วิธีปลูกมะขามเปรี้ยว พร้อมคำแนะนำในการขายมะขามเปรี้ยว

วันนี้เราลองมาทำความรู้จักเกี่ยวกับมะขามเปรี้ยวกันดีกว่านะคะ มะขามเปรี้ยวจัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้จำนวนไม่น้อยจากการนำมะขามมาแปรรูป เช่นมะขามแช่อิ่ม ได้มากถึงกิโลละ 120-140 บาทเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังนำมาทำเป็นมะขามเปียก หรือมะขามฝักขายราคาถือว่าดีไม่น้อย

ลักษณะโดยทั่วไป

เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขาเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีหนาม เปลือกต้นขรุขระ มีสีน้ำตาลอ่อนๆ ทนทานและมีความเหนียว ยากต่อการหักและโค่นล้ม สำหรับการขยายพันธุ์เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมติดตา ต่อกิ่ง และทาบกิ่ง เนื่องจากติดผลเร็ว และลดการกลายพันธุ์ โดยคนไทยให้ความเชื่อว่าเป็นผลไม้มงคล นิยมปลูกไว้ทางทิศตะวันตกของบ้านเพื่อป้องกันสิ่งไม่ดี ผีร้ายไม่ให้เข้ามาในบ้าน อีกทั้งชื่อมะขามยังให้ความเชื่อต่ออีกว่าเป็นที่เกรงขามจากผู้อื่น ผู้ใต้บังคับบัญชา

ผล หรือที่เรียกว่าฝัก มีได้นั้นมีรูปร่างทั้งกลม และแบนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของมันเอง เมล็ดจะอยู่ด้านในฝัก มีร่องกลางสามารถผ่าออกได้ 2 ซีก โดยเปลือกของเมล็ดจะมีสีน้ำตาลเข้ม หรือน้ำตาลอมดำ ถัดจากเปลือกด้านในจะเห็นเนื้อเมล็ดที่เป็นสีขาว ตรงกลางเป็นขั้วเมล็ดมียอดอ่อน และส่วนนี้นี่ล่ะค่ะจะใช้เพาะปลูกเพื่อการขยายพันธุ์ แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่นิยม เนื่องจากช้า และสามารถกลายพันธุ์ได้

พื้นที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก

มะขามเปรี้ยวเป็นผลไม้ที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในทุกพื้นที่โดยเฉพาะพื้นดินลูกรัง ดินเหนียว ดินร่วน หรือดินทราย แต่สามารถเจริญเติบโตได้ดีจะเป็นดินร่วนปนทราย เนื่องจากสามารถระบายน้ำได้ดี มะขามเปรี้ยวเป็นพืชทนน้ำ ที่เติบโตง่าย ต้นไม่สูงมาก พุ่มและกิ่งจะขยายออกทางด้านข้าง สามารถทนความแห้งแล้งได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญเลยคือสามารถออกดอกและติดได้เป็นจำนวนมาก

วิธีการปลูกมะขามเปรี้ยว

1.การปลูกมะขามเปรี้ยวที่ไร่แนะนำให้ปลูกแบบมีระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 10×10 เมตร หรือ 5×5 วา เนื่องจากมะขามมีพุ่มขนาดใหญ่ จำเป็นที่จะต้องเว้นระยะห่างไว้เยอะกว่าการปลูกผลไม้ชนิดอื่น 1ไร่จะปลูกได้ประมาณ 16 ต้น โดยอายุของต้นมะขามสามารถอยู่ได้ในระยะยาวเป็น100 ปี ถ้าปลูกในระยะที่ชิดกันมากเกินไปทำให้แดดส่องมายังต้นมะขามน้อย มะขามก็จะไม่โตและไม่ติดฝัก เนื่องจากมะขามเป็นพืชที่ชอบแดดและต้องการน้ำน้อยนั่นเอง
2.การเตรียมหลุมปลูก หากเป็นดินแข็งและแน่นทำขุด 50x50x50 เซนติเมตร หากเป็นพื้นที่แห้งแล้ง หรือน้ำน้อย ให้นำเศษฟาง เศษหญ้า ขี้วัว หรือกาบมะพร้าว มารองก้นหลุมแล้วนำดินที่ขุดมากลบลงไปเช่นเดิม จะนั้นขุดให้มีขนาดหลุมเท่ากับกระถาม หรือถุงเพาะชำ นำต้นมะขาม ใส่ลงปลูกให้ระดับดินอยู่ใต้ผ้าทาบ 1 อาทิตย์ หลังจากปลูกให้กรีดผ้าทาบออก นำดินมากลบโนต้นให้พูน ในช่วงนี้จะต้องหาไม้ค้ำด้วย เพราะต้นยังไม่ฝังราก อาจมีการล้ม หรือลมพัดกิ่งหักได้

การดูแลรักษา

ในช่วง 2-3 ปีแรกให้ดูแลเหมือนผลไม้ทั่วๆ ไป คือรดน้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง หรือไม่ก็รดเฉพาะช่วงที่แล้งจัด หรือฝนไม่ตก เมื่อเข้าสู่ปลายปีที่ 2 ย่างปีที่ 3 หากเกษตรกรเห็นว่าต้นมะขามเปรี้ยวมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ มีความอุดมสมบูรณ์ และต้องการให้ติดผล ให้หยุดรดน้ำ และหยุดให้ปุ๋ยในช่วงหน้าร้อนไปก่อน ให้ใบร่วงหล่นให้หมด หากยิ่งร้อนมากเท่าไหร่ใบยิ่งร่วมลงมากเท่านั้น เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน เมื่อฝนตกลงมา ต้นมะข้ามก็จะผลิใบและออกดอกออกมา ช่วงนี้นี่ล่ะค่ะที่ทำให้ดอกติดผล

ภายหลังจากที่ดอกติดผลแล้ว จะต้องทำการบำรุงอย่างเต็มที่ ด้วยการรดน้ำใส่ปุ๋ย เด็ดฝักอ่อนทิ้งบ้างหากมีจำนวนที่เยอะเกินไป เพราะมันจะคอยไปแย่งสารอาหารจากลำต้น ทำให้ต้นมะขามโทรม และเจริญเติบโตช้าเข้าไปอีก งวดแรกของการติดฝัก ต้นอาจให้ผลผลิตได้น้อยและไม่เต็มที่ แต่พอเข้าสู่ปีที่สอง หรือสาม จะให้ผลผลิตได้เต็มร้อยเนื่องจากต้นมีการปรับสภาพได้แล้วค่ะ ต้นมะขามเปรี้ยวสามารถให้ผลิตแก่เกษตรกรไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดหากมีการบำรุงและดูแลที่ดี

การใส่ปุ๋ยมะขามเปรี้ยว

ปุ๋ยจัดว่าสำคัญมากๆ ต่อการเจริญเติบโตของต้นมะขามเปรี้ยว ก่อนที่มะขามจะติดฝักจะต้องมีการให้ปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ ที่บำรุงลำต้น ให้มีความเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ ช่วงระยะเวลาที่ต้นมะขามติดฝักให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ประมาณ 2-3 ครั้งบวกกับการรดน้ำอย่างทั่วถึง จะช่วยให้ฝักใหญ่ และมีน้ำหนักมาก เมื่อพ้นช่วงเก็บเกี่ยวไป ให้ทำการตกแต่งกิ่งและพุ่ม เอากิ่งที่แห้งเสีย หรือไม่สมบูรณ์ออกไป เพื่อที่จะได้บำรุงลำต้นให้กลับมามีสภาพที่สมบูรณ์และพร้อมต่อการติดฝักในปีถัดไป

การปลูกมะขามเปรี้ยว แม้ว่าจะเป็นพืชที่ปลูกง่าย และสามารถเติบโตเองได้ตามธรรมชาติ แต่หากเราต้องการให้ออกดอกติดผลมากๆ และสามารถให้ผลผลิตแก่เราได้ในระยะเวลาที่ยาวนาน แนะนำให้ใส่ใจและดูรักษาสักเล็กน้อย อาจมีการใส่ปุ๋ยปีละ 2-3ครั้ง หากเห็นน้ำน้อย หรือแห้งแล้งมากๆ ควรที่จะให้น้ำบ้างเล็กน้อย อย่าให้มากจนเกินไปนะคะ เพราะมะขามเป็นพืชที่ชอบแสงแดดจัดๆ แต่ชอบน้ำปริมาณน้อยๆ

error: Content is protected !!