ทำจนรวย อย่างที่เราๆ ท่านๆ เคยเห็นในพวกนิตสารอาชีพ ว่ามีพ่อค้าแม่ค้ายืนหยัดขายขนมไทยจนรวยได้ อยู่ที่ความมุ่งมั่น ความขยัน ความอดทน ด้วยครับ ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ในที่สุดครับ