“Content Marketing” คืออะไร? คำถามนี้เป็นคำถามที่ค่อนข้างจะคุ้นหูกับมากสำหรับผู้ที่เริ่มต้นที่จะเรียนรู้ และจัดการกับการตลาดออนไลน์ หากหยิบยกนำแก่นของคำคำนี้นั้นคือ “ข้อมูล” การนำเสนอข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆที่สามารถเชื่อมโยงกับสินค้าหรือบริการของเราได้นั้นเอง และอะไรคือความหมายของคำว่า “ข้อมูล” สำหรับการตลาดในรูปแบบเช่นนี้ ?
ในกระแสโลกปัจจุบันนั้นการทำการตลาดออนไลน์ถือเป็นสิ่งที่มีผลและประสบความสำเร็จมากวิธีที่หนึ่ง การที่เลือกจัดข้อมูลหรือ Content นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ข้อมูลหรือสิ่งที่สามารถนำเสนอเพื่อประโยชน์แก่ผู้รับสื่อและกลุ่มลูกค้าของเรานั้น โดยที่สำคัญคือจะต้องชูภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้า บริการ หรือแม้กระทั่งองค์กรได้ชัดเจน
3 ปัจจัยหลักที่จะเปลี่ยนจากผู้อ่านเป็นลูกค้าผ่าน “Content Marketing”
1. ต้องอย่าลืมว่าการอัพข้อมูลนั้นจะต้องเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านและเป็นประโยชน์ต่อผู้ส่งข้อมูลหรือ ข้อมูลที่ส่งไปนั้นจะต้องมีการเชื่อมโยงกับการสร้าง“Brand” เพื่อให้ผู้อ่านนั้นเข้าถึงสินค้าและบริการให้ได้ ดังเช่นวิธีการเสนอข้อมูลโดยการกล่าวนำด้วยข้อมูลการประโยชน์ใช้สอยและยกตัวอย่างด้วยภายใต้สินค้าของ Brand ของเราเอง เนื้อที่นำเสนอจะต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาเป็นฐานลูกค้า หากว่า Blog หรือ Website ของสินค้าที่ต้องการนำเสนอเป็นเสื้อผ้าผู้ชาย แต่เนื้อหา ข้อมูลที่นำเสนอส่วนมากเป็นการแต่งตัวของผู้หญิงนั่นก็นับว่าไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้แน่นอน และจะเป็นผลเสียอย่างยิ่งต่อการทำ SEO
2. ให้ความสำคัญกับการส่งต่อหรือ แชร์ผ่าน Social Media ให้มากกว่าการทำ SEO ผ่าน google โดยเนื้อที่เข้าถึงและการตั้งชื่อหัวเรื่องที่ดึงดูด
3. สำหรับความยาวของเนื้อหานั้น หากว่ากันตามหลักแล้วเนื้อหาเยอะย่อมมีประโยชน์ข้อมูลเยอะกว่าเนื้อหาที่น้อยกว่าแน่นอน แต่สำหรับการทำการตลาดนั้นต้องยกความง่ายต่อการอ่านเข้ามาเป็นอันดับแรก ฉะนั้นข้อมูลที่ดีต่อการนำเสนอต่อครั้งควรจะอยู่ระหว่าง 200-500 คำเท่านั้น ที่สำคัญควรเน้นไปทางการจัดวางและการนำเสนอพร้อมภาพเพื่อดึงดูดความสนใจ
กระแสของลูกค้าหรือกลุ่มผู้บริโภคในยุคปัจจุบันนั้นสิ่งแรกก่อนที่จะเลือกซื้อสินค้านั้นก็คือการหาข้อมูลและวิธีที่เจอข้อมูลได้ง่ายที่สุดนั้นก็คือ “Internet”และได้มีการสำรวจช่องทางการค้นข้อมูลก่อนที่คนหนึ่งคนได้เลือกซื้อสินค้าหนึ่งชิ้นจะผ่านขั้นตอนใดบ้างและขั้นตอนแรกนั่นคือการหาข้อมูลโดยกว่า 92 เปอร์เซ็นนั้นจะเลือกใช้อินเตอร์เน็ตในการค้นหาและกว่า 33 เปอร์เซ็นจะเปิด Google เพื่อนำพาไปยังแหล่งข้อมูลที่ต้องการและด้วยการเข้าถึงง่ายง่ายเพียงเท่านี้เหล่ากลุ่มผู้บริโภคของเรานั้นก็จะสามารถพบเจอข้อมูลและสิ่งที่เรานำเสนอผ่านรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็น ข้อความ วิดีโอหรือแม้กระทั่งภาพ Infographic ผ่าน Website หรือ Blog เพื่อแสดงรายละเอียดของสินค้าหรือบริการนั้นโดยไม่ทำการ “Hard Sale” จนเกินไปนัก