กระแสเทคโนโลยีที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตของคนเราในปัจจุบันแทบจะทุกเวลาตั้งแต่ตื่นตอนเช้าจนถึงก่อนการนอนหลับพักผ่อนในเวลากลางคืน แทบตลอดเวลา คำว่า Digital Marketing ในความแบบเดิมเดิมที่เข้าใจกันหรือไม่ว่าจะเป็นนักการตลาดหลากหลายท่านก็ยังยึดแนวทางแบบเก่าที่ว่า Digital Marketing คือการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Website ผ่าน Facebook หรือสื่อ Social Media อื่นอื่นเพียงเท่านั้น
ความหมายที่แท้จริงแล้วของคำคำนี้ก็คือ “การวางแผนและลงมือลุยสนามการตลาดแบบวงกว้างรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีแบบใดก็ต้องเข้าถึง” มีบทความบทหนึ่งว่าไว้ว่าการทำการตลาดที่ดีในยุคนี้ควรจะให้ความสำคัญทั้ง 3 จอรอบตัวมนุษย์นั่นก็คือ จอโทรศัพท์มือถือ จอคอมพิวเตอร์ จอโทรทัศน์ โดยควรไล่ระดับความสำคัญจากมากไปหาน้อยตามลำดับ และสิ่งที่ “Digital Marketing” มุ่งเน้นเลยนั้นก็คือการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า กลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย และรวดเร็วที่สุดและในทิศทางเดียวกันกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มลูกค้าในยุคที่ไม่มีอะไรสามารถรอคอยได้ก็ต้องเข้าถึงข้อมูลและสินค้าเร็วที่สุดทันที่ต้องการใช้สอยและใช้บริการมัน หากไม่ทันใจ หรือมีการรับช้า โอกาสที่จะเสียโอกาสทางธุรกิจในจุดนั้นไปนับว่ามีสูงมากเลยที่เดียว
ไม่เพียงแต่เน้นการให้ความสำคัญกับโลก Social Network เพื่ออย่างเดียวแต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนิยมโอนเงิน รับเงินกันทางโทรศัพท์ผ่านแอพพิเคชั่น หรือล่าสุดตอนนี้มีแม้กระทั่งการเข้าคิวใช้บริการร้านอาหารบุฟเฟ่อย่าง “ชาบุชิ” ที่ใช้แอพพิเคชั่นในการแก้ปัญหาการรอคิวของลูกค้า และตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการให้ความสำคัญในรายละเอียดปลีกย่อยแต่ก็เพื่อลดเวลาและสร้างการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงมากขึ้นหลายเท่าตัว
กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับการตลาดแนวนี้ มี 2 ปัจจัยที่ควรจะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
– Pull Strategy หรือการดึงลูกค้าให้เลือกและเข้ามาหาสินค้าหรือบริการเองผ่านการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์การใช้สอย หรือแสดงให้เห็นถึงการเข้าถึงที่แสนง่ายดายไม่ว่าจะเป็นแอพพิเคชั่น เว็บไซด์ หรืออาจะเป็นวิธีการกด SMS ก็สามารถปิดการซื้อของได้ทันทีและการนำเสนอสิ่งเหล่านี้ผ่านช่องทางต่างๆผ่านช่องทางที่กลุ่มลูกค้ายืนอยู่ สุดท้ายกลุ่มผู้บริโภคก็จะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าควรจะเดินเข้าไปตามแรงดึงของสินค้าหรือไม่
– Push Strategy หรือการผลักสินค้าให้หากลุ่มผู้บริโภค ผ่านช่องทางต่างๆไม่ว่าจะเป็นวิธีการที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้นั้นก็คือ Email Marketing หรือการสร้างสรรค์ Line Stickers เพื่อผลักสินค้าให้ตราตรึงผ่านตัวการ์ตูนน่ารักๆ
ด้วยวิธีการมากมายที่จะเข้าถึงเทคโนโลยีในปัจจุบัน สิ่งที่นักการตลาดหรือผู้ประกอบการควรเน้นย้ำมากที่สุดก็คือ “การนำเสนอที่อ้างอิงถึงสินค้าและแบรนด์และลดเวลา ระยะทางระหว่างสินค้ากับกลุ่มลูกค้า” หากทำได้เท่านี้ความสำเร็จก็คงอยู่ไม่ไกลแน่นอน