ถ้าจะพูดถึงเรื่องการออมเงินคืออะไร หรือการออมเงินหมายถึงอะไร ส่วนใหญ่แล้วเราจะรู้จักความหมายในคำๆ นี้ เป็นอย่างดี ต่างคนก็อาจจะต่างทฤษฎีกันไป ตามแต่ว่าแต่ละท่านใช้วิธีไหนแล้วได้ผล บางท่านต้องใช้ทฤษฎีการออมเงินแบบเจ้าของกิจการ บางท่านต้องใช้ทฤษฎีการออมเงินแบบพนักงาน เพราะต่างอาชีพต่างวิธีการ บางท่านก็ไม่มีทฤษฎีการออมเงิน เก็บเงินออมเงินแบบตามใจฉัน มีก็เก็บ ไม่มีก็เก็บ ก็หลากหลายวิธีกันไปครับ
แต่ถ้าจะอธิบายกันเชิงทฤษฎีแล้ว การออมเงินคือ ส่วนต่างของรายได้และรายจ่ายที่เกิดขึ้น ณ ช่วงเวลาหนึ่งๆ หรือ รายได้ลบรายจ่ายเท่ากับเงินออม อาจกล่าวได้ง่ายๆ ว่า เงินออมเป็นเงินรายได้ที่เหลือจากค่าใช้จ่ายแล้วนำมาเก็บสะสมทีละเล็กที่ละน้อยให้เพิ่มขึ้นขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
สำหรับท่านที่รู้จักการเก็บเงินออมเงินในวันนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เพราะการออมเป็นการยอมเสียสละที่จะไม่ใช้จ่ายในวันนี้ แต่เลือกที่จะเก็บสะสมเงินเพื่อใช้จ่ายในวันข้างหน้า ทำให้เงินทองทรัพย์สินของท่านเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าจะว่าไปแล้ว คนรวยส่วนใหญ่นั้น เค้าไม่ได้ร่ำรวยมีเงินทองมาเพราะมีโชคอย่างการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลใหญ่ หรือส่งรายการชิงโชคต่างๆ แล้วแจ๊คพอตได้เงินล้าน หรือชีวิตเกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่คนรวยเหล่านั้นนั้นเขามีความคิดที่จะรู้จักการเก็บหอมรอมริบ ผสมเล็กผสมน้อย และรู้จักการวางแผนการใช้เงิน เพราะฉะนั้นความสามารถในการออมจะมากน้อยเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับความสามารถในการเพิ่มรายได้ และหาวิธีการลดรายจ่ายของแต่ละบุคคล
ยกตัวอย่างการออมเงิน เช่น เดือนนี้คุณมีรายได้ 20,000 บาท มีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจำนวน 15,000 ดังนั้นคุณจะมีเงินเหลือ 5,000 บาท และหากคุณตัดสินใจไม่ใช้จ่ายเงินที่เหลือนี้ แต่นำไปเก็บออมเดือนละ 5,000 บาท ต่อไปเรื่อยๆ ลองคิดดูว่าเมื่อครบหนึ่งปีคุณจะมีเงินออมทั้งสิ้น ถึง 60,000 บาท 10 ปีก็ได้ 600,000 บาท 20 ปี ก็ได้ 1,200,000 บาท นี่ไม่นับรวมถึงในอนาคตเงินเดือนคุณอาจจะเพิ่มขึ้น การเก็บออมของคุณอาจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
อาจะมีหลายท่านบอกว่า ทุกวันนี้หาเงินก็แทบจะไม่พอใช้อยู่แล้ว จะให้ไปหาเงินออมมาจากที่ไหน เราก็ต้องมองไปว่าในเดือนๆ หนึ่ง เราใช้จ่ายเงินไปกับเรื่องใดบ้าง เอาเฉพาะที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ ส่วนที่สัพเพเหระมีอะไรบ้างที่เราอดใจไม่ได้ที่จะต้องนำเงินมาใช้ เพราะเงินทองไม่สามารถเดินออกไปเอง ถ้าเราไม่ใช้มัน อยู่ที่ว่าเราจะรู้จักหา และเก็บออมเงินอย่างไร
การออมเงินคืออะไร เราก็ได้กล่าวไปแล้ว เราจะมากล่าวถึงข้อดีการออมเงินบ้างดีกว่า การออมเงินสามารถสร้างความเป็นอยู่ฐานะด้านการเงินในอนาคตให้ดีขึ้น ทำให้เรามีเงินไปลงทุนในด้านต่างๆ และที่สำคัญที่สุด ทำให้เราไม่เป็นหนี้ ซึ่งถ้าเราอยากออมเงินให้ได้ทุกเดือน เราจะต้องมีจุดมุ่งหมายในการออม เช่น ตั้งเป้าหมายไว้ว่า เราจะต้องมีบ้าน หรือคอนโด เป็นของตนเองในอนาคตให้ได้ และเงินออมจะทำให้เป้าหมายของเราเป็นจริงได้ และเงินออมยังมีประโยชน์ในยามฉุกเฉิน เช่น ยามเจ็บป่วย หรือในคราวที่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนจริงๆ เงินออมตรงนี้ก็จะถูกออกนำมาใช้ได้
การที่เรามีเป้าหมายในชีวิตไว้อย่างแน่นอน ที่จะต้องใช้เงินไปเติมเต็มในสิ่งนั้น จะทำให้เราเกิดความกระตือลือล้นในการออมเงินเป็นอย่างมาก ซึ่งเป้าหมายของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปตามความฝันของแต่ละคน บางคนอาจจะไม่อยากได้ บ้าน หรือคอนโด เพราะมีแล้ว อาจจะอยากต้องการการศึกษาที่สูงขึ้นไป หรือบางท่านอยู่วัยเกษียณแล้ว เก็บเงินมาทั้งชีวิต ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ก็อาจจะนำเงินนั้นมาตั้งกองทุนการกุศล ไปบริจาคให้แก่ผู้ที่ด้อยโอกาสทางสังคม หรือบริจาคเข้างานบุญต่างๆ เงินออมตรงนี้ก็มีส่วนช่วยท่านได้
ส่วนเรื่องของการออมเงินที่จะออมอย่างไรนั้น ในปัจจุบันมีอยู่หลายวิธีที่เราจะสามารถเลือกใช้ในการออมเงินได้ ไม่ว่าจะเป็นการฝากประจำ และไม่ประจำกับทางธนาคาร หรือเลือกที่จะออมเงินไว้ที่ตัวเราเองก็ได้ แต่วิธีนี้เราต้องมีระเบียบวินัยที่สูงในการออม เพราะเงินอยู่ใกล้ตัว เราสามารถนำออกมาใช้จ่ายได้ตลอดเวลา
จุดเริ่มต้นของการออม ให้ถือว่าเงินออมเป็นรายจ่ายส่วนหนึ่งที่ต้องชำระทุกๆ สิ้นเดือน เป็นการบังคบตัวเองนิดหนึ่ง แต่การอดเปรี้ยวไว้กินหวานย่อมเป็นผลดีกับตัวเองเสมอครับ
สำหรับวิธีการออมเงินแบบต่างๆ ในเว็บนี้ก็มีหลายๆ บทความเกี่ยวกับการออมเงินให้ท่านผู้อ่านได้ลองอ่านกัน เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ทางการออมเงินครับ