เป็นที่เข้าใจตรงกันว่า “สีเขียว” เป็นสีที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติ แทนใบไม้ใบหญ้าต้นไม้ที่ให้ร่มเงาหรือแม้กระทั่งทรัพยากรทางธรรมชาติรูปแบบอื่นอื่น ในทางหลักการตลาดก็เช่นกัน “Green Marketing” หรือการตลาดสีเขียวก็เป็นดั่งการยกเอาความเขียว ความเป็นธรรมชาติมาผนวกเข้ากับหลักการวางแผนการทำการตลาด หรือการเดินสายบนเส้นทางธุรกิจนั้น ถึงแม้อาจจะดูแทบไม่เข้ากัน แต่ในปัจจุบันนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นกระแสนิยมกันเลยทีเดียว
หากลองมองหันไปรอบตัว “กระแสสีเขียว” ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นกระแสหลักของสังคมยุคใหม่ ยิ่งมีการอนุรักษ์มากขึ้นเพียงใด นั้นก็นับว่าเป็นการโชว์ภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรให้ดูเด่นขึ้นมากเท่านั้น และนี่ก็เรียกได้ว่าเป็นสาเหตุหลักของแต่ธุรกิจ ของแต่ละองค์กรที่ต่างนำประเด็นมาบด มาแข่งกันในรูปแบบของกิจกรรม CSR หรือแม้กระทั่งการออกแบบสินค้าและบริการของตนให้สอดคล้องกับแนวทางนี้
การสำนึก รัก และอนุรักษ์ในธรรมชาติกำลังหมดไปนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างยิ่งและกระแสนิยมเช่นนี้ไม่เพียงแต่เหล่ากลุ่มผู้บริโภคที่เปลี่ยนพฤติกรรมไปเพียงเท่านั้น แต่เหล่าผู้ประกอบและองค์กรจะต้องวิ่งตามกระแสและปรับเปลี่ยนตนเองให้ทันกับยุคแห่งสีเขียวเช่นนี้ และปัจจัยใดบ้างที่จะนำกระแสแห่งความเขียวเช่นนี้มาเป็นตัวขับเคลื่อนได้บ้าง
ภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรเป็นอีกหนึ่งปัจจัยขององค์กรที่จำนำ Green Marketing มาประยุคให้กับกิจกรรมพัฒนาธรรมชาติรวมตัว รอบองค์กรแต่ส่วนมากแล้วที่เกิดขึ้นนั้นย่อมเชื่อมโยงกับองค์กรเป็นสำคัญดั่งตัวอย่างเช่นการสร้างโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งเรียกได้ว่าทำลายทรัพยากรและสร้างมลพิษทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก แต่การที่โรงไฟฟ้าแห่งนั้นได้กลับมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมรอบองค์กรของตนนั้น นับว่าถือเป็นการยิงนกนัดเดียวได้นกสองเดียว ที่ถือเป็นการชูโรงเป้าหมายในการสร้างและรักษาทรัพยากรรวมตัว และการปรับทัศนะที่มีต่อโรงไฟฟ้าเสียใหม่ด้วย
และการเลือกนำกระแสนี้เข้ามาเป็นแบบหลักในการออกแบบสินค้าและบริการไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุที่จะไม่สร้างปัญหาให้กับโลกในระยะยาว หรือการเลือกใช้กระดาษแทนการใช้โฟม รวมไปถึงการคุมโทนสีของตัว Packaging ที่โดยมากหากต้องการให้กระแสนี้เป็นตัวชูโรง รูปแบบของสินค้ามักจะถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบสีน้ำตาล ที่มาพร้อมกับสีเขียว
นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่คนทั่วโลกพร้อมใจกันชูกระแสรักษ์โลกเช่นนี้เป็นกระแสหลักของสังคม และนั่นเป็นการทำการตลาดแนวนี้ จึงถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อเป็นการเดินตามกระแสที่มีประโยชน์เช่นนี้ให้ทัน และนั่นรวมไปถึงการเปลี่ยนไปของเหล่าผู้บริโภคที่อาจเรียกได้ว่า ของสองชิ้นหากทุกอย่างเหมือนกันแทบทั้งหมด ในราคาที่เท่ากันแต่อีก Brand ภาพลักษณ์ด้านการรักโลกดีกว่า สินค้าชิ้นนั้นก็จะเป็นผู้ชนะและได้รับส่วนแบ่งของตลาดนั้นไป