กะเพราจัดเป็นผักสวนครัวชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยกลิ่นหอมแรง และให้รสชาติที่ค่อนข้างเผ็ด เหมาะสำหรับการประกอบอาหาร โดยเฉพาะเมนูผัดกะเพรา หรือจะใส่ในอาหารจำพวกต้มยำต่างๆ
สำหรับกะเพราะถือว่าเป็นพืชล้มลุกอายุหลายปี หนึ่งต้นอายุได้ประมาณ 5 ปี หากได้รับการดูแลที่ดี มีการให้น้ำ ให้ปุ๋ยเป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอ กะเพราะลำต้นจะมีลักษณะเป็นเหลี่ยม แตกกิ่งและใบออกตามข้อเป็นคู้ด้านซ้ายขวา ขอบใบจะมีลักษณะเป็นเว้าเป็นร่องคล้ายกับฟันเลื่อย และที่สำคัญมีขนปกคลุม ขนาดใบกว้าง 3-5 ซม. ยาว 4-8 ซม. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละพันธุ์
พันธุ์ของกะเพรา
1.กะเพราใบเขียวก้านแดง จะมีลักษณะมีใบและดอกสีขาว แต่จะมีก้านใบและก้านดอกสีแดง รวมไปถึงใบที่มีสีเขียว หรือเขียวอมแดง
2.กะเพราะใบเขียว ก้านเขียว/ก้านขาว เป็นพันธุ์กะเพราที่มีก้านใบ ก้านดอก ใบสีเขียว แต่มีดอกสีขาว
3.กะเพราใบแดง และก้านสีแดง เป็นพันธุ์ที่ก้าบใบ ก้านดอก และใบ มีสีแดงอมม่วง หรือแดงอมเขียว
4.พันธุ์พื้นบ้าน หรือที่เรียกกันภาษาชาวบ้านว่า ผักกระแพรว/อีตู่ไทยเป็นพันธุ์ที่พบได้บ่อยที่สุดตามหัวไร่ปลายนา และใบเล็กและขนมากกว่า จะมีกลิ่นที่รุนแรงกว่ากะเพราทั่วๆ ไป รสชาติค่อนข้างเผ็ด เป็นพันธ์ที่กำลังได้รับความนิยม และนำมารับประทานกันมากขึ้น
การปลูกกระเพรา
ในการปลูกกะเพรามีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะปลูกเป็นผักสวนครัวเพื่อทานเอง หรือปลูกเพื่อขายในแปลงที่มีขนาดใหญ่ สำหรับการปลูกเพื่อทานเอง ส่วนใหญ่จะมีการคัดแยกต้นกล้าเพื่อปลูกในกระถางใหญ่ แต่สำหรับการปลูกเพื่อการขายจะมีวิธีการปลูกดังนี้
1.การเตรียมกล้าพันธุ์ สำหรับการเตรียมกล้าพันธ์ที่ดีจะต้องมีการหว่านเมล็ดในแปลงเพาะกล้าก่อน ตามปริมาณที่ต้องการปลูก เริ่มต้นด้วยการไถหน้าดินให้ลึก พร้อมกับการกำจัดวัชพืช จากนั้นทำการหว่านกล้าพันธุ์ลงแปลง ให้น้ำประมาณ 2-3 วันจะเห็นว่าต้นกล้าเริ่มมีการแตกใบแท้ 2-5 ใบ เกษตรกรสามารถย้ายลงปลูกในแปลงได้เลย
2.การเตรียมแปลง
-สำหรับการปลูกกะเพรานั้นมีทั้งรูปแบบแปลงยกร่อง และแปลงไม่ยกร่อง ความกว้างของแปลงอยู่ที่ 1.5-2.5 เมตร ในส่วนของความยาวสามารถปลูกได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่
-ต่อด้วยการไถกลบวัชพืช และทำการตากหน้าดินเพื่อกำจัดเชื้อโรคในดิน 5-10 วัน
-จากนั้นให้ทำการหว่านปุ๋ยหมัก มูลสัตว์ หรือปุ๋ยคอก ตามด้วยการไถหน้าดินกลบอีกรอบ เป็นการคลุกเคล้าหน้าดินกับปุ๋ยเหล่านั้น ตากดินประมาณ 1 อาทิตย์
3.วิธีการปลูกกะเพรา
-เมื่อมีการเตรียมต้นกล้า และเตรียมแปลงปลูกเรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้มีการย้ายต้นกล้าท่มีดินติดอยู่บริเวณรากมาปลูกทันที่ที่ถอน
-ระยะห่างระหว่างแถว และหลุมปลูก อยู่ที่ 20-40 เซนติเมตร กรณีที่ปลูกสำหนรับขายแนะนำให้ปลูกถี่ขึ้น อยู่ 20-30 เซนติเมตร
-เสร็จเรียบร้อยให้รดน้ำให้ชุ่ม และจะต้องดูแลการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป
4.การดูแลรักษาต้นกะเพรา
-ในการให้น้ำ เกษตรกรจะต้องมีการให้น้ำหลังจากปลูก วันละ 1-2 ครั้ง เมื่อมีการแตกเป็นพุ่มอาจลดปริมาณ เป็นการให้น้ำวันเว้นวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย หากแล้งจัดให้ทุกวัน
-ในส่วนของปุ๋ยคอก ให้ในอัตราส่วน 200 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ สารถให้ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ในปริมาณ 30 กิโลกรัมต่อไร่ จะต้องให้หลังจากมีการปลูกต้นกล้าไปแล้ว 2-4 อาทิตย์ วิธีการสังเกตต้นกล้าจะมีการตั้งต้นได้แล้ว
5.การเก็บเกี่ยว
กะเพราสามารถเริ่มเก็บเกี่ยวหลังจากปลูกได้ 40-50 วัน และสามารถเก็บเกี่ยวอย่างต่อเนื่องได้อีกหลายเดือน
ข้อควรระวังในการปลูกกะเพรา
แม้ว่ากะเพราเป็นพืชที่ต้องการน้ำ อย่างไรก็เกษตรกรต้องดูแลและระมัดระวังอย่าให้มีน้ำขัง เพราะอาจทำให้รากเน่าและต้นกะเพราตายได้ ที่สำคัญในช่วงแรกควรมีการพรวนดินและกำจัดวัชพืชทุก 1-2 สัปดาห์ โดยการใช้มือถอน ใช้จอบ หรือเสียมดายหญ้าออก แต่จะต้องระมัดระวังอย่าให้ส่วนมีคมของจอบ เสียมเหล่านั้นไปโดนรากของต้นกะเพรา
สำหรับกะเพราจัดเป็นพืชที่นิยมนำไปปรุงอาหารกันมากขึ้น ความต้องการในตลาดเพิ่มมากขึ้นตามมาด้วย ดังนั้นเกษตรกรที่ต้องการปลูกกะเพราเพื่อการค้า จะต้องมีการเตรียมการ และการวางแผนเรื่องการตลาดเป็นอย่างดี จะต้องศึกษาในส่วนของการตลาดด้วยนะครับ เนื่องจากเมื่อถึงฤดูการเก็บเกี่ยวเป็นพืชที่เหี่ยว และเน่าเสียได้อย่างรวดเร็ว