สูตรเค้กกล้วยหอม สูตร 1 (คัฟเค้ก)
ส่วนผสมเค้กกล้วยหอม
– แป้งเค้ก (ในสูตรนี้เราใช้แป้งพัดโบกครับ) 180 กรัม
– แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
– ผงฟู 3/4 ช้อนชา
– เบคกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
– น้ำตาลทรายป่น 180 กรัม
– เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
– น้ำมันพืช 170 กรัม
– ไข่ไก่เบอร์ 0 2 ฟอง
– กลิ่นกล้วยหอม 1 ช้อนชา
– กล้วยหอมสุกงอม ( ยิ่งเปลือกดำยิ่งดี ) 200 กรัม
– นมข้นจืด กรัม
– โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 30 กรัม
– น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีการทำเค้กกล้วยหอม
1. วอร์มเตาให้อุณหภูมิคงที่ ที่ 200 องศาเซลเซียส ไฟบนล่างนะครับ ( ที่บ้านเราใช้เตาอบแบบแก๊สครับ ใครที่ใช้แบบไฟฟ้า ไม่ต้องเปิดพัดลมนะครับ )
2. เตรียมส่วนผสมของแห้งโดยนำแป้งพัดโบก แป้งข้าวโพด ผงฟูและเบคกิ้งโซดา ร่อนผสมเข้าด้วยกัน ในถาดที่ปูกระดาษรองอบ นำไปผึ่งแดดประมาณ 30 นาที ( อันนี้เป็นเทคนิคที่คุณแม่ให้มานะครับ มันช่วยให้แป้ง เบา นุ่มและฟูมากๆ ครับ )
3. นำเกลือและน้ำตาลทรายป่น ผสมลงในส่วนผสมของแป้งที่เตรียมไว้เทลงในชามผสมใบใหญ่แล้วพักไว้ ( น้ำตาลที่เราใช้เราป่นเองนะครับ ไม่ได้ใช้น้ำตาลไอซิ่งสำเร็จรูปเพราะน้ำตาลไอซิ่งมีส่วนผสมของแป้งอยู่ด้วยครับ สูตรนี้เราใส่แป้งข้าวโพดไปแล้ว )
4. นำกล้วยสุก นมข้นจืด โยเกิร์ตและน้ำมะนาวที่เตรียมไว้ใส่เครื่องปั่น ปั่นผสมกันจนละเอียดเข้ากันดี พักไว้ (ใครที่ชอบแบบที่ เวลาทานมีเนื้อกล้วยปน ไม่ต้องปั่นจนละเอียดก็ได้ปั่นแค่นิดหน่อยพอ)
5. นำไข่ไก่และน้ำมันพืชที่เตรียมไว้ เทในชามผสมใบเล็ก คนเบาๆให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ
6. เทส่วนผสมของไข่และน้ำมันพืช ลงในส่วนของแห้งที่เตรียมไว้ในชามผสมใบใหญ่ คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ จนส่วนผสมเข้ากันดี
7. ค่อยๆเทส่วนผสมของกล้วย ลงในชามผสม เราแบ่งเป็น 2 ส่วนเททีละครึ่ง คนจนเข้ากัน เทส่วนที่เหลืออีกครึ่งลงไปครั้งนี้ตะล่อมเบาๆ นะครับ จนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
8. เตรียมถ้วยกระดาษใส่พิมพ์เตรียมอบ
9. นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ ใส่ถุงบีบ ค่อยๆหยอดใส่ถ้วยกระดาษที่เตรียมไว้ 2/3 ของถ้วย
10. นำเข้าเตาอบที่วอร์มอุณหภูมิไว้ 200 องศาเซลเซียส อบนาน 10 นาที แล้วลดอุณหภูมิลงเหลือ 180 องศาเซลเซียส จนเค้กสุก ( รวมเวลานานประมาณ 15-18 นาที )
11. นำเค้กออกจากเตา พักไว้จนเกือบเย็น ยกถ้วยกระดาษออกจากพิมพ์ พักไว้บนตะแกรงจนเย็น
เท่านี้ก็ยกเสิร์ฟ พร้อมทานได้เลยนะครับ
สูตรเค้กกล้วยหอม สูตร 2 ( เค้กกล้วยหอมโฮลวีท )
ส่วนผสมเค้กกล้วยหอม
1. แป้งโฮลวีท 1 ¾ ถ้วยตวง
2. ซินเนมอนผง (อบเชย ) 1/2 ช้อนชา
3. เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
4. น้ำร้อน 1/4 ถ้วยตวง
5. น้ำมันพืช (เราใช้น้ำมันเมล็ดทานตะวันครับ) 3/4 ถ้วยตวง
6. ไข่ไก่เบอร์ 0 2 ฟอง
7. น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วยตวง
8. กล้วยหอมสุก 3 ลูก
9. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
10. เกลือ 1/2 ช้อนชา
11. กลิ่นกล้วยหอม/กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
12. เมล็ดอัลมอนด์ สับหยาบ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ
13. ลูกเกดดำและขาว ผสมกัน 1- 2 ช้อนโต๊ะ
14. เมล็ดทานตะวันกะเทาะเปลือก 1 -2 ช้อนโต๊ะ
15. เมล็ดฟักทองกะเทาะเปลือก 1 – 2 ช้อนโต๊ะ
( ข้อ 11-14 ใครจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้นะครับ ไม่ว่ากัน แต่เราชอบเลยใส่ไปเลยอร่อยดี )
วิธีการทำเค้กกล้วยหอม
1. วอร์มเตาไว้ที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียสนะครับ ( ใช้ไฟร้อนกว่านี้ข้างนอกจะไหม้ แล้วข้างในจะไม่สุกครับ )
2. กล้วยหอม 3 ลูกที่เตรียมไว้ มาบดหยาบๆนะครับ จะได้ประมาณ 1 ถ้วยตวง แล้วใส่น้ำมะนาวคนผสมกันพักไว้ ( น้ำนะมาวจะช่วยให้กล้วยหอมไม่ดำครับ สีของขนมจะได้ไม่เข้มมาก)
3. เทน้ำมันดอกทานตะวันลงในชามผสมตามด้วยน้ำผึ้งและใส่ไก่ลงไป คนผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
4. นำกล้วยหอมที่เตรียมไว้ เทผสมลงไปชามผสมเลยครับ
5. ตามมาด้วยเกลือ กลิ่นวานิลาหรือกลิ่นกล้วยก็ได้นะครับ แล้วก็ผงซินเนมอน คนจนเข้ากัน
6. ทีนี้มาถึงตานางเอกของเราครับ “แป้งโฮลวีท” ใส่ตามลงไปเลยครับ อ้อ ! ลืมบอกไป แป้งที่เราใช้มีข้าวโอ๊ตผสมอยู่แล้วถ้าของใครไม่มีจะใส่เพิ่มก็ได้นะครับ คนๆจนเข้ากัน แป้งจะหนืดๆ ไม่ต้องตกใจไปครับ
7. ต่อไปเราก็เอาน้ำร้อนที่เตรียมไว้ผสมกับเบคกิ้งโซดา แล้วเทลงไปในชามผสมที่มีแป้งหนืดๆอยู่เลยนะ ค่อยๆตะล่อมๆคนอย่างเบามือครับ เนื้อเค้กจะได้ไม่แน่นมาก
8. สุดท้ายนำเมล็ดฟักทอง อัลมอนด์สับหยาบ ลูกเกดและเมล็ดทานตะวันที่เตรียมไว้ใส่ลงไปครับ ค่อยๆตะล่อมนะครับ เน้นว่า!…ค่อยๆ ครับ (ลืมบอกไปอีกอย่าง ลูกเกดก่อนเอามาใช้ เราเอาแช่น้ำพักนึงครับ เวลาอบแล้วลูกเกดจะนุ่มๆฟูกว่าแบบไม่แช่น้ำนะครับ)
9. เตรียมพิมพ์อบขนมเค้ก เราใช้พิมพ์ขนมปังขนาด 12 นิ้ว ทาด้วยน้ำมัน แล้วเทเค้กที่เราเตรียมไว้ใส่ลงไปเลยครับ (แอบเอาน้ำมันกรีดเป็นแนวยาวบนเนื้อเค้ก เวลาอบหน้าจะแตกเราชอบครับ น่ากิน )
10. เอาเค้กเข้าเตาอบ ที่วอร์มไว้แล้ว อบนานประมาณ 30-45 นาทีเลยครับ (ของเราอบที่ 40 นาทีครับ เราไม่ชอบเนื้อเค้กแห้งๆเท่าไร )
11. พอสุกแล้วเอาพักไว้ในพิมพ์จนเย็นครับ สูตรนี้ไม่ต้องเอากระดาษรองอบก็ได้ครับเพราะเนื้อเค้กจะไม่นุ่มมากและร่อนออกเองได้ เอาออกจากพิมพ์ง่ายครับ…แค่นี้ ก็เสร็จแล้วล่ะครับ สาวๆที่รักษาหุ่นก็ทานได้นะครับ ไฟเบอร์เยอะเชียวครับ อร่อย อยู่ท้อง ลองทำกันดูนะครับ