สูตรวิธีทำฟักทองเชื่อม พร้อมคำแนะนำในการขายฟักทองเชื่อม

ฟักทองเชื่อม
 

สูตรวิธีทำฟักทองเชื่อม สูตรที่ 1

ส่วนผสมฟักทองเชื่อม

– ฟักทอง 1/2 ลูก (เลือกที่เนื้อแน่นจะทำให้ฟักทองเชื่อมมีเนื้อเหนียว)
– น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
– น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
– ใบเตย 5 ใบ

วิธีการทำฟักทองเชื่อม

– เตรียมฟังทองแล้วนำหั่นฟักทองให้ออกเป็นชิ้นที่มีลักษณะหนา ๆ โดยใช้มีดนั้นคว้านไส้ออกมาตัดแต่งให้สวยงาม กรณีถ้ามีน้ำปูนใสให้นำฟักทองไปแช่น้ำปูนใส แล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นให้นำมาล้างด้วยน้ำให้สะอาดแล้วเด็ดน้ำทิ้งเตรียมเอาไว้
– ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายป่นลงในหม้อเชื่อม ตามด้วยน้ำเปล่าที่สะอาด และนำใบเตยใส่ลงไปในหม้อเช่นกันเพื่อเพิ่มความหอม เพราะใบเตยนั้นจะให้ความหอมที่น่ารับประทานยิ่งขึ้น นำหม้อตั้งขึ้น แล้วตั้งไฟพออ่อนคนเรื่อยๆจนน้ำตาลทรายป่นนั้นละลายหมดเป็นเนื้อเดียว
– จากนั้นใส่ฟักทองที่หั้นเป็นชิ้นใส่ลงไปในหม้อ แล้วเร่งไฟให้แรงสุด รอจนน้ำนั้นเดือดแล้วค่อยๆลดเป็นไฟอ่อน ใช้ความร้อนแค่พอเดือด อย่าเดือดมากจนนานเกินไป เชื่อมฟักทองต่อไปเรื่อย ๆ ข้อควรระวังไม่ต้องคนเพราะจะทำให้น้ำตาลเกาะกันเป็นก้อน เชื่อมทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง และหมั่นตักน้ำเชื่อมในหม้อราดลงบนชิ้นฟักทองที่ไม่โดนน้ำเชื่อมด้วยเพื่อให้ฟักทองนั้นไม่แห้งกร้าน เชื่อมจนฟักทองสุกและมีลักษณะใสๆ ให้ปิดไฟทันที แล้วนำฟังทองออกมาพักไว้จนเย็น ตักใส่จาน พร้อมรับประทาน

สูตรวิธีทำฟักทองเชื่อม สูตรที่ 2

ส่วนผสมฟักทองเชื่อม

– ฟักทองแก่ๆ (เพราะเนื้อจะเหนียวและมัน)
– น้ำตาลปี๊บ หรือ น้ำตาลทรายป่น
– น้ำมะนาว
– เกลือป่น
– น้ำปูนใส
– ใบเตย

วิธีการทำฟักทองเชื่อม

– เตรียมหั่นฟักทองให้เป็นชิ้นพอประมาณให้มีลักษณะหนาพอสมควร แล้วนำไปแช่น้ำปูนใสทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือจะแช่ทิ้งไว้ทั้งคืนก็ได้ พอแช่เสร็จแล้วให้ล้างน้ำให้สะอาด แล้วพักสะเด็ดน้ำทิ้งไว้
– ตั้งหม้อใส่น้ำสะอาดลงไป ตั้งไฟปานกลาง จากนั้นให้ใส่ใบเตยลงไปแล้วเร่งไฟต้มให้เดือด พอเดือดได้ที่แล้วปิดไฟทันที แล้วตักใบเตยที่ต้มนั้นออก
– ใส่น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลทรายป่นลงไปในหม้อ ตามด้วยเกลือป่น และใส่น้ำมะนาวลงไปเพื่อเพิ่มความใสของน้ำเชื่อมข้อควรระวังอย่าใส่มากเกินไปเดี๋ยวจะมีรสชาติเปรี้ยวเกินไป
– ยกเตาไฟต้ม ตั้งไฟให้เดือดอีกครั้งแล้วจึงใส่ฟักทองเติมลงไปต้มให้พอเริ่มเดือด จากนั้นให้หรี่ไฟน้อยลงแล้วเคี่ยวเรื่อยๆจนกว่าเนื้อฟักทองนั้นจะเริ่มมีลักษณะนุ่มนิ่มและชุ่มฉ่ำด้วยน้ำเชื่อม พอเนื้อฟักทองได้ที่แล้ว ให้ปิดเตาไฟทันที แล้วเตรียมตักใส่จานภาชนะที่เตรียมไว้ได้เลย ตามด้วยการราดด้วยน้ำกะทิก็จะอร่อยไปอีกแบบตามความต้องการ

สูตรวิธีทำฟักทองเชื่อม สูตรที่ 3

ส่วนผสมฟักทองเชื่อม

– ฟักทอง 500 กรัม
– น้ำตาลทราย 250 กรัม
– น้ำเปล่า 450 กรัม
– น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำกะทิ 100 กรัม
– เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
– แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปูนใส

วิธีการทำฟักทองเชื่อม

– นำฟักทองไปทำความสะอาดล้างด้วยน้ำเปล่า และหั่นให้เป็นชิ้นๆมีลักษณะหนา จะปอกเปลือกฟักทองหรือไม่ปอกเปลือกฟักทองก็ได้ แล้วแต่ความชอบ เสร็จแล้วให้นำไปแช่กับน้ำปูนใส โดยใช้เวลาในการแช่ประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงนำฟักทองที่แช่นั้นขึ้นมาล้างน้ำสะอาดและสะเด็ดน้ำ ผึ่งตากให้แห้งสนิท
– ขั้นตอนการทำน้ำราดกะทิ โดยใส่น้ำกะทิลงไปผสมกับแป้งข้าวเจ้าและเกลือป่นเล็กน้อยใส่ในหม้อเล็กที่เตรียมไว้ ยกเตา
ตั้งบนไฟอ่อนๆ เคี่ยวเรื่อยๆจนเข้ากันดีแล้ว ให้ปิดไฟและพักทิ้งไว้
– ใส่น้ำเปล่าผสมด้วยน้ำตาลทรายป่นและตามด้วยน้ำมะนาวลงในกระทะทองเหลือง หรือจะใช้กระทะเชฟลอนแทนก็ได้ ข้อควรระวังอย่าใส่น้ำมะนาวเยอะเกินไปเพราะจะทำให้มีรสชาติเปรี้ยวเกินไป นำไปตั้งไฟร้อนปานกลางให้รอจนกว่าน้ำตาลจะละลายหมด จึงค่อยใส่ฟักทองที่หั้นเตรียมไว้ใส่ลงไปเชื่อมจนสุก เนื้อฟักทองนั้นจะมีลักษณะเงา และฉ่ำใส จึงค่อยปิดไฟทันที
– ใช้ช้อนตักฟักทองใส่ถ้วยหรือภาชนะที่เตรียมไว้แล้วราดหน้าด้วยน้ำกะทิ เสิร์ฟพร้อมรับประทานได้ทันที

สูตรวิธีทำฟักทองเชื่อม สูตรที่ 4

ส่วนผสมฟักทองเชื่อม

– ฟักทอง ½ กิโลกรัม
– น้ำตาลทรายป่น 3 ขีด
– น้ำดอกไม้สด 3 ถ้วย
– น้ำปูนใส
– ผ้าขาวบาง

วิธีการทำฟักทองเชื่อม

– เฉือนเปลือกฟักทองออกให้เกลี้ยงเกลาแล้วนำฟักทองนั้นไปล้างน้ำเปล่าให้สะอาด แล้วนำมาหั้นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ จากนั้นนำฟักทองที่หั้นเสร็จแล้วไปแช่กับน้ำปูนใส ใช้เวลานานประมาณครึ่งชั่วโมง
– ตั้งกระทะทองเหลืองใช้ไฟปานกลาง เติมน้ำดอกไม้สดลงไปตามด้วยน้ำตาลทรายป่น ใส่ไปทีละน้อยค่อยๆเติมจนกว่าจะหมด พอน้ำตาลเริ่มเดือดและละลายเข้ากันแล้วจึงเทใส่หม้อโดยกรองด้วยผ้าขาวบางและนำน้ำเชื่อมที่กรองแล้วนั้นเทกลับคืนกระทะ แล้วนำมาตั้งไฟต่ออีกครั้ง
– เมื่อเคี่ยวน้ำเชื่อมไปเรื่อยๆ สักครู่จึงใส่ชิ้นฟักทองที่หั้นเตรียมไว้ทั้งหมดลงไปในหม้อ คนให้ทั่วให้เข้ากัน พอน้ำเชื่อมเริ่มเหนี่ยวเป็นยางแล้ว น้ำเชื่อมจับตัวฟักทองทุกชิ้นดีแล้ว จึงค่อยยกลงกระทะ ตักใส่ถ้วยหรือจานพร้อมเสิร์ฟรับประทาน

error: Content is protected !!