สูตรวิธีทำข้าวเหนียวมะม่วง พร้อมคำแนะนำในการขายข้าวเหนียวมะม่วง

ข้าวเหนียวมะม่วง
 

สำหรับบทความนี้ ก็จะเป็นสูตรวิธีการทำข้าวเหนียวมะม่วงที่สุดแสนอร่อยนะครับ ว่ามีวิธีการทำอย่างไรบ้าง ซึ่งข้าวเหนียวมะม่วงก็เป็นขนมไทยที่มีความหอมหวานอร่อย ในหน้าข้าวเหนียวมะม่วง ก็จะมีการขายข้าวเหนียวมะม่วงอยู่เกือบทุกตลาด ฉะนั้นถ้าเพื่อนๆ ที่ชอบทานข้าวเหนียวมะม่วง เกิดอยากลงสนามขายข้าวเหนียวมะม่วงบ้างแล้วหล่ะก็ ถ้าทำออกมาอร่อยบวกกับทำเลดีๆ น่าจะขายดิบขายดีน่าดูครับ

ก่อนอื่นก็ขอวกมาประวัติข้าวเหนียวมะม่วงกันสักเล็กน้อยนะครับ สำหรับข้าวเหนียวมะม่วงนะครับ มีมานานหลายร้อยปีแล้ว ดังที่ได้มีการกล่าวไว้ในกาพย์แห่ชมเครื่องคาวหวาน แสดงให้เห็นว่าข้าวเหนียวมะม่วงเป็นขนมที่อยู่คู่กับชาวไทยมาอย่างช้านานแล้ว โดยในสมัยก่อน จะทานข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงอกร่อง ซึ่งจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว มาจนในยุคปัจจุบัน ที่เรามักนิยมทานข้าวเหนียวมะม่วงกันในฤดูร้อน เพราะเป็นช่วงที่มีมะม่วงหลากหลายสายพันธุ์ออกผลสุกให้รสหวานฉ่ำ แต่เนื่องจากในปัจจุบัน เราจะหาซื้อมะม่วงอกร่องได้ยากขึ้น ซึ่งลูกก็เล็ก และราคาแพงอีกต่างหาก จึงได้มีมะม่วงน้ำดอกไม้มาแทนเป็นตัวเลือกความอร่อย ซึ่งลูกจะใหญ่ และราคาก็ไม่ถูกไม่แพงเกินไป

ซึ่งข้าวเหนียวมะม่วงเนี่ยจะมีสองส่วนนะครับ คือตัวผลมะม่วง กับข้าวเหนียวสีขาวๆ ที่เรียกว่า ข้าวเหนียวมูน ครับ สำหรับการปอกมะม่วงก็ไม่ยากนะครับ จะมีรายละเอียดปลีกย่อยอยู่ที่การทำข้าวเหนียวมูนเสียส่วนใหญ่ครับ

เอาหล่ะครับ เรามาเริ่มเรียนรู้วิธีการทำข้าวเหนียวมะม่วงกันเลยครับ

สูตรวิธีการทำข้าวเหนียวมะม่วงสูตรที่ 1

ส่วนผสมการทำข้าวเหนียวมูน

– ข้าวเหนียวขาว 500 กรัม
– กะทิ 3 ถ้วย (หัวกะทิ 2 ถ้วย และหางกะทิ 1 ถ้วย)
– น้ำตาลทรายขาว 1 3/4 ถ้วย
– สารส้มป่น 1 ช้อนชา
– เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำข้าวเหนียวมูน

– เริ่มแรกเลยนะครับ ให้เรานำข้าวเหนียวขาวที่ซื้อมา ใช้น้ำล้างให้สะอาด โดยนำสารส้มมาใช้ในการล้างด้วย
– วิธีก็คือใส่สารส้มลงไปในภาชนะพร้อมกับข้าวเหนียวขาว ล้างเสร็จแล้วให้เทน้ำทิ้ง ทำอย่างนี้สัก 2 – 3 รอบ
– อันดับถัดมาให้เปิดน้ำจากก๊อกลงในภาชนะ ปล่อยให้น้ำล้นออกมาจนกระทั่งน้ำใส ตอนเปิดก๊อกน้ำ ให้ระวังอย่าเปิดแรงมากนะครับ เดี๋ยวตัวข้าวเหนียวขาวจะล้นออกไปด้วย
– เมื่อน้ำในภาชนะใสแล้ว ให้นำสารส้มออกมาจากภาชนะ และแช่ข้าวเหนียวขาวทิ้งเอาไว้สักประมาณ 4 ชั่วโมงนะครับ
– ระหว่างที่แช่ข้าวเหนียวขาวทิ้งไว้ ก็จะมีเวลาว่าง ก็จะได้เวลามาเตรียมกะทิไว้พลางๆ
– ซึ่งกะทิก็หาได้ตามตลาดทั่วไป เวลาซื้อก็คำนวณเลยนะครับ เช่น ถ้าจะทำข้าวเหนียวมูน 500 กรัม ก็ต้องซื้อกะทิมา 500 กรัม เช่นกัน หรือถ้าจะทำข้าวเหนียวมูน 1 กิโลกรัม ก็ต้องซื้อกะทิมา 1 กิโลกรัม อย่างนี้เป็นต้น
– เมื่อได้กะทิมาแล้ว และแช่ข้าวเหนียวขาวได้ครบ 4 ชั่วโมงแล้ว ให้เอาซึ้งส่วนล่างใส่น้ำ แล้วนำมาตั้งไว้บนเตา และต้มน้ำให้เดือด
– ส่วนซึ้งส่วนบน ก็เอาไว้ใส่ข้าวเหนียวขาวที่เราแช่เอาไว้แล้ว แล้วนำมาวางซ้อนบนซึ้งส่วนล่าง ใช้เวลานึ่งประมาณ 20 นาที
– ในระหว่างที่รอข้าวเหนียวขาวที่อยู่ในซึ้งสุก ก็ให้เราเตรียมกะทิสำหรับการมูนข้าวเหนียว คนกะทิให้เกลือ และน้ำตาลละลาย

ส่วนผสมการทำกะทิราดบนข้าวเหนียวมูน

– แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
– เกลือ 1/2 ช้อนชา
– น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
– กะทิ 1 1/2 ถ้วย

วิธีการทำกะทิราดบนข้าวเหนียวมูน

– สำหรับขั้นตอนแรกของการทำน้ำกะทิ ก็ต้องนำส่วนผสมทั้ง 4 อย่างข้างต้น ใส่ลงในภาชนะ และคนส่วนผสมทั้ง 3 อย่างนี้ให้เข้ากัน เพราะจำให้แป้งละลายได้ง่าย ไม่จับกันเป็นเม็ด
– ต่อมาให้ไปตั้งบนเตา ใช้ไฟอ่อนนะครับ ให้คนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเดือด สำหรับขั้นตอนนี้ระวังอย่าให้ไหม้นะครับ
– เมื่อดูเวลาครบ 20 นาที ที่ข้าวเหนียวที่อยู่ในซึ้งตามขั้นตอนข้างต้น ให้เราเปิดฝาซึ้งดู จะเห็นเป็นข้าวเหนียวขาวเม็ดใสสม่ำเสมอกัน
– ต่อมาให้เทข้าวเหนียวขาวจากในซึ้งลงไปในภาชนะสำหรับมูน ซึ่งตรงนี้เราต้องเผื่อขนาดของภาชนะไว้ด้วยนะครับ เหตุเพราะข้าวเหนียวที่มูนแล้ว จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และเราควรเทข้าวเหนียวไว้ในด้านใดด้านหนึ่งของภาชนะ เพื่อความสะดวกในการตลบข้าวเหนียวนะครับ
– ถัดมา ให้เทกะทิตามลงไป และใช้ไม้พายกดข้าวเหนียวไปยังที่ว่างๆ ขั้นตอนนี้ระวังอย่าให้ข้าวเหนียวจับกันเป็นก้อนนะครับ
– ให้เรานำภาชนะมาปิดให้สนิทประมาณ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที และตลบข้าวเหนียวอีกรอบ และปิดฝาทิ้งไว้อีกประมาณ 10 นาที และตลบข้าวเหนียวอีกรอบ เป็นครั้งสุดท้าย

วิธีการทำข้าวเหนียวมะม่วง

– เมื่อขั้นตอนข้างต้นทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ตักใส่จานพร้อมเสริฟได้ แต่ตอนนี้ข้าวเหนียวมูนจะยังร้อนอยู่ ซึ่งกว่าเราจะปอกมะม่วงเสร็จ ข้าวเหนียวมูนก็อุ่นๆ กำลังดีพอทานครับ

สูตรวิธีการทำข้าวเหนียวมะม่วงสูตรที่ 2

ส่วนผสมการทำข้าวเหนียวมูน

– ข้าวสารเหนียว 1 กิโลกรัม
– น้ำตาลทราย 500 กรัม
– หัวกะทิ 500 กรัม
– สารส้มป่น 2 ช้อนชา
– เกลือป่น 1 ช้อนชา
– ใบเตย 4 ใบ

วิธีการทำข้าวเหนียวมูน

– เริ่มจากการซาวข้าวเหนียว แล้วให้เทน้ำทิ้ง
– ใส่สารส้มลงไป แล้วใช้มือขัดสารส้มกับข้าวเหนียวเบาๆ ให้ทั่วๆ
– เติมน้ำสะอาดให้พอท่วมข้าวเหนียว ให้แช่ที้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วเทน้ำทิ้ง
– เติมน้ำลงไปอีกครั้ง ให้พอท่วมข้าวเหนียว แช่ต่อไปอีกประมาณไม่เกิน 5 ชั่วโมง
– ตั้งซึ้ง และใส่น้ำลงไปให้มากหน่อย เพราะจะทำให้น้ำเดือดแรงระหว่างนึ่ง แต่ระวังอย่าให้น้ำมากเกินจนไป จะไปโดนข้าวเหนียวเวลาน้ำเดือด จะทำให้ข้าวเหนียวแฉะได้
– ต่อมาให้กรองเอาน้ำออก และเทข้าวเหนียวบนผ้าข้าวบาง
– เมื่อน้ำเดือดดีแล้ว ให้วางข้าวเหนียวใส่ลงในซึ้ง ปิดฝาไว้ให้แน่น นึ่งเอาไว้ 10 นาที
– เมื่อครบ 10 นาทีแล้ว ให้เปิดฝาออก ให้ใช้ทัพพี หรือไม้พายตักข้าวเหนียวด้านบนสลับไปด้านล่าง
– เสร็จแล้วปิดฝา นึ่งต่อไปอีก 10 นาที
– ช่วงระหว่างรอนึ่งให้ข้าวเหนียวสุก ให้เราเอาน้ำกะทิ ใส่เกลือป่น และน้ำตาลลงไป
– นำน้ำกะทิไปใส่หม้อ และให้เราเอาใบเตยลงไปขยำจนน้ำตาลละลาย
– ต่อมาให้ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ แค่พอให้น้ำกะทิเดือดเบาๆ ก็พอ ถ้าใช้ไฟแรงเดี๋ยวกะทิจะแตกมัน เสร็จแล้วยกลงพักไว้
– เมื่อข้าวเหนียวสุกแล้ว ให้นำขึ้นจากซึ้ง และนำข้าวเหนียวไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดสนิทได้ ใช้ทัพพี หรือไม้พาย แคะข้าวเหนียวออกมา
– เสร้จแล้วให้รีบเทน้ำกะทิ ที่เตรียมไว้ลงไป
– ใช้ทัพพี หรือไม้พายคนให้ทั่ว ปิดฝาให้สนิทไว้ 10 นาที
– เมื่อครบ 10 นาทีแล้ว เปิดฝาขึ้น และใช้ทัพพี หรือไม้พาย คนไปให้ทั่วอีกครั้ง เพื่อทำให้ข้าวเหนียวดูดน้ำกะทิ
– และให้อบต่ออีก 10 นาที และให้ทำซ้ำเช่นนี้อีกครั้ง จนกระทั่งน้ำกะทิแห้งไป ข้าวเหนียวจะดูดน้ำกะทิจนหมด เม็ดข้าวจะพองตัว ก็เป็นอันเสร้จเรียบร้อย

วิธีการทำข้าวเหนียวมะม่วง

– ก็ทุกอย่างเรียบร้อยก็ก็นำข้าวเหนียวมุนมาวางบนจาน พร้อมกับปอกมะม่วง นำมาวางไว้อย่างเรียบร้อย
– ราดน้ำกะทิหอมหวาน และถั่วทองโรยหน้าลงไป

ส่วนผสมการทำน้ำกะทิ

– กะทิ 1 ถ้วย
– เกลือป่น 1 ช้อนชา
– แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา

วิธีการทำน้ำกะทิ

– นำส่วนผสมทั้ง 3 อย่าง เทใส่ในหม้อให้หมด
– ให้คนให้เข้ากัน แล้วยกขึ้นตั้งไฟ
– พอไฟเดือดเบาๆ แล้ว ให้ปิดไฟ ยกลงจากเตา ก็เป็นอันเรียบร้อย

สูตรวิธีการทำข้าวเหนียวมะม่วงสูตรที่ 3

ส่วนผสมการทำข้าวเหนียวมูน

– ข้าวเหนียวขาว 500 กรัม
– ใบเตยฉีก และมัดเรียบร้อย ประมาณ 10 ใบ
– สารส้มโขลกละเอียด 1 ช้อนชา
– หัวกะทิคั้นสด 350 มิลลิลิตร
– น้ำสำหรับแช่ข้าวเหนียว
– น้ำตาลทราย 200 กรัม
– เกลือป่น 2 ช้อนชา

วิธีการทำข้าวเหนียวมูน

– วิธีการทำข้าวเหนียวมูน ให้เริ่มจากการซาวข้าวเหนียวจนสะอาด
– เสร็จแล้วใส่สารส้มลงไป บวกกับเติมน้ำเปล่าลงไปจนเห็นว่าท่วมข้าวเหนียวจึงหยุด
– นำมาคนผสมจนเข้ากัน ให้แช่ทิ้งเอาไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง
– ต่อมาให้เราล้างข้าวเหนียว ที่เอาแช่ไว้กับสารส้ม จนสะอาด ให้ข้าวเหนียวสะเด็ดน้ำ และพักไว้สักครู่
– ให้เราเทข้าวเหนียวลงไปในซึ้ง ตามด้วยใบเตยลงไป นำซึ้งไปวางลงในน้ำเดือด ให้นึ่งประมาณ 20 นาที ให้ข้าวเหนียวสุก
– ขั้นตอนต่อมา ให้ผสมน้ำตาลทรายเข้ากับหัวกะทิ และเกลือป่นลงในอ่างผสม คนจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
– เทข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วลงไป ให้คนผสมจนเข้ากัน
– พักเอาไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง เป็นอันเรียบร้อย

ส่วนผสมการทำข้าวเหนียวมะม่วง

– มะม่วงน้ำดอกไม้สุก
– ข้าวเหนียวมูน (ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว)
– กะทิ (เอาไว้สำหรับราดข้าวเหนียวมะม่วง)
– ถั่วเขียวซีกคั่ว

วิธีการทำข้าวเหนียวมะม่วง

– สำหรับขั้นตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ เนื่องจากเราทำข้าวเหนียวมูนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
– ให้เราตักข้าวเหนียวมูนร้อนๆ ใส่จาน และนำกะทิมาราดลงบนข้าวเหนียว และตามด้วยมะม่วงน้ำดอกไม้สุกที่ปอกแล้ว มาวางเคียงข้าง เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ

วิธีการทำถั่วทองโรยหน้า

– เริ่มจากให้นำเขียวถั่วซีก นำมาแกะเปลือก และต้มน้ำร้อนประมาณ 30 นาที
– จากนั้นนำถั่วขึ้นให้สะเด็ดน้ำ เกลี่ยให้หมาดๆ
– ต่อมาตั้งกระทะใส่น้ำมัน ตั้งไฟให้ร้อน เมื่อน้ำมันร้อนให้ใส่ถั่วลงไป
– ให้เราคั่วไปเรื่อยๆ ด้วยไฟอ่อนๆ จนถั่วดูเหลืองกรอบ ก็เป็นอันเรียบร้อย

เคล็ดลับการทำข้าวเหนียวมะม่วง

– สำหรับการซาวข้าวเหนียว ต้องซาวให้น้ำใส ซึ่งจะเป็นส่วนที่ทำให้ข้าวเหนียวมูนไม่เสียง่าย และเอาไว้ข้างนอก ไม่ต้องเข้าตู้เย็นได้ถึง 3 วัน
– ให้ใช้หัวกะทิทำข้าวเหนียวมูลเท่านั้น ถ้าเป็นกะทิกล่องไม่ต้องเติมน้ำเพิ่มอีก
– ให้คนข้าวเหนียวบ่อยๆ ประมาณสัก 3-4 รอบ ก็จะทำให้ข้าวเหนียวดูนุ่ม และเม็ดดูเรียวสวยเป็นมันเงา

วิธีการเลือกมะม่วงสุกสำหรับทำข้าวเหนียวมะม่วง

– มะม่วงสุกที่นิยมนำมาทำข้าวเหนียวมะม่วง คือ มะม่วงน้ำดอกไม้ และมะม่วงอกร่อง เหตุผลคือมะม่วง 2 พันธุ์นี้ มีรสหวานหอม
– การเลือกมะม่วงควรเลือกมะม่วงสุกที่มีผลอวบ และตามเปลือกมีรอยดำบ้างเล็กน้อย เพราะเราจะได้แน่ใจได้ว่ามะม่วงลูกนี้นั้นสุกเองตามธรรมชาติ
– วิธีดูว่ามะม่วงสุกได้ที่หรือยัง ให้ลองใช้นิ้วกดเบาๆ หากเนื้อมะม่วงยุบลงไปเล็กน้อยแสดงว่าสุกได้ที่แล้ว แต่ถ้ากดแล้วยังไม่ยุบ แสดงว่าเป็นมะม่วงที่โดนบ่มแก๊สให้ผิวเหลือง แต่เนื้อข้างในไม่สุก เนื้ออาจจะแข็งหรือมีรสเปรี้ยว ทำให้ทานแล้วไม่อร่อย

 

การขายข้าวเหนียวมะม่วง
 

การบรรจุกล่องข้าวเหนียวมะม่วง

– ให้บรรจุข้าวเหนียวมะม่วงในภาชนะบรรจุที่สะอาด ปิดได้สนิท และสามารถป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกที่อยู่ภายนอกได้ เช่น บรรจุข้าวเหนียวมะม่วงลงกล่องพลาสติก หรือกล่องโฟม จำเป็นต้องมีใบตอง หรือพลาสติกใสมารองด้วย เพื่อความสะอาดในการรับประทาน
– น้ำหนักสุทธิ หรือจํานวนชิ้นของมะม่วงในแต่ละภาชนะบรรจุต้องไม่น้อยกว่าที่ระบุไว้ที่ฉลาก

เครื่องหมาย และฉลากข้าวเหนียวมะม่วง

ที่ภาชนะบรรจุข้าวเหนียวมะม่วงทุกหน่วย อย่างน้อยต้องมีเลข อักษร หรือเครื่องหมายแจ้งรายละเอียดต่อไปนี้ ให้เห็นได้ง่าย ชัดเจน

– ชื่อผลิตภัณฑ์ เช่น ข้าวเหนียวมะม่วงแสนอร่อย ข้าวเหนียวมะม่วงหอมหวาน
– ส่วนประกอบที่สำคัญ
– น้ำหนักสุทธิ หรือจำนวนชิ้น
– วัน เดือน ปีที่ผลิต และวัน เดือน ปีที่หมดอายุุ หรือข้อความว่า “ควรบริโภคก่อน (วัน เดือน ปี) ”
– ข้อแนะนำในการเก็บรักษา เช่น ควรเก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
– ชื่อร้าน หรือบริษัท หรือสถานที่ทำ พร้อมสถานที่ตั้ง หรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน
– ในกรณีทีใช้ภาษาต่างประเทศ ต้องมีความหมายตรงกับภาษาไทยที่กำหนดไว้ข้างต้น

การขายข้าวเหนียวมะม่วง

ดังที่ได้บอกไว้ตอนต้นแล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงเป็นขนมไทยที่พบได้เกือบทุกตลาด และมีผู้ที่ทานอยู่มาก ดังนั้นโอกาสที่นำข้าวเหนียวมะม่วงมาขายที่ตลาดแล้วขาดทุน หรือเจ๊งนั้นมีอยู่น้อยครับ และเราก็ต้องดูว่าในตลาดที่เราจะไปเช่าที่ มีร้านไหนขายข้าวเหนียวมะม่วงบ้าง แล้วขายดีมั้ย ผมแนะนำว่าให้เราไปขายข้าวเหนียวมะม่วงในตลาดที่ไม่มีร้านที่ขายข้าวเหนียวมะม่วงครับ ซึ่งเราจะทำผลกำไรได้มากกว่าการไปแบ่งส่วนการตลาดกับเค้า หรือถ้าเราจะสู้ก็ลองดูครับ ลองหาวิธีการตลาดต่างๆ

หรือถ้าใครมีทุนเยอะหน่อย จะลองเช่าพื้นที่ตึกแถว เปิดร้านขายข้าวเหนียวมะม่วง มีโต๊ะ มีเก้าอี้ ให้แขกนั่ง เปิดเหมือนร้านขายข้าวแกงเลยครับ ตั้งชื่อร้านให้เสร็จสรรพ ร้านนี้ขายแต่ข้าวเหนียวมะม่วง หน้าร้านก็ขายข้าวเหนียวมะม่วง ส่วนหลังร้านก็ทำข้าวเหนียวมูน พร้อมกับผลมะม่วงไว้ขายส่ง เพื่อเพิ่มผลกำไรทางการตลาด สำหรับข้าวเหนียวมะม่วงก็เป็นขนมไทยที่ต้องขายวันต่อวัน ซึ่งข้าวเหนียวมูนเป็นสิ่งที่ต้องทำไว้ทุกวันอยู่วัน ส่วนมะม่วง ลูกค้ามาแล้วค่อยปอก จะได้ดูสดใหม่ครับ

สำหรับการตกแต่งภายในร้าน ให้พยายามแต่งโทนเหลืองๆ เขียวๆ เข้าไว้ สีให้เข้ากับมะม่วงที่เราขาย และพยายามหาโปสเตอร์มาแปะตามผนังของแต่ละโต๊ะ บรรยายประโยชน์และสรรพคุณของมะม่วงว่าดีเพียงใด ให้ลูกค้าได้อ่านพลางๆ ระหว่างรอเราทำข้าวเหนียวมะม่วง

นี่ก็เป็นรายละเอียดคร่าวๆ นะครับ สำหรับการเปิดร้านขายข้าวเหนียวมะม่วง จริงๆ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก ที่เราต้องไปศึกษา ทำทั้งที ทำให้ดี ทำให้สุดๆ ไปเลยครับ สร้างร้านสร้างแบรนด์ให้ดัง ให้อยู่ในธุรกิจนี้ได้อย่างยาวๆ ครับ

ผมก็ขอให้เปิดร้านขายข้าวเหนียวมะม่วงขายดิบขายดี ร่ำรวยกันทุกท่านครับ

error: Content is protected !!